เรื่องการแกล้งอำของบรรดาคนดังในฮอลลีวูดถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเสียทีเดียว แต่ก็คงมีไม่มากครั้งที่การแกล้งอำจะมาพร้อมกับการเล่นใหญ่เหมือนอย่างที่ จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney) นักแสดงรุ่นใหญ่ที่กำลังมีผลงานล่าสุดในหนังแอ็กชันคอเมดีเรื่อง ‘Wolfs’ ผลงานออริจินัลของ Apple TV+ ซึ่งเป็นการกลับมาร่วมงานอีกครั้งของเขากับ แบรด พิตต์ (Brad Pitt) หลังจากที่ทั้งคู่เคยประชันบทบาทกันมาแล้วตั้งแต่ ‘Confessions of a Dangerous Mind’ (2002), ‘Burn After Reading’ (2008) และหนังจารกรรมแฟรนไชส์ ‘Ocean’s’ เคยทำเอาไว้
ล่าสุด คลูนีย์ได้ให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงการเป็นขาอำสายเล่นใหญ่ รวมทั้งประสบการณ์การอำนักแสดงมากมายทั่วทั้งฮอลลีวูดกับ จิมมี คิมเมล (Jimmy Kimmel) ในรายการทอล์กโชว์ Jimmy Kimmel Live! ซึ่งสารตั้งต้นการแกล้งอำนั้นเริ่มมาจากตอนที่คิมเมลเคยมอบของขวัญให้กับคลูนีย์ โดยที่ของขวัญนั้นดันเป็นเครื่องเขียนที่คิมเมลอ้างว่าเป็นของขวัญจากอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน (Bill Clinton)
“ที่อยากเล่าก็คือ มีวันหนึ่งผมกำลังทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าที่บ้าน และผมก็พบกล่องเครื่องเขียนของ วิลเลียม เจฟเฟอร์สัน คลินตัน ที่คุณส่งมาให้ผมพร้อมกับตราประทับสีทองของประธานาธิบดี”
คิมเมล: “ครั้งหนึ่งผมได้รับจดหมายจากประธานาธิบดีคลินตัน ผมก็เลยเอามาทำสำเนาเอาไว้ ไม่รู้ว่าจะติดคุกมั้ยนะครับ”
คลูนีย์: “ติดคุกชัวร์…”
คิมเมล: “แล้วผมก็เอาจดหมายนั้นไปทำสำเนา ต้องจ่ายค่าทำแพงมหาศาลมาก เพราะว่ามันต้องปลอมตราประทับที่มีหลาย ๆ สี และผมก็มอบมันให้กับคุณ เพราะผมรู้ว่ามันน่าจะไปอยู่ในมือคนที่เหมาะและน่าจะรู้สึกสนุกกับของแบบนี้ได้”
คลูนีย์: “…ผมก็เลยส่งจดหมายจากบิล คลินตันไปถึงนักแสดงทุกคนที่ผมรู้จัก ผมจะพยายามหาหนังที่แย่ที่สุดที่พวกเขาเคยเล่น แล้วเขียนไปบอกพวกเขาว่า ‘ตอนที่ผมนั่งเครื่องบิน ผมกำลังดูหนังของคุณอยู่ด้วยนะ’ อะไรแบบนี้”
คิมเมลเล่าอีกว่า เขาเคยส่งเครื่องเขียนที่ปลอมว่าส่งมาจากพิตต์ไปให้คลูนีย์ด้วย และเขาก็ไม่พลาดที่จะเอาจดหมายปลอมของพิตต์ไปอำนักแสดงเบอร์ใหญ่อย่าง ทอม ครูซ (Tom Cruise) ซึ่งเคยแสดงหนังแวมไพร์กอทิกเรื่อง ‘Interview with the Vampire’ (1994) ด้วยการสร้างเรื่องว่า พิตต์อยากชวนให้ครูซกลับมาแสดงภาคต่อของหนังเรื่องนี้ แต่ต้องสลับบทบาทโดยให้ครูซที่รับบท เลสตาท เดอ ลิอองคอร์ต ไปรับบท หลุยส์ เดอ ปวงต์ ดู ลัค ที่พิตต์รับบทแทน (ทั้งที่เคยมีข่าวว่าเกาเหลากันเพราะหนังเรื่องนี้ และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยร่วมงานกันอีกเลย)
คลูนีย์: “เรื่องของแบรด พิตต์อันนี้อย่างโหดครับ ผมส่งมันไปให้กับ ดอน ชีเดิล (Don Cheadle) แล้วผมก็ส่งให้ ทอม ครูซ ด้วย โดยเขียนบอกว่า พวกเขาอยากจะทำ ‘Interview with the Vampire’ ภาค 2 แต่คราวนี้แบรดอยากเล่นเป็นเลสตาทแทน”
ยังไม่หมด เขายังเคยส่งจดหมายปลอมไปถึงนักแสดงรุ่นใหญ่อีกคนอย่าง เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) อีกต่างหาก
“แล้วผมก็ส่งให้ เมอรีล สตรีป แนบไปพร้อมกับกล่องซีดีสอนสำเนียง ผมเขียนบอกไปว่า ‘อันนี้เคยช่วยผมฝึกสำเนียงแบบทรอย (พิตต์เคยรับบทนำในหนัง ‘Troy’, 2004) และผมก็คิดว่าก็น่าจะช่วยคุณได้เหมือนกัน'” (หัวเราะ)
คิมเมล: “แบรดบอกว่า ทอมโทรมาหาเขาแล้วบอกว่า ‘โอเคนะ นายเล่นเป็นเลสตาทได้ ผมโอเค ไม่ติดอะไร’ เขา (แบรด) ก็เลยถามไปแบบงง ๆ ว่า ‘นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่วะเนี่ย ?'”
กว่าที่ ‘Interview with the Vampire’ จะกลายเป็นหนังที่สร้างความฮือฮาด้วยการประกบ 2 นักแสดงซูเปอร์สตาร์ทั้งครูซและพิตต์ รวมทั้ง แอนโทนิโอ แบนเดราส (Antonio Banderas), คริสเตียน สเลเตอร์ (Christian Slater) รวมทั้งยังเป็นผลงานแจ้งเกิดของนักแสดงเด็กในเวลานั้นอย่าง เคิร์สเตน ดันสต์ (Kirsten Dunst) และสามารถทำรายได้ด้วยรัศมีดาราไปมากกว่า 223 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญที่ถือว่าสูงมากในยุคนั้น
ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นการดัดแปลงจากนิยายสยองขวัญกอทิกที่เขียนโดย แอนน์ ไรซ์ (Anne Rice) ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1976 และก็ยังคงได้ไรซ์มาเป็นผู้ดัดแปลงบทหนังด้วยตัวเอง ซึ่งแต่เดิมแล้วไรซ์เคยมีนักแสดงที่จะมารับบทเป็นตัวละครที่เธอสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะบท 2 แวมไพร์ตัวหลัก เธอเคยเปิดเผยว่า เธอไม่เห็นด้วยที่จะให้ครูซมารับบทเป็นเลสตาท เธอจึงต้องการให้ครูซสลับมารับบทเป็นหลุยส์ และให้พิตต์มารับบทเลสตาทแทน
“ฉันพยายามจะบอกพวกเขามาตั้งนานแล้ว ว่าพวกเขาควรสลับบทบาทกัน ให้แบรด พิตต์เล่นเป็นเลสตาท และให้ทอม ครูซ เล่นเป็นเล่นเป็นหลุยส์ แต่พวกเขาก็ไม่ฟังฉันเลย” แต่หลังจากที่เธอได้เห็นการแสดงของครูซตอนที่หนังถ่ายทำเสร็จแล้ว เธอจึงเปลี่ยนใจและมองว่าการแสดงของครูซทำให้เขากลายเป็นเลสตาท แถมเธอยังโทรไปชื่นชมครูซด้วยตัวเองอีกต่างหาก
เมื่อคลูนีย์กลายเป็นตัวตึงของการแกล้งดารา คิมเมลเลยถามเขาว่า มีคนที่ดูหรือเดาออกบ้างไหมว่าพวกเขากำลังโดนคลูนีย์เกรียนเข้าให้แล้ว ซึ่งนอกจากจะรู้แล้ว คนที่รู้กิตติศัพท์ของเขาถึงกับเคยเอ่ยปากเตือนว่าอย่าเล่นกับระบบ เพราะคลูนีย์อาจโต้กลับด้วยความเกรียนแบบเต็มระบบยิ่งกว่า
“ปกติจะมีคนสงสัยผมอยู่ตลอดแหละครับ สุดท้ายพวกเขามักจะนึกออกได้ในที่สุด ที่ผมจะบอกคือ เมื่อคุณเคยทำอะไรเจ้าเล่ห์มานานมาก ๆ มันก็เหมือนกับการมีอาวุธนิวเคลียร์ในมือนั่นแหละ ทุกคนจะกลัวกันมากเพราะรู้ว่าคุณทำอะไรได้บ้าง”
“เคยมีบางคนโทรไปหา ริชาร์ด ไคนด์ (Richard Kind, นักแสดง และนักแสดงตลก) บอกว่าพวกเขาอยากจะทำรายการสาระแนอำดาราบ้าบอคอแตกอะไรนั่น เพราะว่าพวกเขาอยากจะแกล้งอำผม แล้วเขาก็ไล่โทรหาคนที่ผมรู้จักทุกคนเลย พวกเขาพูดตรงกันว่า ‘อย่าเชียว ! ไม่งั้นคลูนีย์อาจจะแกล้งเอาศพไปซ่อนไว้ในอะพาร์ตเมนต์ฉันก็ได้นะ'” (หัวเราะ)