หลังจากแจ้งเกิดอย่างสวยงามในการรับบทในหนัง ‘Beetlejuice’ (1988), ‘Heathers’ (1989) และ ‘Edward Scissorhands’ (1990) วิโนนา ไรเดอร์ (Winona Ryder) นักแสดงวัย 19 ปี เลือกที่จะยกระดับการแสดงขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรับบทเป็น มีนา ฮาร์เกอร์ เจ้าสาวแวมไพร์ใน ‘Bram Stoker’s Dracula’ (1992) ผลงานหนังสยองขวัญกอทิกของผู้กำกับชั้นครู ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา (Francis Ford Coppola) ที่ประสบความสำเร็จทั้งคำชม รายได้ และคว้า 3 รางวัลออสการ์
แต่เหนืออื่นใด ความประทับใจที่สุดของเธอที่มีต่อหนังเรื่องนี้ก็คือ ความผูกพันของเธอที่มีต่อนักแสดงวัยรุ่นอีกคนอย่าง คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) ผู้รับบทเป็น โจนาธาน ฮาร์เคอร์ ที่ต้องช่วยปกป้องคู่รักอย่างมีนาให้รอดพ้นเงื้อมมือของ วลาด แดร็กคูลา แวมไพร์ที่ต้องการแย่งชิงมีนามาเป็นเจ้าสาว ซึ่งความสัมพันธ์ของเธอกับรีฟส์ไม่ได้มีแค่เฉพาะในหนัง แต่ยังขยับขยายมาจนถึงชีวิตจริงด้วย
ล่าสุด ไรเดอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับพอดแคสต์ Happy Sad Confused ในระหว่างการโปรโมตหนัง ‘Beetlejuice Beetlejuice’ โดย 1 ในการสัมภาษณ์ เธอได้เปิดเผยว่า แม้หนังเรื่องนี้จะผ่านกาลเวลามายาวนานกว่า 32 ปี แต่เธอกับรีฟส์ก็ยังคงติดต่อสื่อสารกันผ่านข้อความอยู่เรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาก็คือ ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่ถนัดเรื่องเทคโนโลยี และด้วยเบื้องหลังการถ่ายทำ ทำให้ทั้งคู่ยังคงเรียกกันและกันด้วยคำว่า ‘สามี’ และ ‘ภรรยา’ ในการส่งข้อความหากันมาโดยตลอด
แม้ว่า ณ ปัจจุบันทั้งคู่จะอยู่ในสถานะไม่โสดแล้วก็ตาม รีฟส์กำลังคบหากับศิลปินหญิง อเล็กซานดรา แกรนต์ (Alexandra Grant) ที่คบหากันมาตั้งแต่ปี 2018 ส่วนไรเดอร์คบหาดูใจกับ สก็อตต์ แม็กคินเลย์ ฮาห์น (Scott Mackinlay Hahn) แฟชั่นดีไซเนอร์มาตั้งแต่ปี 2011
“ค่ะ เราส่ง…เราส่งข้อความหากัน แล้วเราก็มักจะต้องระบุเสมอว่าเป็นใคร แม้ว่ามันจะมีเขียนอยู่ในข้อความแล้วก็ตาม อารมณ์ประมาณว่าในวันเกิดเขา ฉันก็จะส่งข้อความไปว่า ‘สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณสามีของฉัน…โนนิ’ ส่วนเขาก็จะตอบกลับมาว่า ‘ไงจ๊ะคุณภรรยา ผมรักคุณนะ…KR57’ เขามักจะลงท้ายชื่อของเขาแล้วตามด้วยอายุเสมอ”
หลังจากร่วมงานกันในหนังเรื่องนี้ คู่จิ้นฮอลลีวูดอย่างไรเดอร์และรีฟส์ก็ได้ร่วมงานกันในหนังอีก 3 เรื่อง ได้แก่ ‘Scanner Darkly’ (2006), ‘The Private Lives of Pippa Lee’ (2009) และ ‘Destination Wedding’ (2018)
ซึ่งในระหว่างโปรโมต ‘Destination Wedding’ ไรเดอร์ได้ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกกับ Entertainment Weekly ว่า ทั้งคู่อาจจะเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ไปแล้วก็เป็นได้ เพราะนอกจากนิสัยอันน่าประทับใจของรีฟส์ในกองถ่ายแล้ว ในระหว่างถ่ายทำ ‘Bram Stoker’s Dracula’ คอปโปลาที่พยายามถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วยการถ่ายทำที่เน้นการใช้เอฟเฟกต์แบบภาพยนตร์ยุคโบราณเป็นหลัก โดยไม่ใช้ CGI ทำให้คอปโปลาเลือกที่จะถ่ายทำฉากแต่งงานในโบสถ์คริสตจักรออร์โธดอกซ์โรมาเนีย และยังเชิญบาทหลวงนิกายออร์โธดอกซ์โรมาเนียจริง ๆ มาเข้าฉากประกอบพิธีแต่งงานจริง ๆ เพื่อเสริมความเข้มขลังให้กับฉากนี้ และนั่นก็เลยเป็นเหตุที่ทำให้ไรเดอร์คิดว่าเธอน่าจะได้แต่งงานกับรีฟส์แบบ ‘อ้อม ๆ’
“พวกเราแต่งงานกันจริง ๆ ในหนัง ‘Dracula’ ค่ะ ฉันกล้าสาบานต่อพระเจ้าเลยว่า ฉันคิดว่าเรา 2 คนน่าจะเคยแต่งงานกันในชีวิตจริง ๆ ในฉากนั้น ฟรานซิสใช้บาทหลวงโรมาเนียจริง ๆ เราถ่ายทำฉากนั้นกัน และท่านก็ทำพิธีจริง ๆ ทุกขั้นตอน ดังนั้น ฉันก็เลยคิดว่าเราน่าจะได้แต่งงานกันไปแล้ว”
รีฟส์จำเหตุการณ์วันนั้นไม่ได้ เลยเล่นมุกพร้อมถามแทรกว่า “นี่เรากล่าวตอบรับ (‘I do.’) กันไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
ไรเดอร์ย้ำเตือนความจำ “คุณจำไม่ได้เหรอ? วันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์ด้วยนะ” ก่อนที่รีฟส์จะจำได้และกล่าวว่า “โอ้ พระเจ้า เรา 2 คนแต่งงานกันแล้วนะครับ” รีฟส์ย้ำเรื่องนี้อีกครั้งตอนให้สัมภาษณ์กับ Esquire ว่า “เราทำพิธีแต่งงานกับบาทหลวงจริง ๆ วิโนนาก็บอกว่าเราเป็น คอปโปลาก็บอกว่าเราเป็น งั้นผมก็เดาว่า เราคงได้แต่งงานกันแล้วภายใต้สายพระเนตรของพระเจ้าน่ะครับ”
รีฟส์เคยพูดถึงไรเดอร์แบบเล่น ๆ ว่า เธอมุ่งมั่นกับความสัมพันธ์นี้อย่างเต็มที่ และบางครั้งเธอก็เรียกเขาเล่น ๆ ว่า ‘สามี’ “นาน ๆ ครั้ง ผมจะได้รับข้อความว่า ‘สวัสดีค่ะสามี’ ผมยังไม่ค่อยเชื่อเธอนะครับ จนกระทั่ง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา เป็นคนบอกกับวิโนนาและยืนยันกับสาธารณะว่า ใช่แล้ว เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องจริง เราใช้บาทหลวงในการจัดพิธีเต็มรูปแบบ และตอนนั้นผมกับวิโนนาก็เลยได้แต่งงานกัน”
นักแสดงหญิงอีกคนที่ยืนยันถึงนิสัยอันน่ารักของรีฟส์ก็คือ แซนดรา บุลล็อก (Sandra Bullock) ที่เคยร่วมงานกับเขาในหนังแอ็กชันทริลเลอร์เรื่องดัง ‘Speed’ (1994) ที่แม้เธอจะยืนยันกับนิตยสาร Esquire ว่า เขาและเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรที่เกินไปกว่าเพื่อน แต่เธอก็แอบคิดว่า บางครั้งมันอาจจะออกมาดีก็ได้ หากทั้งคู่เริ่มความสัมพันธ์ต่อกัน
“คีอานูเป็นผู้ชายแบบที่ฉันคิดว่าคงสามารถเป็นเพื่อนกับผู้หญิงที่เขาเคยเดตด้วยได้น่ะค่ะ ฉันไม่คิดว่าจะมีใครที่พูดอะไรแย่ ๆ เกี่ยวกับเขาได้เลย ฉะนั้น บางทีเราอาจจะไปกันได้ก็ได้ ใครจะไปรู้”
“แต่ว่าเราไม่จำเป็นต้องผ่านอะไรไปด้วยกัน เราเติบโตไปพร้อม ๆ กันบนเส้นขนานได้ เราทักทายให้กัน ทานอาหารเย็น และทำงานร่วมกัน และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกถึงกับผู้ชายคนนี้มากขึ้นเท่านั้น คือฉันจะสามารถพูดแบบนี้ได้ไหมนะถ้าเขาทิ้งฉันไปและทำให้ฉันโกรธ?…อาจจะไม่ก็ได้นะ”
ไรเดอร์ตอบคำถามเกี่ยวกับมิตรภาพอันยาวนานของเธอกับรีฟส์ว่า มันจะเป็นไปได้ไหมหากทั้งคู่จะร่วมงานกัน โดยเฉพาะกับหนังแอ็กชันอย่าง ‘John Wick’
“ฉันยอมทำทุกอย่างร่วมกับเขาจริง ๆ นะคะ เพราะว่าเขาเป็นคนที่พิเศษมาก แต่ว่ามันมีฉากแอ็กชันเยอะมากเลย ฉันแค่คิดถึงกระดูกของฉันน่ะ” (หัวเราะ) “แล้วเขากำลังจะถ่ายหนังอีกเรื่องด้วยใช่ไหมคะ?” (โฮสต์: “ใช่ครับ ปีหน้ามี ‘John Wick’ อีกเรื่อง”) “โอ้พระเจ้า…”