หลังจากรับบทเธนา (Thena) อีเทอร์นอลส์สุดแกร่งใน ‘Eternals’ (2021) ของ MCU แองเจลินา โจลี (Angelina Jolie) นักแสดงฮอลลีวูดตัวแม่วัย 49 ปี ก็แทบไม่มีผลงานการแสดงให้ได้เห็นกันเท่าไหร่ จนกระทั่งมาถึงปีนี้ คุณแม่โจลีกำลังจะกลับมามีผลงานการแสดงอีกครั้งใน ‘Maria’ ผลงานหนังดราม่าชีวประวัติเรื่องใหม่ ผลงานการกำกับของผู้กำกับชาวชิลี พาโบล ลาร์เรน (Pablo Larraín) ที่เล่าเรื่องโศกนาฏกรรมชีวิตช่วงสุดท้ายของ มาเรีย คัลลัส (Maria Callas) นักร้องโอเปราคนสำคัญของโลกในกรุงปารีสยุค 1970

หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นไตรภาคชีวประวัติผู้หญิงคนสำคัญของประวัติศาสตร์ของลาร์เรน ที่อาจจะส่งให้โจลีได้เข้าชิงออสการ์อีกครั้ง หลังจากที่นักแสดงหญิงของเขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ทั้ง นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) จาก ‘Jackie’ (2016) และคริสเตน สจวร์ต (Kristen Stewart) จาก ‘Spencer’ (2021)

โดยในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ โจลีต้องเตรียมตัวฝึกซ้อมในการรับบทยาวนานถึง 7 เดือน ทั้งการฝึกซ้อมการร้องโอเปรากับผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งฝึกซ้อมการวางท่าทาง การเคลื่อนไหว และการหายใจให้เหมือนกับตัวจริงมากที่สุด

Angelina Jolie Maria

จนกระทั่งได้เข้าฉายในรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส (Venice International Film Festival) สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมจนได้รับการ Standing Ovation นานถึง 8 นาที ทำให้โจลีถึงกับน้ำตาคลอด้วยความปลื้มปีติ และ Netflix ได้ยืนยันการซื้อลิขสิทธิ์การฉายหนังเรื่องนี้ในสหรัฐอเมริกาไปเป็นที่เรียบร้อย

โจลีได้ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เกี่ยวกับอุปสรรคที่ยากลำบากที่สุดในการร้องเพลงโอเปรา ซึ่งความยากที่สุดของเธอก็คือสิ่งที่เธอเคยเจอในอดีต

“ความรู้สึกมันเหมือนออกจากร่างเลยค่ะ เพราะตัวฉันไม่ใช่นักร้อง ฉันเคยมีคนที่เคยอยู่ในชีวิต เป็นความสัมพันธ์ที่ฉันเคยมี เขาไม่ค่อยใจดีกับฉันในเรื่องการร้องเพลง และเป็นคนที่ทำให้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนร้องเพลงไม่เก่ง ฉันเคยเรียนในโรงเรียนการแสดงละครเวที มันเลยรู้สึกแปลกที่ความรู้สึกนี้มีผลกระทบต่อฉันได้”

“ฉันเลยต้องปรับตัวให้เข้ากับความคิดเห็นของคนคนนั้น ดังนั้น ฉันจึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการก้าวข้ามสิ่งต่าง ๆ เพื่อที่จะเริ่มร้องเพลง และฉันก็เพิ่งจะค้นพบว่าฉันเป็นนักร้องเสียงโซปราโน ฉันคิดว่าตัวฉันเสียงต่ำมาตลอดเลย ฉันอธิบายให้ครูสอนร้องเพลงฟังว่า ‘เสียงฉันมันทุ้มต่ำนะ’ แล้วเขาก็บอกว่า ‘ไม่ จริง ๆ แล้วคุณเป็นนักร้องเสียงโซปราโนต่างหาก’ มันน่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เสียงของฉันมันเปลี่ยนแปลงไปเมื่อผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เป็นอะไรที่น่าตกใจมาก ๆ”

ในงานแถลงข่าวของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส โจลีได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับการซุ่มซ้อมฝึกฝนยาวนานกว่า 7 เดือนจนทำให้เธอสามารถขับร้องเพลงโอเปราแบบสด ๆ ในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ได้ โจลีที่ไม่เคยขับร้องเพลงต่อหน้าสาธารณชนมาก่อนได้เปิดเผยเรื่องนี้กับ Variety

“ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าฉันประหม่ามากขนาดไหน ฉันใช้เวลาฝึกเกือบ ๆ 7 เดือน เพราะเมื่อคุณต้องทำงานกับพาโบล คุณไม่สามารถทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ได้ เขาต้องการให้คุณทุ่มเทกับการทำงานจริง ๆ คุณต้องเรียนรู้และฝึกฝนอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ”

Angelina Jolie Maria

แต่การเรียกเสียงร้องของเธอกลับคืนมานั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และลูกชายของเธอก็เข้ามามีส่วนร่วมในการฝึกซ้อม จนสามารถร้องเพลงสด ๆ ในฉากหนึ่งที่ถ่ายทำในโรงละคร La Scala กรุงปารีสได้

“เป็นเวลาหลายเดือนที่ฉันต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนร้องเพลง และอีกหลายเดือนในชั้นเรียนภาษาอิตาลี ต้องหัดเลียนสำเนียง และทำทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนกับเธออย่างแม่นยำ การร้องโอเปราต้องใช้ทั้งร่างกายของคุณในการทำเสียงให้ดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ และมันก็น่ากลัว เพราะไม่ค่อยมีใครที่ขอให้เราทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ หรือรู้สึกทุกอย่าง อย่างที่เรารู้สึกได้อย่างเต็มที่”

“ครั้งแรกที่ฉันร้องเพลง ฉันจำได้ว่าตัวฉันเองรู้สึกประหม่ามาก ๆ ลูกชายของฉันอยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาต้องคอยล็อกประตูให้เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาได้ และฉันก็ตัวสั่นมาก พาโบลเริ่มต้นให้ฉันอยู่ในห้องเล็ก ๆ ก่อนจะไปจบสุดท้ายที่ La Scala เขาจึงให้เวลาฉันได้ค่อย ๆ พัฒนา”

แต่สิ่งที่โจลีกลัวมากที่สุดจริง ๆ ก็คือความกลัวที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของนักร้องโอเปรานามอุโฆษ ที่เสียชีวิตในปี 1977 ต้องเสื่อมเสีย

“สิ่งที่ฉันกลัวก็คือ ฉันกลัวว่าจะทำให้คนที่ชื่นชอบในตัวเธอ (คัลลัส) ผิดหวัง ถ้างานของฉันได้รับการตอบรับที่ดี ฉันก็รู้สึกขอบคุณมาก ๆ แต่ฉันเองก็รู้สึกเริ่มจะผูกพันกับเธอ ดังนั้นฉันจึงไม่อยากจะทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องเสียหาย”