เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสของนักแสดงซูเปอร์สตาร์วัย 59 ปี อย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) อย่างแท้จริง ตั้งแต่การได้รับรางวัลออสการ์ตัวแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากการรับบทเป็นรัฐมนตรี ลูอิส สเตราส์ (Lewis Strauss) ในหนัง ‘Oppenheimer’ (2023) ได้มีโอกาสกลับมาเล่นซีรีส์อีกครั้งใน ‘The Sympathizer’ ของ HBO รวมทั้งการได้กลับคืนสู่เหย้า MCU ด้วยการกลับมารับบท วิคเตอร์ วอน ดูม (Victor Von Doom) หรือด็อกเตอร์ดูม (Doctor Doom) วายร้ายประจำ Multiverse Saga

นอกจากนี้ เขายังได้มีโอกาสแสดงละครเวทีบรอดเวย์ครั้งแรกในชีวิตในละครเวทีเรื่อง ‘McNeal’ ผลงานการเขียนบทละครเวทีโดย อาเยด อัคตาร์ (Ayad Akhtar) นักเขียนบทละครเวทีเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ และผู้เข้าชิงรางวัล Tony Awards 2 ครั้ง

โดยในละครบรอดเวย์เรื่องนี้ ดาวนีย์ จูเนียร์ต้องรับบทเป็น เจค็อบ แม็กนีล นักเขียนนิยายชื่อดังผู้เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ซึ่งต้องเผชิญกับเรื่องราวของลูกชายผู้ห่างเหิน โรคพิษสุราเรื้อรัง ปัญหาทางจิต และความหลงใหลในปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งความซื่อสัตย์ในการสร้างงานศิลปะ การลอกเลียนแบบ และการละเมิดลิขสิทธิ์ที่จะส่งผลต่ออาชีพการงานของเขาเอง

Robert Downey Jr. McNeal The New York Times

ละครบรอดเวย์ที่ดาวนีย์ จูเนียร์ร่วมแสดง และรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภายใต้บริษัท Team Downey ของเขาสามารถขายบัตร 4 รอบแรกจนเต็มทุกที่นั่ง โดยได้เริ่มทำการแสดงรอบพรีวิว ณ โรงละคร Vivian Beaumont ใน Lincoln Center ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา และมีการแสดงรอบจริงมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ไปจนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน

ดาวนีย์ จูเนียร์ นักแสดงภาพยนตร์ที่กลับมาแสดงละครเวทีอีกครั้งในรอบกว่า 40 ปี หลังจากที่เขาเคยแสดงละครเวทีเรื่อง ‘American Passion’ ในปี 1983 ได้เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจของเขาในการเตรียมตัวแสดงละครบรอดเวย์ ซึ่งนั่นก็หนีไม่พ้นการแสดงบทบาทเด่น ๆ ในภาพยนตร์หลากหลายเรื่องในชีวิตของเขาเอง

“การแสดงใน ‘Oppenheimer’ ร่วมกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ทำให้ผมได้กลับมามีสมาธิอย่างเคร่งครัดอีกครั้ง และการแสดงใน ‘The Sympathizer’ ก็ทำให้ผมมีความยืดหยุ่นในการแสดง ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมาก เพราะว่าผมต้องแสดงในหลาย ๆ บทบาท”

“บทบาทของผมจากทั้ง 2 เรื่องนี้ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น หากไม่มีบทบาทเหล่านี้ ผมเชื่อเลยว่าผมคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่มั่นคงกว่านี้มาก ๆ”

นอกจากนี้ ดาวนีย์ จูเนียร์ยังได้ขอคำแนะนำจากนักแสดงรุ่นน้องอย่าง แบรดลีย์ คูเปอร์ (Bradley Cooper) นักแสดงผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทละครดราม่า จากเวที Tony Awards จากการแสดงของเขาในละครเวทีเรื่อง ‘The Elephant Man’ (2015)

“แบรดลีย์บอกกับผมว่า ‘จำไว้เลยนะเพื่อน นายจะต้องรู้สึกถึงเท้าของตัวเองที่อยู่ข้างในรองเท้า นายจะเดินขึ้นไปบนเวทีนั้น และผู้ชมก็จะเหมือนกับหมอนนุ่ม ๆ’ ผมคิดว่ามันค่อนข้างจะเป็นอะไรที่ดูเป็นแง่บวกมาก ๆ ดังนั้นผมจึงเลือกใช้วิธีการของแบรดลีย์ คูเปอร์ และก็ปล่อยให้สิ่งสวยงามมันเกิดขึ้น”

Robert Downey Jr. McNeal The New York Times

หรือแม้แต่งานสเปเชียลเอฟเฟกต์ของ โทนี สตาร์ก จากหนังซูเปอร์ฮีโร ‘Iron Man’ ก็สามารถช่วยเขาในการแสดงละครเวทีเรื่องนี้ (โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ AI) ได้เช่นกัน สำหรับเขา โปรเจกต์ที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ แม้จะทำให้รู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ทำให้รู้สึกเป็นธรรมชาติด้วยเหมือนกัน

“มันเหมือนกับมีผ้าห่มที่ช่วยทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยครับ เพราะผมรู้ว่านี่เป็นการแสดงที่เป็นมิตรกับเทคโนโลยี ตัวผมเองมีความผูกพันกับการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ทั้งในเรื่องของอันตราย และทางเลือกต่าง ๆ ที่เทคโนโลยีจะมอบให้ ดังนั้นมันจึงรู้สึกเหมือนกับเป็นการสำรวจลงไปในสิ่งที่ผมคุ้นเคยในเชิงลึกมากขึ้น”

ดาวนีย์ จูเนียร์ทิ้งท้ายถึงความท้าทายในการเตรียมตัว และการทำสมาธิสำหรับการแสดงละครบรอดเวย์ครั้งแรกในชีวิต แม้เขาจะต้องย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายอยู่แทบจะทุกวินาที

“ผมเองรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ เพราะเคยชินกับการตื่นนอนในมาลิบูพร้อมกับเสียงของนกฮัมมิงเบิร์ด ดังนั้นสิ่งเดียวที่ผมคาดหวังก็คือ การควบคุมสภาพแวดล้อมให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ผมจะได้แสดงตัวตนที่ดีที่สุดของตัวผมเองออกมาให้ผู้ชมได้เห็น”

“เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นเรื่องของสิ่งที่ผมมักจะทำอยู่แล้ว เมื่อผมตั้งใจและหมกมุ่นในการทำอะไรอย่างจริงจัง นั่นก็คือ คุณต้องใช้ชีวิตอย่างสันโดษ คุณต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับงานของคุณ และอย่าให้มีสิ่งรบกวนมากเกินไป แต่ในนิวยอร์กมีสิ่งรบกวนเยอะมากเลย เป็นเมืองที่รบกวนสมาธิมาก ๆ”