ไมค์ แฟลนากัน (Mike Flanagan) ผู้กำกับภาพยนตร์และซีรีส์สยองขวัญคลื่นลูกใหม่ขวัญใจนักวิจารณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เพื่ออัปเดตความคืบหน้าของโปรเจกต์รีบูต ‘The Exorcist’ ใหม่อีกครั้ง

แฟลนากันกล่าวว่า เขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้รับเลือกมาเป็นผู้สร้างโปรเจกต์ใหม่ถัดจาก ‘The Exorcist: Believer’ (2023) ของผู้กำกับ เดวิด กอร์ดอน กรีน (David Gordon Green) และเขาพยายามใส่ไอเดียที่แตกต่างออกไปในแฟรนไชส์ที่เขาลุ่มหลงนี้ ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยสร้างมา

ผมคิดว่าไม่ควรแตะต้องแฟรนไชส์ที่มีองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว นอกเสียจากคุณจะนำสิ่งใหม่เข้ามาได้ ผมพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเข้ามาสร้างภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ 'The Exorcist' นี้ เพราะผมคิดว่าสามารถเพิ่มเติมสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในแฟรนไชส์ได้

นี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้ทำบางสิ่งที่ผมเชื่อว่ายังไม่เคยมีมาก่อนในแฟรนไชส์นี้ และเป็นการยกย่องสิ่งที่เคยสร้างมาในอดีต ผมคิดจริง ๆ ว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่ผมเคยสร้างมา

แฟรนไชส์ ‘The Exorcist’ เริ่มต้นด้วย ‘The Exorcist’ เมื่อปี 1973 จากฝีมือของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง วิลเลียม ฟรีดคิน (William Friedkin) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาล แต่ ‘Exorcist II: The Heretic’ (1977), ‘The Exorcist III’ (1990), ‘Exorcist: The Beginning’ (2004), ‘Dominion: Prequel to the Exorcist’ (2005) และเวอร์ชันรีบูตก่อนหน้านี้อย่าง ‘The Exorcist: Believer’ (2023) กลับไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด

The Exorcist
The Exorcist: Believer (2023)

จนกระทั่งโปรเจกต์การรีบูต ‘The Exorcist’ (อีกครั้ง) ได้ตกมาอยู่ในมือของแฟลนากัน เนื่องจากเขามีผลงานสร้างซีรีส์สยองขวัญที่น่าประทับใจอย่าง ‘The Haunting of Hill House’ (2018), ‘The Haunting of Bly Manor’ (2020) และ ‘Midnight Mass’ (2021) รวมถึงภาพยนตร์อย่าง ‘Oculus’ (2013), ‘Hush’ (2016) และ ‘Doctor Sleep’ (2019)

ด้วยเครดิตที่น่าประทับใจนี้ ทำให้แฟลนากันกลายเป็นผู้สร้างภาพยนตร์สยองขวัญที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา และทำให้โปรเจกต์ ‘The Exorcist’ เวอร์ชันรีบูตของเขานั้น ได้รับความคาดหวังมากกว่า ‘The Exorcist: Believer’ ของกรีนเสียอีก

‘The Exorcist: Believer’ ได้คะแนนวิจารณ์บน Rotten Tomatoes จากนักวิจารณ์ไปเพียง 22% และจากผู้ชมในวงกว้างไปเพียง 59% กอปรกับทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 136.3 ล้านเหรียญ ซึ่งน่าผิดหวังมากหากพิจารณาจากที่ NBCUniversal ซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ ‘The Exorcist’ จาก Warner Bros. Discovery มาด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 400 ล้านเหรียญ