1 ในมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของฮอลลีวูดที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ มิตรภาพของนักแสดงคู่หูคู่ฮา อดัม แซนด์เลอร์ (Adam Sandler) และ ร็อบ ชไนเดอร์ (Rob Schneider) ที่เคยมีผลงานการแสดงในหนังคอเมดีร่วมกันมาเกือบ ๆ 20 เรื่อง ที่แม้ว่าหลาย ๆ ผลงานในยุคหลัง ๆ ของพวกเขาจะโดนคำวิจารณ์ในแง่ลบเยอะไปหน่อย (ยิ่งตอนที่แซนด์เลอร์เซ็นสัญญาทำหนังกับ Netflix นี่ยิ่งแล้วใหญ่) แต่ในชีวิตจริง ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่สนิทสนมและส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างแน่นแฟ้นกว่าที่ใครจะคิด

ในวาระที่แซนด์เลอร์ได้เปิดตัวโชว์ Stand-Up Comedy ล่าสุดกับ Netflix ที่ใช้ชื่อง่าย ๆ ว่า ‘Adam Sandler: Love You’ โดยในงานปฐมทัศน์ที่นิวยอร์ก ชไนเดอร์ วัย 60 ปี ได้พูดถึงมิตรภาพของเขาที่มีต่อเพื่อนซี้วัย 57 ปี ที่ยังคงเหนียวแน่นมากว่า 3 ทศวรรษกับนิตยสาร People ที่เขายืนยันด้วยกิจวัตรสานต่อมิตรภาพที่เพื่อนซี้ของเขายังคงทำมาโดยตลอด นั่นก็คือเรื่องง่าย ๆ อย่างการโทรศัพท์ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ

Adam Sandler Rob Schneider Grown Ups

“ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสักสัปดาห์ที่เขาไม่ติดต่อหาผมเลยจริง ๆ นะ ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนในโลก เขาจะโทรหาผม บางครั้งเขาก็จะโทรมาหาผมกลางดึก บางทีเขาก็โทรมาจากอิตาลีเพื่อจะถามผมว่า ‘นายกำลังทำอะไรอยู่วะ ?’ ผมตอบไปว่า ‘แต่ตอนนี้มันตี 2 แล้วนะโว้ย’ แล้วเขาก็บอกว่า ‘ตื่นขึ้นมา ฉันอยากคุยกับนายว่ะ นายโอเคไหมวะ ?'”

มิตรภาพของแซนด์เลอร์และชไนเดอร์ เริ่มต้นเมื่อตอนช่วงที่พวกเขากำลังไต่เต้าเข้ามาเป็นนักแสดงตลก ก่อนที่ในช่วงทศวรรษ 1990 ทั้งคู่จะได้ร่วมงานกันในรายการ Saturday Night Live ทั้งคู่ได้ร่วมแสดงหนัง ‘The Waterboy’ (1998) เป็นเรื่องแรก ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ร่วมแสดงในหนังอีกหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ ’50 First Dates’ (2004), ‘Click’ (2006), ‘I Now Pronounce You Chuck & Larry’ (2007), ‘Grown Ups’ (2010)

ปี 1999 แซนด์เลอร์เปิดบริษัทโปรดักชันของตัวเองในชื่อ Happy Madison Productions ที่เป็นการผสมจากชื่อหนังของเขาทั้ง ‘Happy Gilmore’ (1996) และ ‘Billy Madison’ (1995) เข้าด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะผลิตหนังที่เขาแสดงแล้ว เขายังรับหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้กับหนังของชไนเดอร์ด้วย งานของชไนเดอร์กับค่ายนี้ที่ดังที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ‘Deuce Bigalow: Male Gigolo’ (1999) ที่ทำให้ชไนเดอร์ติดภาพคาแรกเตอร์ ดิวซ์ บิ๊กกะโล่ อดีตไซด์ไลน์และนักทำความสะอาดอาควาเรียม ที่ต้องเข้าไปพัวพันคดีฆาตกรรม

นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังคงมีผลงานร่วมภายใต้สตูดิโอคนตีกอล์ฟกระจกแตกอีกนับไม่ถ้วน ยกตัวอย่างอาทิ ‘The Hot Chick’ (2002), ‘Grown Ups’ (2010), ‘Jack and Jill’ (2011) ฯลฯ ผลงานชิ้นล่าสุดที่ทั้งคู่แสดงร่วมกันก็คือ ‘Hubie Halloween’ (2020) หนังตลกสยองขวัญของ Netflix

หลังจากที่แซนด์เลอร์ และ Happy Madison Productions ได้เซ็นสัญญาผลิตหนังกับทาง Netflix และที่ผ่านมาก็มีผลงานออกมาแล้วหลายเรื่อง ล่าสุด Netflix ได้ประกาศว่าจะมีการสร้างภาคต่อ ‘Happy Gilmore’ หนังตลกกีฬาที่ว่าด้วยเรื่องของกิลมอร์ อดีตนักกีฬาฮอกกี้หัวร้อนที่ล้มเหลวในเส้นทางอาชีพ ที่ผันตัวและไปไกลในฐานะนักกีฬากอล์ฟ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการประกาศว่า ทราวิส เคลซี (Travis Kelce) นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) จะมาปรากฏตัวในบท Cameo ของหนังเรื่องนี้ด้วย

แซนด์เลอร์กล่าวถึงการกลับมาของภาคต่อที่เคยประสบความสำเร็จเรื่องนี้ว่า “ผมตื่นเต้นมาก ๆ ครับ น่าจะเป็นความตื่นเต้นที่สุดที่ผมเคยมีในหลายปีมานี้ ตอนที่ผมจะได้ถ่ายทำอะไรสักอย่าง “มีหลายคนบอกผมมานานแล้วแหละว่า ‘ทำ ‘Happy Gilmore 2′ เถอะ’ และผมก็มักจะตอบว่า ‘ไม่ล่ะ ผมคงทำให้คุณผิดหวังแน่ ๆ’ แต่หลังจากนั้นผมกับเพื่อน ทิม เฮอร์ลีย์ (Tim Herlihy, ผู้เขียนบทร่วมกับแซนด์เลอร์ในภาคแรก) ก็คิดไอเดียขึ้นมาได้ เราตื่นเต้นกันมาก ๆ เราเขียนบทกันอย่างหนัก และเรายังคงพยายามทำให้มันเป็นหนังที่คุณจะต้องชอบ”

Adam Sandler Rob Schneider 50 First Dates

แม้ว่าชไนเดอร์จะไม่เคยร่วมงานในหนังเรื่องนี้มาก่อน แต่เขาก็แอบแง้มถึงโอกาสที่คู่หูคู่ฮาจะได้กลับไปร่วมกันแสดงเพียงสั้น ๆ ว่า “คงต้องรอดูกัน” นอกจากนี้ เขายังกล่าวยกย่องถึงความสำเร็จที่เพื่อนของเขาทำมาโดยตลอด

“มันยอดเยี่ยมมากครับ ตอนที่เขาทำ ‘Hustle’ (2022) มันสุดยอดมาก และ ‘Uncut Gems’ (2019) นั่นก็ดีมาก เขากำลังทำงานกับคนที่มีพรสวรรค์มาก ๆ เขากำลังจะมีหนังใหม่ของ Netflix ที่แสดงร่วมกับ จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney) ด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา และเป็นข้อตกลงกับ Netflix ที่ดีมาก ที่ได้ดาราหนังเบอร์ใหญ่ระดับโลกมาอยู่ที่นั่น”

นอกจากนี้ ชไนเดอร์ยังชื่นชมแซนด์เลอร์ที่นำพาเขาเข้าร่วมในโปรเจกต์ใหญ่หลาย ๆ โปรเจกต์

“เราเป็นเพื่อนกันมา 5 ทศวรรษแล้ว เขาเป็นคนที่พิเศษมาก ๆ และการที่เขาให้ผมได้เข้าร่วมในหลาย ๆ งาน มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริง ๆ นอกจากว่าผมรักเขา และผมอยากให้เขาสุขภาพดี มีความสุข และประสบความสำเร็จ เขาเป็นคนที่น่าทึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็กำลังจะทำ ‘Happy Gilmore 2’ ด้วยแหละ สุดยอดไปเลย”