เมื่อปีที่แล้ว ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton) นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 73 ปี ได้มีโอกาสกลับมารับบทแบทแมน บทบาทที่สร้างชื่อให้กับเขาจาก ‘Batman’ (1989) และ ‘Batman Returns’ (1992) อีกครั้งในหนังซูเปอร์ฮีโร ‘The Flash’ (2023) และมาปีนี้ คีตันก็ได้มีโอกาสกลับมารับบทผีบีเทิลจู๊ดส์ อีก 1 บทบาทโด่งดังของเขาอีกครั้งใน ‘Beetlejuice Beetlejuice’ ภาคต่อ ‘Beetlejuice’ (1988) และนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้รู้จักเขาในชื่อ ไมเคิล คีตัน ก็เป็นได้

ในวาระที่คีตันได้มีโอกาสขึ้นปกนิตยสาร People ฉบับล่าสุด คีตันได้ให้สัมภาษณ์พิเศษว่า เขากำลังมีความคิดอยากจะเลิกใช้ชื่อ ไมเคิล คีตัน ซึ่งเป็นชื่อในวงการที่เขาใช้มาตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพนักแสดงในปี 1978 และหันไปใช้ชื่อ ไมเคิล ดักลาส (Michael Douglas) ซึ่งเป็นชื่อที่กร่อนมาจาก ไมเคิล จอห์น ดักลาส (Michael John Douglas) ชื่อจริงอย่างเป็นทางการของเขาเอง

สาเหตุที่คีตันไม่สามารถใช้ชื่อที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเป็นชื่อนักแสดงได้ก็เพราะว่า ไมเคิล ดักลาส เป็นชื่อของนักแสดงชาย 2 คนที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG – The Screen Actors Guild) ซึ่งมีกฎระเบียบห้ามมิให้นักแสดงที่ขึ้นทะเบียนใช้ชื่อซ้ำกัน คล้ายกับกรณีของ เอมิลี สโตน (Emily Stone) ที่มีนักแสดงใช้ชื่อไปแล้ว เลยต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อในวงการว่า เอ็มมา สโตน (Emma Stone) แทน

Michael Keaton Batman

นักแสดง 2 คนที่ชื่อซ้ำกับคีตันก็คือ ไมเคิล ดักลาส (Michael Douglas) นักแสดงรุ่นใหญ่เจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ ที่โด่งดังจากการแสดงใน ‘Fatal Attraction’ (1987) และ ‘Basic Instinct’ (1992) (ส่วนคนรุ่นใหม่จะรู้จักเขาจากบท ดร. แฮงก์ พิม ตัวละครจาก ‘Ant-Man’ ใน MCU) ส่วนอีกคนคือ ไมก์ ดักลาส (Mike Douglas) นักแสดงและพิธีกรรายการทอล์กโชว์ผู้ล่วงลับ

เมื่อไม่สามารถใช้ชื่อ ไมเคิล ดักลาส ได้ เขาจึงต้องควานหาชื่อใหม่ และชื่อ ไมเคิล คีตัน ก็เป็นชื่อที่เขาเลือกมาใช้เป็นชื่อในวงการมายาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นชื่อที่ได้มาจากสมุดโทรศัพท์โดยบังเอิญ

“ผมกำลังมองหาชื่ออยู่ ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าเป็นสมุดโทรศัพท์หรือเปล่านะ ตอนนั้นผมคงคิดแค่ว่าน่าจะได้อะไรจากในนี้บ้างแหละ พอเห็นชื่อแล้วผมก็คิดว่า ‘เออ ชื่อนี้ฟังดูเข้าท่าแฮะ'”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คีตันอยากกลับไปใช้ชื่อเดิมของเขา เพราะในระหว่างเดินสายโปรโมต ‘Batman Returns’ ในปี 1992 เขาก็เคยเปรย ๆ ว่า ชื่อจริงของเขาไปซ้ำกับนักแสดงชื่อดังอีกคน “ผมเคยเจอกับ ไมเคิล ดักลาส ด้วยนะ เขาเป็นคนดีจริง ๆ แต่นั่นไม่ใช่ชื่อของเขาด้วยซ้ำ ผมเป็นคนเดียวที่ใช้ชื่อนี้ นั่นแหละคือความตลก แล้วก็มีพิธีกรชื่อไมก์ ดักลาส พ่อของไมเคิล ดักลาสชื่อจริงก็ไม่เหมือน ส่วนชื่อของผมจริง ๆ คือ ไมเคิล ดักลาส แต่พวกเขากลับบอกให้ผมเปลี่ยนชื่อน่ะ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”

คีตันเป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้อง 7 คนในครอบครัวฐานะยากจน แต่เขาก็มีความสุขกับการนั่งดูหนังคาวบอยตะวันตกในโทรทัศน์ร่วมกับพี่ ๆ ก่อนที่เขาก็เริ่มรู้ตัวเองว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดใจคนได้ “ผมชอบสร้างความบันเทิงให้กับคนอื่น ๆ เสมอ เพราะถ้าคุณอายุน้อยที่สุด จะมีคนที่สนใจและคอยดูคุณอยู่เสมอ ผมรู้ตัวว่าผมสามารถทำให้คนหัวเราะได้ และทำให้เขาหลุดจากปัญหาก็ได้ หรือแม้แต่เข้าไปพัวพันกับปัญหาก็ได้”

หลังจากลาออกจากมหาวิทยาลัย คีตันก็มุ่งมั่นกับการแสดงในละครโทรทัศน์ สลับกับการทำงานเลี้ยงชีพ เขาทำงานเป็นคนรื้อฉากและจัดแสงในสถานีโทรทัศน์ PBS เพื่อแลกกับค่าจ้างชั่วโมงละ 2 เหรียญ ก่อนที่เขาจะได้มีโอกาสแสดงซิตคอม จนทำให้เขาในช่วง 1980 เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงตลก จนในที่สุด ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ก็เลือกเขาเข้าไปแสดงหนัง ‘Beetlejuice’ ก่อนที่จะเลือกเขามารับบทเป็นอัศวินรัตติกาลใน ‘Batman’

Michael Keaton My Life

ที่แม้ว่าจะโดนต่อต้านในทีแรก แต่ตัวหนังกลับประสบความสำเร็จ และคีตันก็สร้างภาพอันน่าจดจำกับบทบาท บรูซ เวย์น ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ก่อนที่เขาจะสละบทบาทนี้ไปใน ‘Batman Forever’ (1995) และแทบไม่มีบทบาทเด่น ๆ เท่าที่ควร ก่อนที่เขาจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งจากการรับบทนักแสดงรุ่นใหญ่ตกอับใน ‘Birdman or (The Unexpected Virtue of Ignorance)’ (2014) ที่ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรก

แม้ว่าคีตันมีคววามตั้งใจว่าจะกลับไปใช้ชื่อกำเนิดของเขาอย่างจริงจัง และตอนแรกตั้งใจว่าจะใช้ชื่อนี้ในเครดิตหนังดราม่าระทึกขวัญ ‘Knox Goes Away’ ซึ่งเป็นหนังที่เขาแสดงนำและกำกับ แต่ด้วยความเคร่งเครียดจากการทำงานทั้งกำกับและแสดงไปพร้อมกัน ก็เลยทำให้เขาลืมใช้ชื่อ ไมเคิล ดักลาส อย่างที่ตั้งใจ

แต่ถึงกระนั้น เขาเองก็ไม่ต้องการให้เกิดความสับสนวุ่นวายในการใช้ชื่อ เขาจึงตั้งใจว่าจะพบกันครึ่งทางด้วยการใช้ชื่อ ‘ไมเคิล คีตัน ดักลาส’ ที่เป็นการผสมผสานชื่อจริงและชื่อในการแสดงเข้าด้วยกัน สำหรับใช้เป็นเครดิตในการทำงานโปรเจกต์อื่น ๆ ในอนาคตแทน

“ผมบอกพวกเขาไว้แล้วว่า ‘เฮ้ ผมแจ้งเตือนไว้ก่อนนะว่า เครดิตของผมจะต้องใช้ชื่อ ไมเคิล คีตัน ดักลาส’ แต่แล้วเรื่องมันก็เลยเถิด ผมลืมบอกให้พวกเขาใส่ชื่อนี้เข้าไปด้วย แต่เดี๋ยวมันจะต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ”