เคียรา ไนต์ลีย์ (Keira Knightley) นักแสดงสาวชาวลอนดอนเนอร์ที่มีผลงานการแสดงในโฆษณาและหนังทางทีวีมาตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนสร้างชื่อจากการรับบทเป็น อลิซาเบธ สวอนน์ ในแฟรนไชส์ ‘Pirates of the Caribbean’ การมีชื่อเสียงในหนังฟอร์มยักษ์ ทำให้ไนต์ลีย์ในวัย 39 ปีได้เปิดเผยกับ The Times ถึงชื่อเสียงและคำวิจารณ์ที่ถาโถมในวันที่เธอเพิ่งจะมีอายุเพียง 17 ปี และทำให้เธอเลือกไม่รับงานแสดงในหนังแฟรนไชส์ และแน่นอนว่ารวมถึงแฟรนไชส์หนังโจรสลัดเรื่องนี้ด้วย

“มันเป็นเรื่องที่แปลกมากนะคะ เมื่ออะไรบางอย่างมันสามารถทั้งสร้างและทำลายคุณได้ในเวลาเดียวกัน ฉันถูกมองว่าห่วยแตกก็เพราะหนังเรื่องนี้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ประสบความสำเร็จมาก ๆ ฉันเลยได้รับโอกาสให้เล่นหนังที่ทำให้ฉันได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย มันเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดที่ฉันเคยได้มีส่วนร่วม”

“แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันโดนโจมตีในที่สาธารณะด้วยเหมือนกัน ดังนั้นมันเลยเป็นความทรงจำที่สับสนอยู่ในหัวของฉัน…มันเเป็นวันเวลาที่บ้ามาก มันกินเวลาชีวิตไปตั้งหลายปี แถมยังไม่มีอำนาจควบคุมด้วยว่าจะถ่ายทำที่ไหน นานแค่ไหน หรือถ่ายทำอะไรยังไง”

Keira Knightley Pirates of the Caribbean The Curse of the Black Pearl

ไนต์ลีย์ในวัย 17 ปีได้มีโอกาสรับบทเป็น อลิซาเบธ สวอนน์ หญิงสาวคุณหนูลูกผู้ดีที่ผันตัวกลายมาเป็นราชาโจรสลัด เป็นสาวงามอ่อนหวานที่ซ่อนไหวพริบและความเข้มแข็งในการแก้ปัญหาเอาไว้ภายใน เธอได้มีโอกาสปรากฏตัวในทุกภาค ไล่ไปตั้งแต่ ‘The Curse of the Black Pearl’ (2003), ‘Dead Man’s Chest’ (2006) และ ‘At World’s End’ (2007) ส่วนภาคสุดท้าย ‘Dead Men Tell No Tales’ (2017) เธอมาปรากฏตัวสั้น ๆ ในฐานะบท Cameo

แม้ว่าแฟรนไชส์หนังโจรสลัดสุดยิ่งใหญ่นี้จะประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้นักแสดงหลาย ๆ คนเป็นที่รู้จักมากขึ้นไม่เว้นแม้แต่ตัวของเธอเอง แต่ในระหว่างการถ่ายทำ ไนต์ลีย์เองก็ต้องพบกับความยากลำบากทรหด ตั้งแต่การใส่ชุดคอร์เซตรัดรูปเยี่ยงสาวโบราณที่รัดแน่น ทำให้เธอหายใจไม่ออกจนผู้กำกับต้องสั่งพักกองกะทันหัน หรือการแสดงในฉากที่อลิซาเบธถูกโจรสลัดบังคับให้ขึ้นไปยืนบนกระดานไม้ท่ามกลางลมพัดรุนแรง ทำให้เธอต้องยอมกระโดดลงทะเลที่กำลังมีคลื่นสูงจริง ๆ ทั้งที่จริง ๆ ทีมงานเตรียมสตันต์เอาไว้แสดงแทนอยู่แล้ว

ความขุ่นข้องหมองใจยังตามเธอออกมานอกกองถ่าย เมื่อเธอถูกปาปารัสซีไล่ตาม แถมหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ยังเล่นข่าวโจมตีว่าเธอเป็นลูกคุณหนูที่ทำหน้าตาบึ้งตึงอยู่บ่อยครั้ง และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ สื่อที่โจมตีเธอว่ากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับอาการทางจิตที่เรียกว่าโรคการกินผิดปกติ (Eating Disorder)

“ถ้าฉันตอบแบบคนที่ตอบสนองกับบาดแผลทางใจแบบปกติ ฉันว่าฉันจำมันไม่ได้ค่ะ มันเหมือนถูกลบออกไปหมด แต่บางทีจู่ ๆ มันก็จะโผล่ขึ้นมา ความทรงจำที่ฉันเคยจำได้มันก็จะรำลึกได้ทันทีว่า มันคือการที่ฉันถูกประณามในที่สาธารณะใช่ไหม ? แน่นอนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ลึก ๆ ภายในจิตใจของฉัน เพราะตอนที่มันเกิดขึ้น ฉันยังเด็กอยู่มาก และฉันก็เติบโตมาพร้อมกับสิ่งนั้น”

ไนต์ลีย์ยอมรับว่า ด้วยกระแสโจมตีที่มาพร้อมกับชื่อเสียง มันหนักหนาจนทำให้หญิงสาวอายุ 22 ปีไม่อาจต้านทานไหว ในปีที่ ‘At World’s End’ เข้าฉาย เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเครียดหลังพบเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนใจ (Post-Traumatic Stress Disorder – PTSD) จนต้องหยุดรับการแสดงไป 1 ปีเต็ม โดยมีครอบครัว รวมทั้งคนรักที่อยู่เคียงข้างเธอในระหว่างการบำบัดรักษา ก่อนจะกลับมารับงานในหนังฟอร์มเล็กที่ทำให้เธอได้แสดงฝีมือ จนได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมใน ‘The Imitation Game’ (2014)

หลังจากที่โปรดิวเซอร์มือฉมัง เจอรี บรักไฮเมอร์ (Jerry Bruckheimer) ได้ประกาศข่าวว่ากำลังจะมีการสร้าง ‘Pirates of the Caribbean’ ฉบับรีบูต แฟน ๆ ต่างก็คาดหวังว่าจะมีนักแสดงจากภาคเก่า ๆ กลับมาด้วยหรือไม่ ซึ่งนอกจาก จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ที่ไม่ได้กลับมารับบทกัปตันแจ็ก สแปโรว์แล้ว แน่นอนว่าไนต์ลีย์เองก็ไม่ขอกลับไปรับบทแจ้งเกิดของเธออีก ตามที่เธอเคยยืนยันกับ Entertainment Tonight

“แล้วอลิซาเบธ สวอน ล่ะ ? คือหมายความว่าเธอแล่นเรือจากไปอย่างสวยงามแล้วล่ะค่ะ เธอออกเดินทางไกลได้อย่างยอดเยี่ยม และมันก็เหมือนกับจรวดที่ส่งฉันให้ไปถึงอาชีพการงานจริง ๆ โชคร้ายที่ตอนนั้นฉันอายุแค่ 16-17 ปีเอง ฉันเลยจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่มันเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันอย่างแน่นอน”

Keira Knightley Pirates of the Caribbean Dead Man's Chest

ในปัจจุบัน ไนต์ลีย์เป็นทั้งนักแสดงที่มีผลงานในหนังอย่างที่เธออยากจะแสดง และเป็นแม่ของลูกสาววัย 9 และ 5 ขวบ เธอเคยเปิดเผยกับ Variety ถึงช่วงเวลาอันน่ากลัวของชื่อเสียงที่มาอย่างกะทันหัน แต่ในอีกด้านหนึ่ง เธอเองก็ยอมรับอย่างเต็มใจว่า ‘Pirates of the Caribbean’ ได้นำพาเธอมาสู่อาชีพนักแสดงที่มีคนรู้จักมากขึ้น

“ฉันรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ฉันไม่ใช่คนชอบเข้าสังคมนัก ดังนั้นฉันจึงรับมือกับการถูกจับตามอง และความโด่งดังขนาดนั้นได้ยากมาก มันเป็นช่วงชีวิตที่กำลังเติบโต ยังไม่สมบูรณ์ และบางครั้งก็ทำผิดพลาดบ้าง มันเป็นช่วงวัยที่เปราะบางมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง ในหลาย ๆ ด้านก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่”

“มันเป็นประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจมาก แต่มันก็ปูทางให้กับอาชีพของฉันในเวลาต่อมา เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันจะเลือกทำอะไรที่ต่างออกไปไหม ? ก็คงไม่ ฉันคงไม่เปลี่ยนอะไร เพราะตอนนี้ฉันโชคดีมาก ๆ ฉันอยู่ในจุดที่ฉันสนุกกับอาชีพของฉัน ฉันมีชื่อเสียงในระดับที่ไม่รุนแรงเกินไป ฉันรับมือกับมันได้ และมันก็ดีมาก แต่ว่าตอนนั้นมันไม่ดีเลย ฉันต้องใช้เวลาหลายปีในการบำบัดเพื่อที่จะทำความเข้าใจกับมัน”