ชื่อของ นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 57 ปี ได้กลายเป็นที่จับตามองอีกครั้งเมื่อเธอได้รับรางวัลความสำเร็จในชีวิตการแสดง (Life Achievement) จากสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน (AFI: American Film Institute)เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา

คิดแมนได้ขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณในรางวัลนี้ และได้กล่าวถึงผู้กำกับระดับยอดฝีมือมากมายที่เธอเคยร่วมงานด้วยตลอดอาชีพนักแสดง ตั้งแต่ สแตนลีย์ คูบริก (Stanley Kubrick) ไปจนถึง เจน แคมเปียน (Jane Campion), กัส แวน แซงต์ (Gus Van Sant), ยอร์กอส ลานธิมอส (Yorgos Lanthimos), โซเฟีย คอปโปลา (Sofia Coppola) และอีกมากมายหลายคน

นอกจากนี้ คิดแมนได้ให้สัมภาษณ์กับ Vanity Fair ว่า ยังมีผู้กำกับอีกหลายคนที่ยังอยากร่วมงานด้วยในอนาคต โดยเธอกล่าวติดตลกถึง มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ว่า

ฉันอยากร่วมงานกับสกอร์เซซีมาโดยตลอด ถ้าเขาอยากร่วมงานกับผู้หญิงนะ

เธอได้กล่าวต่อเนื่องว่า

ฉันยังอยากร่วมงานกับ แคทริน บิเกโลว์ (Kathryn Bigelow), สไปก์ โจนส์ (Spike Jones), พอล โทมัส แอนเดอร์สัน (Paul Thomas Anderson), ไมเคิล ฮาเนเก้ (Michael Haneke) และผู้กำกับหน้าใหม่อีกมากมาย ยังมีอีกหลายคนเลยค่ะที่ฉันอยากจะร่วมงานด้วยเพื่อเปิดประสบการณ์ทำงานใหม่ ๆ

มีผู้กำกับบางคนที่ฉันมีประสบการณ์ที่ดีมากในการได้ร่วมงาน แต่ตอนนี้พวกเขาก้าวหน้าไปไกลมากแล้ว มีครั้งหนึ่งที่ฉันได้ร่วมงานกับ คาริน คุซามะ (Karyn Kusama) ใน 'Destroyer' (2018) ซึ่งตอนนี้เธอกำลังไปได้สวยกับซีรีส์ 'Yellowjackets' และผลงานที่ดีหลายเรื่องในปัจจุบัน

Nicole Kidman
ภาพจาก AFI

แม้ว่าสกอร์เซซีจะเคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์ที่มีตัวละครนำเป็นผู้หญิงที่น่าจดจำอย่าง ‘Alice Doesn’t Live Here Anymore’ (1974) ซึ่งส่งให้ เอลเลน เบอร์สตีน (Ellen Burstyn) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่ผลงานส่วนใหญ่ของเขาในยุคหลังนั้น เน้นไปที่ตัวละครหลักที่เป็นผู้ชายแทบทุกเรื่อง จนกระทั่ง ‘Killers of the Flower Moon’ (2023) ที่เขากลับมาเน้นไปที่ตัวละครหลักที่เป็นผู้หญิงอย่างจริงจังอีกครั้ง และส่งให้ ลิลลี่ แกลดสโตน (Lily Gladstone) คว้ารางวัลจากหลายสถาบัน แต่พลาดรางวัลออสการ์ไปอย่างน่าเสียดาย

จริง ๆ แล้วดูเหมือนว่า คิดแมนกำลังมองหาโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับสกอร์เซซีในภาพยนตร์ที่เน้นตัวละครหลักเป็นผู้หญิงอย่างจริงจังมากกว่า ในขณะที่ตัวสกอร์เซซีเองก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการให้น้ำหนักต่อตัวละครที่เป็นผู้หญิง ยกตัวอย่างกรณีของ แอนนา แพควิน (Anna Paquin) ใน ‘The Irishman’ (2019) ที่มีบทพูดเพียงแค่ประโยคเดียวในภาพยนตร์ที่มีความยาวถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง

ผู้กำกับรุ่นเก๋าเจ้าของรางวัลออสการ์วัย 81 ปีผู้นี้ เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Sight & Sound ในประเด็นนี้ว่า

ตัวละคร Peggy Sheeran ของแพควินนั้น มีส่วนสำคัญกับโครงเรื่อง เธอรู้ว่า Frank Sheeran (รับบทโดย รอเบิร์ต เดอ นิโร) ซึ่งเป็นพ่อของเธอนั้นเป็นคนอย่างไร เธอไม่ต้องการพูดอะไรมาก เมื่อเธอมองที่เขาก็รู้ทันทีว่านี่คือมือปืนที่เพิ่งก่อเหตุไป

เขาได้อธิบายเพิ่มเติมถึงความต้องการให้แพควินใช้การแสดงออกทางสีหน้าและแววตาสร้างผลกระทบทางอารมณ์ต่อตัวละครของเดอ นิโรมากกว่า

แอนนา แพควิน เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้เธอจะมีบทเพียงแค่ประโยคเดียว แต่สำหรับการเป็นลูกสาวแล้วนั้น เธอรู้ทุกอย่าง และต้องการเพียงแค่มองออกไปเท่านั้น เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ Frank ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายด้วย และต้องการให้รักเขา แต่เธอปฏิเสธที่จะพูดกับเขา และทำเพียงแค่มองดูอาชญากรรมที่เขาก่อขึ้นเท่านั้น

The Irishman
แอนนา แพควิน ใน ‘The Irishman’ (2019)