ดูเหมือนว่าอะไร ๆ จะยังไม่ค่อยเคลียร์นัก หลังจากที่นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ วาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) ได้ออกมาตอบคำถามกับสื่อแบบ ‘เลี่ยง ๆ’ เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เขาตัดสินใจถอนตัวจากโปรเจกต์หนังโรแมนติกเกย์ย้อนยุคเรต NC-17 ที่กำกับโดย ท็อดด์ เฮนย์ส (Todd Haynes) ก่อนที่การถ่ายทำในประเทศเม็กซิโกจะเริ่มต้นขึ้นเพียงแค่ 5 วัน แม้ว่าโปรเจกต์นั้นจะมีฟีนิกซ์เป็นตัวตั้งตัวตีในฐานะเจ้าของไอเดียเรื่องก็ตาม ในระหว่างการฉาย ‘Joker: Folie à Deux’ รอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส (Venice International Film Festival)
แต่ดูเหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่วาคีนตัดสินใจถอนตัวจากโปรเจกต์แบบกะทันหัน เจมส์ แม็กอะวอย (James McAvoy) นักแสดงชาวสกอตแลนด์ได้ให้สัมภาษณ์กับ จอช โฮโรวิตซ์ (Josh Horowitz) ในพอดแคสต์ Happy Sad Confused โดยส่วนหนึ่งเขาได้มีโอกาสเล่าถึงเบื้องหลังหนังต่าง ๆ ที่เขาร่วมแสดง ซึ่งรวมถึง ‘Split’ (2016) หนังทริลเลอร์จิตวิทยาผลงานกำกับของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan)
แต่ก่อนที่บทบาทนี้จะเป็นบทบาทสร้างชื่อให้กับเขา ในฐานะนักแสดงผู้รับบทเป็นตัวละครที่แตกต่างกันถึง 23 บุคลิก แม็กอะวอยได้เล่าเปิดเผยถึงตอนที่เขาได้รับการเสนอบทให้แบบเร่งด่วน หลังจากที่นักแสดงที่ถูกวางตัวไว้อย่างฟีนิกซ์ ได้ตัดสินใจถอนตัวจากการรับบทเด่นไปอย่างกะทันหัน ทำให้เขามีโอกาสเตรียมตัวรับบทตัวละครอันหลากหลายก่อนเปิดกล้องเพียงแค่ 2 สัปดาห์ เมื่อเขาถูกถามว่า รู้สึกแปลก ๆ ไหมที่ต้องเข้ามารับบทบาทแทนที่ฟีนิกซ์ เขาตอบว่า
“ไม่ ไม่หรอกครับ ผมว่าผมมั่นใจมากพอที่จะคิดว่าผมทำได้ดีกว่าเขานะ” (หัวเราะ) “ล้อเล่นนะครับ ล้อเล่น คือเขาก็เป็นนักแสดงที่น่าทึ่งนะครับ ผมคิดว่าเขาคงจะให้วิธีการแสดงที่แตกต่างออกไปจากผม และผมก็เชื่อว่าเขาก็น่าจะทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย”
“แต่คือว่าบางครั้ง การได้เข้ามาในวินาทีสุดท้ายก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดเหมือนกัน ผมคิดว่าเขาน่าจะถอนตัวไป 2 สัปดาห์ก่อนการถ่ายทำ แล้วมันก็เกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายจริง ๆ ผมเลยมีเวลาเตรียมตัวแค่ 2 สัปดาห์เอง”
‘Split’ เป็น 1 ในผลงานช่วงขาขึ้นของชยามาลานที่เล่าเรื่องของ เควิน เวนเดลล์ ครัมบ์ ชายผู้มีปัญหาโรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder – DID) ที่ทำให้เขามีบุคลิก น้ำเสียง กิริยาท่าทาง และแรงจูงใจต่างกันมากถึง 23 บุคลิก เควินได้จับตัวหญิงสาว 3 คนจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาขังเอาไว้ในห้องใต้ดินด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ทำให้พวกเธอต้องเอาตัวรอดจากเขาให้ได้ ซึ่ง 1 ใน 3 นักแสดงสาวก็คือ อันยา เทเลอร์-จอย (Anya Taylor-Joy) ผู้รับบทเป็นเคซีย์ ที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการรับบทใน ‘The Witch’ (2015)
ตัวหนังถือเป็น 1 ในไตรภาค ‘The Unbreakable Trilogy’ ที่ประกอบไปด้วย ‘Unbreakable’ (2000) ที่มีตัวละคร เดวิด ดันน์ ที่แสดงโดย บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) ต่อมาตัวละครนี้ก็มาปรากฏตัวใน ‘Split’ ซึ่งถือเป็นภาคต่อแบบกลาย ๆ ด้วย และภายหลัง ตัวละครเควิน เดวิด และมิสเตอร์กลาส ที่แสดงโดย แซมมวล แอล. แจ็กสัน (Samuel L. Jackson) ก็ไปปรากฏในหนังครอสโอเวอร์อย่าง ‘Glass’ (2019)
โดยแต่เดิมเขาตั้งใจให้เควินเป็นตัวร้ายของเดวิดใน ‘Unbreakable’ ด้วย แต่ด้วยความที่ไม่เข้ากับเนื้อเรื่อง เขาเลยตัดสินใจถอดออก หลังจากผ่านช่วงขาลง ชยามาลานกลับไปทำหนังเล็ก ๆ ‘The Visit’ (2015) ก่อนที่จะหยิบตัวละครเควินกลับมาลองปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง แม้ว่าเขาเองจะไม่ค่อยชอบทำหนังภาคต่อก็ตาม ส่วนชยามาลานได้มีโอกาสพบแม็กอะวอยครั้งแรกในระหว่างที่นักแสดงหนุ่มกำลังโปรโมต ‘X-Men: Apocalypse’ (2016)
แม้ในทีแรกที่เขียนบท ชยามาลานจะต้องการนักแสดงที่แน่นเรื่องฝีมือเพื่อให้สามารถรับบทอันซับซ้อนที่เขาคิดเอาไว้ได้อย่างที่ใจต้องการ จนกระทั่งมีการวางตัวของฟีนิกซ์ให้มารับบทนี้ แต่สุดท้ายฟีนิกซ์ก็เลือกที่จะถอนตัวไป ทำให้แม็กอะวอย ที่เขาเคยประทับใจตอนที่ได้เจอกันครั้งแรก ได้รับการติดต่อให้มารับบทนี้อย่างกะทันหัน และเขาก็ตอบรับเพราะความน่าสนใจของบท ที่ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอดจากเหตุลักพาตัว แต่เป็นเรื่องของคนที่มีปัญหาทางจิต ซึ่งแม็กอะวอยต้องเตรียมตัวรับบทคาแรกเตอร์จำนวนมาก ทั้งที่มีเวลาน้อยกว่าการเตรียมตัวรับบทคาแรกเตอร์เดี่ยว ๆ เสียด้วยซ้ำ
‘Split’ กลายเป็นงานขาขึ้นของชยามาลานได้รับคำวิจารณ์ในทางบวก เป็นงานที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นการกลับมาของชยามาลานนับตั้งแต่ ‘The Sixth Sense’ (1999) และ ‘Unbreakable’ รวมทั้งการแสดงเป็นคนหลายบุคลิกของแม็กอะวอยที่น่าทึ่ง ตั้งแต่หนุ่มเจ้าระเบียบ, เด็กชายวัย 9 ขวบ, หญิงสาว, หญิงชรา สาวข้ามเพศ หรือแม้แต่ปีศาจ
รวมทั้งการแสดงอันเปล่งประกายของเทเลอร์-จอย รวมทั้งการเชื่อมจักรวาลที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ในหนังของชยามาลาน ทำรายได้ Box Office 278 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 9 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังที่เคยขึ้นแท่นอันดับ 1 ของสตูดิโอ บลัมเฮาส์ โปรดักชันส์ (Blumhouse Productions) ก่อนตกลงมาอยู่อันดับที่ 3 โดยมี ‘Get Out’ (2017) รั้งตำแหน่งอันดับ 1 แทน
แม้ว่าแม็กอะวอยจะเป็นนักแสดงที่เข้ามารับบทอันซับซ้อนนี้อย่างกะทันหัน แต่เขาก็ยกเครดิตให้กับผู้กำกับอย่างชยามาลาน โดยเฉพาะการเขียนบทที่ชัดเจน ที่ช่วยทำให้เขาเข้าใจและเตรียมตัวเพื่อรับบทได้ในเวลากระชั้นชิดขนาดนี้
“บทภาพยนตร์ถูกเขียนมาเป็นอย่างดี ดังนั้น มันเลยชัดเจนในอะไรหลาย ๆ อย่างว่าผมควรจะต้องการทำอะไรเป็นอย่างแรก มีตัวละคร 2-3 ตัวที่ต้องใช้เวลานานหน่อยในการค้นหาบทบาท อย่างเช่นตัวของแพตทริเซียที่มาอย่างรวดเร็ว ตัวของเดนนิสก็มาเร็ว แต่ตัวละครเฮ็ดวิกต้องใช้เวลามากหน่อย มันยังคิดไม่ออกจนกระทั่งตอนที่ผมนั่งต่อบทกัน และผมก็รู้สึกประหม่ามาก ๆ”
“ผมมานั่งคิดว่า ‘พระเจ้า นี่ผมต้องเล่นเป็นตัวละคร 15 ตัว และถูกตัดสินโดยทุกคนในห้อง รวมถึงผู้บริหารจากสตูดิโอ Universal รวมทั้ง เจสัน บลัม (Jason Blum, ผู้บริหาร Blumhouse Productions) ด้วยเนี่ย แต่ผมยังหาตัวละครบางตัวไม่เจอเลย’ แต่ทันใดนั้นมันก็เกิดขึ้นรวดเร็วมาก”