เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในงานงานซานดิเอโกคอมิกคอน (San Diego Comic-Con) ประจำปี 2024 Marvel Studios ได้ปล่อยเซอร์ไพรส์ลูกใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุค Multiverse Saga ของ MCU (Marvel Cinematic Universe) ให้แฟน ๆ ได้กรี๊ด 1 ในนั่นก็คือการกลับคืนสู่เหย้าของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) นักแสดงที่ปิดตำนานบทบาท Tony Stark หรือ Iron Man ไปแล้วใน ‘Avengers: Endgame’ (2019)

แต่คราวนี้ ดาวนีย์ จูเนียร์กลับมาในบทบาท วิกเตอร์ วอน ดูม (Victor Von Doom) หรือด็อกเตอร์ดูม (Doctor Doom) ที่แม้ว่าจะเคยมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความคาดไม่ถึงของแฟน ๆ ได้ พร้อมกับการกล่าวถึงตัวละครนี้หลังจากถอดหน้ากากว่า “หน้ากากใหม่ ภารกิจเดิม ที่ผมอยากบอกก็คือ ผมชอบรับบทคาแรกเตอร์ที่มีความซับซ้อน”

แต่การตัดสินใจกลับมารับบท Doctor Doom ของดาวนีย์ จูเนียร์ไม่ได้เกิดขึ้นภายในฉับพลัน แต่เป็นเรื่องภายในที่มีการคุยกันมาอย่างยาวนานนับปี ในวาระที่ดาวนีย์ จูเนียร์ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงสมทบชาย ประเภทลิมิเต็ดซีรีส์ ซีรีส์จบในตอน หรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม จากเวที Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 75 ที่กำลังจะประกาศผลในเดือนกันยายนนี้ จากการรับบทวายร้ายหลายหน้าในซีรีส์ ‘The Sympathizer’ ของ HBO

Robert Downey Jr. Doctor Doom

เขาได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios ชักชวนให้เขากลับคืนสู่เหย้า MCU อีกครั้งในพอดแคสต์ Awards Chatter ของ The Hollywood Reporter แม้ว่าเขาและ ซูซาน ดาวนีย์ (Susan Downey) ภรรยาและโปรดิวเซอร์จะเข้าใจว่า ตัวละคร Tony Stark ของเขาจะกลายเป็นตำนานไปแล้วก็ตาม

“ผมว่าน่าจะสักประมาณปีที่แล้ว เนื่องจากว่าเควินกับผมยังติดต่อกันอยู่ รวมถึง จอน ฟาฟโรว์ (Jon Favreau, ผู้กำกับ ‘Iron Man’ (2008), ‘Iron Man 2’ (2010) และเจ้าของบทบาท แฮปปี้ โฮแกน) ทั้งผม, ไฟกี และฟาฟโร เรายังคงติดต่อกันอยู่เรื่อย ๆ”

“เขา (ไฟกี) บอกกับผมว่า ‘ถ้าคุณจะกลับมา ผมยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลาเลยนะ…’ แล้วซูซานก็ถามว่า ‘เดี๋ยว เดี๋ยวนะ…จะให้เขากลับมาในบทอะไรนะ ?'”

ดาวนีย์ จูเนียร์ยังเล่าเพิ่มเติมว่า เขาและไฟกียังได้พูดคุยหารือกันเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการที่เขาจะกลับมารับบทนี้ และด้วยคำพูดนี้เอง จึงเป็นการยืนยันแบบกลาย ๆ ว่า เขาจะกลับมารับบท Doctor Doom จริง ๆ ที่ไม่ใช่ตัวแปรของ Tony Stark อย่างที่เคยมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้

“ไฟกีเป็นนักคิดที่สร้างสรรค์และซับซ้อนมาก เราคุยกันว่าจะทำยังไงไม่ให้มันถอยหลัง ? เราจะทำยังไงเพื่อไม่ให้ผู้คนเขาผิดหวัง ? เราจะทำยังไงเพื่อเอาชนะความคาดหวังเดิม ๆ ที่มีอยู่ แล้วเขาก็พูดถึง Victor Von Doom ผมเลยลองไปศึกษาตัวละครตัวนี้ และตอนหลังเขาก็บอกกับผมว่า ‘เรามาทำให้ Victor Von Doom มันออกมาถูกต้องกันเถอะ'”

หลังปิดตำนานบทบาท Tony Stark หรือ Iron Man ใน ‘Avengers: Endgame’ ไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ดาวนีย์ จูเนียร์ได้กลับมาสู่จักรวาล MCU อีกครั้งในบทบาท Doctor Doom ที่ตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่า ตัวละคร Doctor Doom อาจปรากฏตัวครั้งแรกในฉากท้ายเครดิตของ ‘The Fantastic Four: First Steps’ และจะมีบทบาทสำคัญในฐานะวายร้าย ประจำ Saga ในหนังครอสโอเวอร์ ‘Avengers: Doomsday’ และ ‘Avengers: Secret Wars’ ซึ่งจะได้พี่น้องรุสโซ (Russo Brothers) ผู้กำกับหนัง Avengers ในยุค Infinity Saga กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง

Robert Downey Jr. Doctor Doom

นอกจากการพูดคุยกับไฟกี อีกคนที่เขาอยากพูดคุยด้วยก็คือ บ็อบ ไอเกอร์ (Bob Iger) CEO คนปัจจุบันของ The Walt Disney Company แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ไอเกอร์เองก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วด้วยเหมือนกัน

“จากนั้นผมก็ถามเควินว่า ‘ผมสามารถไปคุยเรื่องนี้กับ บ็อบ ไอเกอร์ ได้ไหม’ เขาถามว่า ‘มันเกี่ยวกันยังไง’ ผมเลยตอบว่า ‘มันเกี่ยวกับทุกเรื่องนั่นแหละ’ ผมมีสัญชาตญาณขึ้นมาว่าอยากจะไปหา บ็อบ ไอเกอร์ และผมก็มีไอเดียที่นอกเหนือไปจากจักรวาลของหนัง ว่าจะสามารถทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในสวนสนุกได้อย่างไร”

“ผมไม่รู้จะบรรยายประสบการณ์นั้นยังไงเลย ผมมีประสบการณ์เจ๋ง ๆ เยอะมาก เราไปที่บ้านของไอเกอร์และนั่งลง ผมเริ่มพูดว่า ‘ผมอยากจะเป็น…’ แล้วเขาก็บอกว่า ‘ผมชอบนะ…’ เขาชอบมันครับ”

ไอเกอร์ยังได้นัดให้เขาและไฟกีไปเยี่ยมชม Imagineering Campus หรือแผนกสร้างสรรค์ วิจัย และพัฒนาเครื่องเล่นให้กับสวนสนุก Disneyland เพื่อให้ดูโปรเจกต์ใหม่ นั่นก็คือการให้ดาวนีย์ จูเนียร์ กลับมารับบท Tony Stark อีกครั้งในเครื่องเล่น Avengers Campus ที่จะพาผู้เล่นไปผจญภัยในโลกของ MCU และต่อสู้กับราชาธานอส (King Thanos) ในสวนสนุก Disneyland ซึ่งมีการเปิดตัวในงานอีเวนต์ D23 ของ Disney ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

“เขาบอกว่า แวะมาที่ Imagineering Campus หน่อยสิ ไฟกีกับผมเลยไปที่นั่น และผมกำลังพูดถึงคน 2 คนที่ไม่ได้ง่ายที่จะทำให้ประหลาดใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาเดียวกัน มันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายที่ผมคิดว่าจะเป็นไปได้มาก ๆ”

“ผมเองคงพูดอะไรเรื่องนี้มากไม่ได้ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้มันเกินความคาดหมายของผมไปมาก ไม่แปลกใจเลยที่มันจะทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผม และมันยังเป็นวิธีเดียวที่ผมจะสามารถมอบประสบการณ์บางอย่างให้กับผู้ชมที่ต้องการแสวงหาความบันเทิงให้กับกลุ่มผู้ชมที่อยากสัมผัสประสบการณ์ ในแบบที่ผมจะสามารถพัฒนาความสนใจในอนาคตของวงการบันเทิงของผมต่อไปได้ด้วย”