Variety ได้รายงานว่า ‘Deadpool & Wolverine’ ได้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ MCU (Marvel Cinematic Universe) ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้มากที่สุด โดยทำรายได้ทั่วโลกอย่างมหาศาลถึง 1,211.3 ล้านเหรียญ จากการฉาย 30 วัน (ประมาณ 4 สัปดาห์) จากทุนสร้างไป 200 ล้านเหรียญ และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 11 ของจักรวาล MCU ที่ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ

รายได้ดังกล่าวเทียบเท่ากับ ‘Iron Man 3’ (2013) ที่ทำไว้ 1,215 ล้านเหรียญ และหากทำได้เพิ่มอีก 160 ล้านเหรียญ ก็จะเทียบเท่ากับ ‘Black Panther’ (2018) ที่ทำไว้ 1,375 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังมีลุ้นเบียดขึ้นอันดับที่ 5 ของ MCU แทน ‘Avengers: Age of Ultron’ (2016) ที่ทำไว้ 1,405 ล้านเหรียญ ก็เป็นได้

รายชื่อภาพยนตร์ในจักรวาล MCU ที่ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ มีดังนี้

อันดับที่เรื่องรายได้รวมทั่วโลก
1Avengers: Endgame (2019)2,799 ล้านเหรียญ
2Avengers: Infinity War (2018)2,052 ล้านเหรียญ
3Spider-Man: No Way Home (2021)1,928 ล้านเหรียญ
4The Avengers (2012)1,520 ล้านเหรียญ
5Avengers: Age of Ultron (2016)1,405 ล้านเหรียญ
6Black Panther (2018)1,375 ล้านเหรียญ
7Iron Man 3 (2013)1,215 ล้านเหรียญ
8Deadpool & Wolverine (2024)1,211 ล้านเหรียญ
9Captain America: Civil War (2016) 1,155 ล้านเหรียญ
10Spider-Man: Far from Home (2019)1,138 ล้านเหรียญ
11Captain Marvel (2019) 1,131 ล้านเหรียญ
Deadpool & Wolverine

‘Deadpool & Wolverine’ เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 34 ของ MCU และเป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกของจักรวาลนี้ ซึ่งเป็นการนำตัวละคร X-Men เข้าสู่จักรวาล MCU อย่างเป็นทางการ โดยตัวภาพยนตร์ยังได้กลายเป็นภาพยนตร์เรต R ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลด้วย แซงหน้า ‘Joker’ (2019) ที่ทำไว้ 1,079 ล้านเหรียญ

รายได้ดังกล่าวของ ‘Deadpool & Wolverine’ ยังเป็นการกระตุ้นจักรวาล MCU ให้กลับมาได้รับความความสนใจอีกครั้ง ภายหลังจากภาพยนตร์ก่อนหน้านี้อย่าง ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ (2023) ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 476 ล้านเหรียญ รวมถึง ‘The Marvels’ (2023) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 206 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ขาดทุนมากที่สุดในปี 2023 และทำรายได้น้อยสุดในประวัติศาสตร์ของ MCU