คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) เตรียมการสร้างโปรเจกต์ใหม่ร่วมกับ Universal ภายหลังจากประสบความสำเร็จร่วมกันใน ‘Oppenheimer’ (2023) ซึ่งทำรายได้ทั่วโลกถึง 975.6 ล้านเหรียญ และชนะเลิศ 7 รางวัลออสการ์ รวมถึง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม (โนแลน) และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (คิลเลียน เมอร์ฟี; Cillian Murphy)
ล่าสุด ชาร์ลีซ เทรัน (Charlize Theron) นักแสดงหญิงวัย 49 ปี เจ้าของรางวัลออสการ์จาก ‘Monster’ (2003) และเป็นที่จดจำไปทั่วโลกบทบาทแอ็กชันใน ‘Mad Max: Fury Road’ (2015) และ ‘Atomic Blonde’ (2017) ได้เซ็นสัญญาร่วมแสดงในโปรเจกต์ใหม่ของโนแลน
เทรันเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์คนที่ 7 ที่เข้าร่วมในโปรเจกต์นี้ โดยนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์อีก 6 คน ที่ได้รับการเปิดเผยชื่อก่อนหน้านี้ ได้แก่
- แมตต์ เดมอน (Matt Damon) : เคยร่วมงานกับโนแลนใน ‘Oppenheimer’
- แอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) : เคยร่วมงานกับโนแลนใน ‘The Dark Knight Rises’ (2012)
- โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) : เคยร่วมงานกับโนแลนใน ‘Tenet’ (2020)
- ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland)
- เซ็นเดยา (Zendaya)
- ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) : ชนะเลิศรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จาก ’12 Years a Slave’ (2013)
โปรเจกต์นี้จะเป็นการกำกับและเขียนบทเรื่องที่ 13 ของโนแลน ซึ่งเขาได้ปิดรายละเอียดทุกอย่างไว้เป็นความลับ โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า โนแลนต้องการเปลี่ยนมาสร้างภาพยนตร์ที่ฟอร์มเล็กลง หลังจากสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับบล็อกบัสเตอร์ติดต่อกันมานานหลายปี แต่จากรายชื่อนักแสดงข้างต้นทำให้เกิดข้อสงสัยว่านี่จะเป็นโปรเจกต์ฟอร์มเล็กลงอย่างที่โนแลนเคยให้สัมภาษณ์หรือไม่
นอกจากนี้ IMAX ยังได้เปิดเผยว่า ทีมงานของโนแลนและ IMAX ได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีกล้องใหม่มานานกว่าปี และจะนำไปใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ใหม่ของโนแลนเป็นเรื่องแรก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโนแลนยังคงให้ความสำคัญกับการฉายในระบบ IMAX เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับผลงานของเขาก่อนหน้านี้ที่ใช้เทคโนโลยี IMAX ในการสร้างสรรค์งานภาพได้อย่างน่าทึ่ง เช่น ‘The Dark Knight’ (2008), ‘Dunkirk’ (2017), ‘Tenet’ และ ‘Oppenheimer’ เป็นต้น
ภาพยนตร์ใหม่ของโนแลนได้รับการวางกำหนดการฉายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2026