Variety ได้รายงานว่า ริชาร์ด เกลฟอนด์ (Richard Gelfond) ซีอีโอของ IMAX ได้เปิดเผยว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ผู้กำกับแถวหน้าของฮอลลีวูด จะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของ IMAX ที่ยังไม่เคยใช้ที่ไหนมาก่อน
เกลฟอนด์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมงานของพวกเขาได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมา
ผมมีความยินดีที่ได้แจ้งให้ทราบว่า คริสจะใช้เทคโนโลยีใหม่ของ IMAX ในการสร้างภาพยนตร์ เป็นอุปกรณ์ที่ยังไม่เคยใช้ที่ไหนมาก่อน ซึ่งทีมของเราได้ร่วมกันพัฒนาตลอดปีที่ผ่านมา
โนแลนเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยี IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์ของเขาอย่างจริงจัง เริ่มที่ ‘The Dark Knight’ (2008) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ถ่ายทำด้วยกล้องความละเอียดสูงของ IMAX (จากเดิมที่มักจะใช้ในการถ่ายทำสารคดี) ตามความต้องการของโนแลนที่ยืนยันกับ Warner Bros. ว่าจะเก็บสเกลภาพที่ยิ่งใหญ่ของ ‘The Dark Knight’ ได้ครบถ้วน โดยในตอนนั้นสตูดิโอดูเหมือนจะลังเล เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาสูงมาก แต่ท้ายที่สุดก็อนุมัติ โนแลนได้ใช้เทคโนโลยีนี้ตามต้องการ
โนแลนยังคงใช้เทคโนโลยี IMAX ในผลงานต่อมาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘The Dark Knight Rises’ (2012), ‘Interstellar’ (2014), ‘Dunkirk’ (2017) และ ‘Tenet’ (2020)
ล่าสุดคือ ‘Oppenheimer’ (2023) ซึ่งเขาเลือกใช้กล้อง IMAX ฟิล์ม 70 มม. ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่มีคุณภาพสูงสุดของ IMAX เพื่อเก็บรายละเอียดฉากดราม่าที่เขานำเสนอได้อย่างที่ต้องการ และกลายเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ‘Oppenheimer’ สามารถทำรายได้จากการฉายด้วยระบบ IMAX ไปอย่างมหาศาล ขึ้นอันดับที่ 4 สูงสุดตลอดกาลของ IMAX
สำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของโนแลนนั้น จะนำแสดงโดย แมตต์ เดมอน (Matt Damon) และ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ซึ่งมีรายงานว่าจะเริ่มถ่ายทำต้นปี 2025 และมีกำหนดฉายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2026