หลังจากเข้าฉายเพียง 3 สัปดาห์ ‘Joker: Folie à Deux’ ของผู้กำกับ ท็อดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) กลายเป็นอีก 1 หนังฟอร์มร่วงของปีที่ล้มเหลวทั้งคำวิจารณ์และรายได้ จบโปรแกรมด้วยตัวเลข 201 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 190 ล้านเหรียญ ก่อนจะถูกนำไปจัดจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ผิดฟอร์มจากภาคแรก ‘Joker’ (2019) ที่ได้รับคำวิจารณ์งดงาม ทำรายได้สูงถึง 1,079 ล้านเหรียญ และส่งให้ วาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) คว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากการถูกเสนอเข้าชิงทั้งหมด 11 สาขา
แม้การแสดงของฟีนิกซ์และ เลดี้กาก้า (Lady Gaga) จะได้รับการชื่นชม แต่การแหวกแนวด้วยการเปลี่ยนวิธีไปเล่าเรื่องแนวมิวสิคัลทริลเลอร์ ก็ส่งให้หนังได้รับคำวิจารณ์แง่ลบจากคนดูและนักวิจารณ์มากพอสมควร จะเว้นก็แต่ผู้กำกับสายระห่ำ และคอหนังตัวยงอย่าง เควนทิน ทารันทิโน (Quentin Tarantino) ที่ได้เปิดเผยความรู้สึกของเขาหลังจากชมหนังเรื่องนี้กับพอดแคสต์ The Bret Easton Ellis Podcast ของเว็บไซต์ World of Reel
ทารันทิโนตอบคำถามหลังจากที่ถูกถามถึงหนังเรื่องล่าสุดที่เขาได้ไปดู ซึ่งเขาได้เล่าว่าได้มีโอกาสดูหนังทริลเลอร์ ‘Longlegs’ และตั้งใจว่าจะดูหนังแนวคาวบอยตะวันตก ‘Horizon’ ที่กำกับ เขียนบทและนำแสดงโดย เควิน คอสเนอร์ (Kevin Costner) แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดู แต่หนังที่เขาได้ดูแล้วแน่ ๆ ก็คือ ‘Joker: Folie à Deux’ โดยเขาได้กล่าวชื่นชม พร้อมกับยกให้เป็นการแสดงที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของฟีนิกซ์อีกด้วย
“ผมชอบหนังเรื่องนี้จริง ๆ นะเว้ย ชอบมาก ชอบสุด ๆ แบบว่าโคตรชอบเลยแหละ ตอนที่ผมไปดู ผมคาดหวังว่าผมน่าจะประทับใจกับหนัง แต่ผมก็คิดเหมือนกันว่ามันน่าจะเป็นหนังที่ต้องปีนกระไดดู หรือเป็นหนังที่ผมมีระยะห่างจากประสบการณ์ของผมเอง ซึ่งสุดท้ายแล้วมันอาจจะไม่ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ในฐานะหนัง แต่ผมก็ชื่นชมในแบบที่ตัวหนังมันเป็น”
“แล้วตัวผมเองก็เป็นพวกที่ไม่แยแสโลกมากพอที่จะรู้สึกสนุกกับหนังที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นหนังได้เต็มที่ซะด้วย ตัวหนังน่ะมันเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากในระดับหนึ่ง แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันต้องเป็นหนังที่ปีนกระไดดู ผมกลับรู้สึกดื่มด่ำกับมันได้จริง ๆ และผมเองก็ชอบฉากมิวสิคัลมาก ๆ ผมรู้สึกว่าได้ดื่มด่ำไปกับมันจริง ๆ และผมเองคิดว่ายิ่งเพลงมันดาษดื่นมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีมากเท่านั้น มันทำให้ผมฟังเนื้อเพลง ‘For Once in My Life’ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
นอกจากนี้ ทารันทิโนยังชื่นชมไปจนถึงการแสดงของฟีนิกซ์ ในบทบาท อาร์เธอร์ เฟล็กซ์ หรือ Joker และเลดี้กาก้า ในบทบาท ลี ควินเซล หรือ Harley Quinn โดยเขาได้เปรียบเทียบทั้งคู่กับคาแรกเตอร์ มิกกี และ มัลลอรี น็อกซ์ คู่รักฆาตกรต่อเนื่องในหนัง ‘Natural Born Killers’ (1994) หนังฆาตกรรมโรแมนติกที่กำกับโดย โอลิเวอร์ สโตน (Oliver Stone) โดยยกให้เป็นเหมือนกับการสืบทอดทางจิตวิญญาณจากคาแรกเตอร์ที่เขาเป็นผู้เขียนบทขึ้นมา เช่นเดียวกับภาคแรกที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Taxi Driver’ (1976) หนังดราม่าจิตวิทยาของผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี (Matin Scorsese)
“ถ้าหากภาคแรกเป็นหนี้บุญคุณหนัง ‘Taxi Driver’ ภาคนี้แ-่งก็ต้องได้แรงบันดาลใจจาก ‘Natural Born Killers’ ที่ผมเป็นคนเขียนบท นี่แหละคือ Natural Born Killers ในแบบที่ผมเคยฝันอยากจะเห็น ในฐานะคนที่สร้างคาแรกเตอร์มิกกีและมัลลอรีขึ้นมา ผมชอบสิ่งที่พวกเขาทำกับหนัง ผมชอบแนวทางที่เขาเลือก หมายถึงการที่หนังทั้งเรื่องมันเป็นเหมือนอย่างกับฝันป่วย ๆ ของ มิกกี น็อกซ์เลย มันยอดเยี่ยมมาก ๆ”
นอกจากนี้เขายังชื่นชมการขับร้องเพลงมิวสิคัลของฟีนิกซ์ที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์เขาถึงเสียงร้องที่ดูแปลกแปร่ง
“ผมคิดว่าเขาทำได้ดีนะ มันเหมือนกับที่เขาบอกว่า ถึงจะต่างกัน แต่ก็มีแก่นแกนที่เหมือนกันอยู่ มันเหมือนกับที่คนเขาพูดถึงกัน เอ่อ-ใครวะ ? (ไรอัน กอสลิง – Ryan Gosling) ที่ร้องเพลงใน ‘La La Land’ (2016) คือเขาเป็นคนร้องเพลงดีไหม ก็ไม่ใช่ว่าจะร้องดี แต่เขาร้องได้ออกมาเป็นตัวเขาเลยน่ะ ผมคิดว่าเขา (ฟีนิกซ์) ร้องเพลงได้ดีพอในแบบที่ไม่ใช่นักร้อง ทำให้เขาถ่ายทอดเพลงเหล่านั้นออกมาในฐานะของการแสดง ซึ่งเนื้อเพลงพวกนั้นก็เหมือนกับบทพูดของเขานั่นแหละ”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวชื่นชมฝีมือการกำกับหนังของฟิลลิปส์ และเปรียบเหมือนกับ ‘โจ๊กเกอร์’ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้เล่าเรื่องของตัวเขาเอง
“ท็อดด์ ฟิลลิปส์ คือโจ๊กเกอร์ และโจ๊กเกอร์ก็คือผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะทั้งแนวคิดของหนังทั้งหมด หรือแม้แต่การใช้งบของสตูดิโอ เขาใช้จ่ายเงินอย่างกับที่โจ๊กเกอร์จะใช้เลย ใช่ไหมล่ะ ? แล้วของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ที่เขาให้ก็คือ แทนที่เขาจะยื่นมือมาจับมือคุณดี ๆ มือนั้นกลับมีไฟ 10,000 โวลต์มาช็อตที่มือคุณแทน ผ่าง ! -ึงโดนเขาหลอกแล้วโว้ย”
“ซึ่งนั่นแหละคือการตอบโต้ของเขากับพวกที่เป็นแฟนคอมิก มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะพูดว่า ‘ไปไกล ๆ -้น-ีน’ ซะไอ้พวกบ้าหนังสือคอมิก เขาพูดว่า ‘ไปไกล -ีน’ ซะไอ้พวกนักดูหนัง ‘ไปไกล -ีน’ ซะฮอลลีวูด และพูดว่า ‘ไปไกล ๆ -้น-ีน’ กับทุกคนที่มีหุ้นอยู่ใน DC หรือ Warner Bros. ท็อดด์ ฟิลลิปส์ นี่แหละคือโจ๊กเกอร์ และหนังเรื่องนี้ก็ ‘กำกับภาพยนตร์โดยโจ๊กเกอร์’ เข้าใจใช่ไหม ? เขานี่แหละคือโจ๊กเกอร์ตัวจริง”
ถึงแบบนั้น ทารันทิโนเองก็ยังแอบยิงมุกตลกร้ายตามสไตล์เขา ตอนที่เขาได้ไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงหนัง IMAX ที่ตั้งอยู่ ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยที่แทบไม่มีคนดูอยู่กับเขาในรอบนั้นด้วยเลย
“แต่เหนืออื่นใดนะ ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่โคตรตลกเลยเว้ย ผมนี่หัวเราะแบบไม่ต้องกลัวใครจะรำคาญเลย แล้วผมก็สามารถหัวเราะกับฉากที่คนอื่นเขาไม่ขำกันได้ด้วยว่ะ”