[รีวิว] Gladiator II – ทำถึงในความเล่นใหญ่ แม้ทำหัวใจ(จากต้นฉบับ)ตกหล่น

Release Date

14/11/2024

ตวามยาวหนัง

148 นาที

ผู้กำกับ

ริดลีย์ สกอต

นักแสดง

พอล เมสคาล, เปโดร ปาสคาล, เดนเซล วอชิงตัน

ผลงานเด่นผู้กำกับ

Gladiator, Alien, Blade Runner, Kingdom of Heaven, Black Hawk Down, House of Gucci, The Martian

[รีวิว] Gladiator II – ทำถึงในความเล่นใหญ่ แม้ทำหัวใจ(จากต้นฉบับ)ตกหล่น
Our score
8.1

[รีวิว] Gladiator II – ทำถึงในความเล่นใหญ่ แม้ทำหัวใจ(จากต้นฉบับ)ตกหล่น

ทำถึงในความเล่นใหญ่ แม้ทำหัวใจ(จากต้นฉบับ)ตกหล่น

บทหนังใช้เวลากว่าร้อยละ 60 ในการพยายามเน้นย้ำว่าลูเชียสคือลูกของแม็กซิมัสบทหนังโดยทีมบทใหม่ยังคงอุตส่าห์เดินตามแพตเทิร์นหนังภาคแรกแต่สิ่งที่ 'Gladiator II' ปรุงเพิ่มและทำให้มันซับซ้อนกว่าเดิมคือการเพิ่มปมขัดแย้งให้ตัวละครลูเชียส แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คงเป็น "ท่าบังคับ" ที่หนังต้องเดินตามแต่ตัวละครเอกที่ควรจะเด่นในหนังภาคนี้ดูแบน ๆ เป้าหมายเป็นเส้นตรงและไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรยิ่งใหญ่แบบเดียวกับแม็กซิมัสในหนังภาคแรกแต่เกมอำนาจการเมืองที่เกี่ยวข้องกับบท มาครีนัส ของเดนเซล วอชิงตัน กลับมีสีสันและตรึงผู้ชมไว้ได้ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งของหนังและยังมีฉากแอ็กชันอีพิคสุดอลังการที่น่าจะถูกใจผู้ชมได้ไม่ยาก

จุดเด่น

  1. หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชัน อีพิคตระการตา
  2. งานบันทึกเสียงทำให้การชมในระบบ IMAX With Laser กระหึ่มสะใจมาก
  3. การแสดงของ เดนเซล วอชิงตัน โดดเด่นและเปี่ยมสีสันมาก

จุดสังเกต

  1. บทภาพยนตร์ยังให้สมดุลระหว่างเรื่องราวพลอตหลักกับบริบทของเรื่องราวได้ไม่สมดุลเท่าไหร่
  2. เสียดายนักแสดงรุ่นใหม่ น่าจะได้โอกาสเฉิดฉายมากกว่านี้
  • บทภาพยนตร์

    6.0

  • โปรดักชัน

    9.0

  • การแสดง

    7.5

  • ความบันเทิง

    9.0

  • ตวามคุ้มค่าในการรับชม

    9.0

ย้อนกลับไป 24 ปีก่อน ‘Gladiator’ หนังโรมันอีพิคที่กลายเป็นของเชยของฮอลลีวูดประสบความสำเร็จอย่างงดงามแม้ออกฉายในปี ค.ศ. 2000 ที่ผู้คนกำลังตื่นตัวกับเรื่องเทคโนโลยีและได้จารึกประวัติศาสตร์ในฐานะหนังที่ครองรางวัลออสการ์ทั้งสาขาใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปจนถึงสาขาออกแบบเครื่องแต่งกายและรางวัลด้านเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยมและบันทึกเสียงยอดเยี่ยมรวม 5 สาขา เหลือไว้เพียงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมที่ริดลีย์ สกอต (Ridley Scott) ยังคงเป็นแค่แขกรับเชิญอยู่ดี

และอีก 2 ทศวรรษต่อมาแม้ริดลีย์ สกอต จะยังคงมีงานกำกับต่อเนื่องและเปลี่ยนแนวหนังไปแบบไม่เกรงใจอายุตัวเองทั้งแนวไซไฟอย่าง ‘The Martian’ ที่เขาได้เข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและอกหักเป็นรอบที่ 4 หรือจะเป็นแนวอัตชีวประวัติก็มีหนังออกมาต่อเนื่องทั้ง ‘All the money in the world’ หรือ ‘House of Gucci’ ไปจนถึงการกลับไปปูพื้นหนังชุดเอเลียนทั้ง ‘Prometheus’ และ ‘Alien Covenant’ แต่ก็ยังไม่ทิ้งหนังพีเรียดย้อนยุคทั้ง ‘Kingdom of Heaven’ ‘Exodus Gods and King’ หรือ ‘The Duel’ แต่ความสำเร็จก็ยังเทียบไม่ได้เลยกับ ‘Gladiator’ และในวันนี้ก็ได้เวลาที่สกอตกลับมาสานต่อตำนานสะเทือนโคลอสเซียมกับวีรกรรมก้องแผ่นดินของ แม็กซิมัส นักสู้แกลดิเอเตอร์ผู้กล้า

Major Cineplex logo
สนับสนุนโดย Major Cineplex

สำหรับ ‘Gladiator II’ จะหันไปโฟกัสกับ โรม ในช่วงเวลาร่วมสองทศวรรษต่อมาหลังบุกไปยึดเมืองทางแอฟริกาภายใต้การนำของ นายพลมาร์คัส อาแคเซียส (รับบทโดยเปโดร ปาสคาล, Pedro Pascal) และมันได้สุมไฟแค้นให้กับ ฮานโน (รับบทโดยพอล เมสคาล, Paul Mescal) นักรบผู้กล้าที่ถูกจับเป็นเชลยและกลายเป็นนักสู้แกลดิเอเตอร์ให้กับ มาครีนัส (รับบทโดย เดนเซล วอชิงตัน, Denzel Washington) นายหน้าจัดหานักสู้เพื่อความบันเทิง แต่การมาถึงโรมของฮานโนครั้งนี้ทำให้เขาได้รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงว่าตนคือ ลูเชียส หน่อเนื้อแท้จริงที่รอวันพิสูจน์หัวใจเพื่อปลดแอกเขาสู่อิสรภาพจากซีซาร์ฝาแฝดโฉดชั่วที่ทำให้บ้านเมืองเสื่อมทราม

ก่อนที่จะไปวิเคราะห์อะไรลึกซึ้งเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนจากการโปรโมทหนังผ่านเทรลเลอร์คือการพยายามเชื่อมโยงเรื่องราวหนังกับตัวหนังภาคแรกทั้งการออกมาบอกกันโต้ง ๆ เลยว่าพระเอกคือลูกชายของ แม็กซิมัส พระเอกหนังภาคแรก ซึ่งในตัวหนังจริงบทหนังก็ใช้เวลากว่าร้อยละ 60 ในการพยายามเน้นย้ำว่าลูเชียสคือลูกของแม็กซิมัส ทั้งแฟลชแบ็ค ทั้งอาการงอนเมื่อ ลูซิลลา (รับบทโดย คอนนี เนลเสน, Connie Nielsen) แม่ของเขาพยายามมาเน้นย้ำว่าเขาคือลูกชายของเธอ หรือกระทั่งให้ส่งตัวละครหมอประจำโคลอสเซียมมาเน้นย้ำวรรคทองของหนังภาคแรกที่ว่า “What we do in life, echoes in eternity” มาย้ำเพื่อเชื่อมโยงหนังและทำให้คนดูเห็นว่า เฮ้ย บทหนังตั้งใจเขียนให้เชื่อมกับภาคแรกนะเว้ย

ยังไม่พอบทหนังโดยทีมบทใหม่ยังคงอุตส่าห์เดินตามแพตเทิร์นหนังภาคแรก เริ่มจากความแค้นของตัวเอกไปเจอกับความฉ้อฉลของผู้ปกครองจนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและความฝันถึงเสรีของชาวโรม แต่สิ่งที่ ‘Gladiator II’ ปรุงเพิ่มและทำให้มันซับซ้อนกว่าเดิมคือการเพิ่มปมขัดแย้งให้ตัวละครลูเชียส หรือที่เราจะได้ยินชื่อ ฮานโน ในช่วง 20-30 นาทีแรกของหนัง ฮานโน ใช้ชีวิตตามครรลองของชนพื้นเมืองในแอฟริกาแต่งเมียและใช้ชีวิตแบบนับถือผีตามที่เราได้เห็นในช่วงองก์แรก และต่อมาก็ได้สร้างจุดกระตุ้นเรื่องแรกหลังโรมบุกมายังบ้าน (หลังใหม่) ของเขาและสร้างปมแค้นด้วยความตายของเมียรัก

ตรงนี้ยอมรับเลยว่ามันทำให้ ‘Gladiator II’ มีจุดเริ่มที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ เพราะเรากำลังจะได้ดูเรื่องราวของนักรบที่สุมไฟแค้นมาเต็มอกเพื่อไปเอาคืนเมืองล่าอาณานิคมอย่าง โรม แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คงเป็น “ท่าบังคับ” ที่หนังต้องเดินตามนี่แหละครับ เพราะเรื่องราวมันถูกเซ็ตไว้แล้วว่า ฮานโน จะต้องไปเป็นทาส เป็นแกลดิเอเตอร์ และจะต้องไปรู้ว่าตัวเองคือ ลูเชียส ที่สำคัญคือเป้าหมายชีวิตของ ลูเชียส เองก็ดันไม่ได้มีอะไรใหญ่ไปกว่าการแก้แค้น นายพลมาร์คัส ที่ฆ่าเมียตัวเอง มันเลยทำให้ตัวละครเอกที่ควรจะเด่นในหนังภาคนี้ดูแบน ๆ เป้าหมายเป็นเส้นตรงและไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรยิ่งใหญ่แบบเดียวกับแม็กซิมัสในหนังภาคแรก

BtBuzz รีวิว Gladiator II
BtBuzz รีวิว Gladiator II

แต่ในขณะเดียวกันเรื่องราวที่ซับซ้อนกว่ากลับอยู่นอกวงโคจรชีวิตของลูเชียส เพราะบทหนังก็ใส่เรื่องราวการเมืองที่ซับซ้อนทั้งแผนการยึดอำนาจของ นายพลมาร์คัส จากซีซาร์แฝดที่บริหารบ้านเมืองแบบปล่อยเบลอ หรือจะเป็นเกมอำนาจของ มาครีนัส นายหน้าค้าทาสแกลดิเอเตอร์ที่พยายามกรุยทางตัวเองสู่อำนาจแม้จะต้องสังหารหมู่ใครก็ตาม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวที่เข้มข้นกว่าการต่อสู้ของลูเชียส และมีสีสันพอจะดึงความสนใจของผู้ชมไว้ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งของหนังได้ ซึ่งทำให้เห็นเลยว่าบทหนังเหมือนจะเล่าเรื่องราวในเชิงบริบทได้สนุกสนานมากกว่า เมนพลอต (main plot) ที่เป็นการต่อสู้ของลูเชียสเสียอีก

แต่กระนั้นก็เหมือนทีมบทจะรู้ว่าจุดที่ทำให้หนังอย่าง ‘Gladiator II’ ขายได้ก็คือการใส่ฉากแอ็กชันสุดอีพิคเข้าไป ดังนั้นสิ่งที่ผู้ชมที่ตีตั๋วเข้าโรงดูจอใหญ่จะได้กำไรแน่ ๆ คือการได้ชมฉากแอ็กชันสุดอลังการทั้งฉากรบตอนเปิดเรื่อง การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ในโคลอสเซียม หรือ จะเป็นฉากขายของหนังภาคนี้อย่างการทำยุทธนาวีในโคลอสเซียมที่มาเต็มทั้งฉากยิงเรือรบและปลาฉลาม ! ใช่ครับคือฉากแอ็กชันหนังภาคนี้ไปเบอร์นั้นเลย ยังไม่รวมฉากแอ็กชันย่อย ๆ ที่แทรกอยู่ในหนังแบบกลัวคนดูจะเบื่อการดูหนังที่มีฉากสนทนา ซึ่งผลลัพธ์มันก็ทำให้ผู้ชมเอ็นจอยกับหนังได้ไม่ยากจริง ๆ แม้จะต้องแลกมากับการยอมทิ้งหัวใจของความเป็นดราม่าแบบเดียวกับที่หนังภาคแรกเป็น

ในส่วนของนักแสดงต้องบอกว่าน่าเสียดายสำหรับการแคสนักแสดงหน้าใหม่ทั้ง พอล เมสคาล ในบท ลูเชียส ที่จริง ๆ คือหน่วยก้านดีมากนะครับ แต่บทลูเชียสไม่ใช่บทที่ส่งเสริมนักแสดงเหมือนคราวที่บท แม็กซิมัส ส่ง รัสเซล โครว (Russell Crowe) ให้เจิดจรัสและได้ครองออสการ์ ส่วนบทซีซาร์ฝาแฝดที่อุตส่าห์ได้ โจเซฟ ควินน์ (Joseph Quinn) หนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งมารับบทจักรพรรดิ์เกต้ามารับบทหนึ่งในฝาแฝดก็ดันไม่ได้มีพื้นทื่ในการปล่อยของทั้งที่มีร่องรอยของการพยายามสานต่อคาแรกเตอร์ตัวร้ายต่อจาก ฮวาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) ที่ทำให้หนังภาคแรกน่าจดจำมาแล้ว

และกลับกลายเป็น เดนเซล วอชิงตัน เสียอีกที่เคลมความโดดเด่นของหนังทั้งเรื่องได้อย่างแท้จริงเพราะบท มาครีนัส คือสีสันที่มีหลายเฉดทั้งความเมตตาแบบแฝงผลประโยชน์ที่เริ่มจากการเป็นคนส่งเสริมให้ ลูเชียส ได้กลายเป็นฮีโร่ในลานประลองจนไปสู่การเล่นเกมการเมืองที่สกปรกมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้บท มาครีนัส ของวอชิงตันเข้าไปนั่งในใจผู้ชมได้ไม่ยาก ส่วนการปรากฎตัวของคอนนี เนลสัน (Connie Nielsen) ที่กลับมารับบท ลูซิลลา ภรรยาของนายพลมาร์คัสและเป็นแม่ของ ลูเชียส ก็ทำให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างหนังสองภาคได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมที่สุด ส่วนเปโดร ปาสคาล ก็ให้การแสดงที่น่าพอใจในบทนายพล มาร์คัส แม้ส่วนตัวจะเสียดายบทบาทของเขาในหนังที่ดูลดทอนความสำคัญลงเรื่อย ๆ เมื่อเรื่องราวดำเนินไปสู่บทสรุป

โดยรวมแล้ว ‘Gladiator II’ ยังคงให้ความบันเทิงผู้ชมด้วยภาพฉากรบอันตระการตา ผ่านเลนส์ของ จอห์น แมธีสัน (โดยรวมแล้ว ‘Gladiator II’ ยังคงให้ความบันเทิงผู้ชมด้วยภาพฉากรบอันตระการตา ผ่านเลนส์ของ จอห์น แมธีสัน (John Mathieson) ที่กลับมากำกับภาพให้หนังภาคนี้ งานเทคนิคบันทึกเสียงที่ทำได้ยอดเยี่ยมไปจนถึงงานสกอร์ที่ภาคนี้ได้ แฮรี เกร็กสัน วิลเลียมส์ (Harry Gregson Williams) ยิ่งดูในระบบไอแมกซ์ วิธ เลเซอร์ (IMAX With Laser) ยิ่งให้ประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวครับ

BtBuzz รีวิว Gladiator II
กดที่ภาพเพื่อเช็กรอบฉายและซื้อบัตรชมภาพยนตร์