แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่ไม่ประจักษ์ถึงความยิ่งใหญ่ของหนังดราม่าฟอร์มยักษ์ ‘Titanic’ (1997) ผลงานชิ้นเอกจากวิสัยทัศน์ของ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ที่นอกจากจะสร้างปรากฏการณ์ด้วยรายได้และรางวัลการันตีท่วมท้น รวมทั้งยังเป็นหนังที่แจ้งเกิดนักแสดงหนุ่มสาวทั้ง ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) เจ้าของบท แจ็ก ดอว์สัน และ เคต วินสเลต (Kate Winslet) ผู้รับบท โรส เดวิต บูเคเตอร์ ให้แจ้งเกิดกลายเป็นนักแสดงแถวหน้าระดับคุณภาพ
แต่การก้าวขึ้นมาโดดเด่นในฐานะนักแสดงระดับโลก ก็ทำให้วินสเลตในวัย 22 ปี ต้องพบกับผลกระทบอีกด้านของชื่อเสียงที่โหดร้ายและทำให้เธอเจ็บปวดจนทุกวันนี้ วินสเลตในวัย 49 ปี เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก ‘The Reader’ (2008) ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการ 60 Minutes ถึงช่วงเวลาในอดีต ที่เธอต้องต่อสู้กับการถูกวิพากษ์วิจารณ์รูปร่าง ซ้ำร้าย คำวิจารณ์เหล่านั้นถูกเผยแพร่ออกมาผ่านสื่อ
โดยในระหว่างสัมภาษณ์ ได้มีการเปิดคลิปส่วนหนึ่งของ E! News ซึ่งเป็นภาพข่าวในขณะที่เธอกำลังเดินพรมแดงในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำที่ออกอากาศในปี 1998 ประกอบกับเสียงของผู้บรรยายที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ชุดเดินพรมแดงของวินสเลตว่า “ชุดดูแน่นรัดติ้วจนแทบจะปลิ้น” และ “เธอควรจะเพิ่มขนาดชุดขึ้นอีกสัก 2 ไซซ์ ถึงจะดูโอเคกว่า”
“มันเป็นอะไรที่น่ารังเกียจมากจริง ๆ ค่ะ พวกเขาต้องเป็นคนแบบไหนนะ ถึงทำอะไรแบบนี้กับนักแสดงสาวที่กำลังพยายามจะค้นหาตัวเองแบบนั้น ? “
เมื่อวินสเลตถูกถามว่า เธอเคยเผชิญหน้ากับสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์เธอในเรื่องนี้หรือไม่ เธอกล่าวถึงเรื่องนี้ทั้งน้ำตา
“ฉันเคยเจอกับพวกเขาแบบต่อหน้าต่อตา ฉันก็เลยพูดไปว่า ‘ขอให้พวกเธอโดนแบบนั้นบ้างสักครั้งก็แล้วกัน ฉันหวังว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะหลอกหลอนพวกคุณ’…”
(ร้องไห้) “…มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก ๆ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะมันไม่ได้มีความหมายแค่เฉพาะกับตัวฉันเอง แต่มันมีความหมายสำหรับทุกคนที่ต้องเผชิญกับการถูกคุกคามในแบบเดียวกัน มันน่ากลัวมาก ๆ มันเป็นอะไรที่เลวร้ายจริง ๆ “
แม้วินสเลตจะแจ้งเกิดจาก ‘Titanic’ อย่างสง่างาม แต่หลาย ๆ คนกลับเพ่งเล็งไปที่รูปร่าง จนเป็นที่มาของการบุลลีน้ำหนักตัวของเธอ และในที่สุดมันก็ลุกลามไปจนถึงสื่อมวลชน เนื้อตัวร่างกายของเธอกลายมาเป็นที่สนทนาและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และยิ่งหนักหนายิ่งขึ้นเมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในช่วงนั้น
วินสเลตได้เล่าไว้ในพอดแคสต์ Happy Sad Confused ว่า มีผู้ชมบางส่วนที่บุลลีน้ำหนักตัวของเธอด้วยการพูดว่า ที่แจ็กไม่รอดในน่านน้ำแอตแลนติกอันหนาวเหน็บหลังจากเรือไททานิกล่ม ก็เป็นเพราะว่าโรส (วินสเลต) น้ำหนักตัวมากเกินไป แจ็กเลยไม่อาจจะเกาะแผ่นประตูที่โรสนอนอยู่เอาไว้ได้
“ดูเหมือนว่าฉันจะดูอ้วนมากเกินไป ทำไมพวกเขาถึงใจร้ายกับฉันขนาดนั้นด้วย พวกเขาแ-่งใจร้ายมาก ฉันไม่ได้อ้วนเลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันยังเป็นแค่ผู้หญิงวัยรุ่น ร่างกายของฉันกำลังเปลี่ยนแปลง ฉันกำลังค้นหาตัวเอง และฉันก็รู้สึกไม่มั่นคงอย่างมาก ฉันหวาดกลัว อย่าทำอะไรให้มันยากกว่านี้ได้ไหม นี่มันเป็นการกลั่นแกล้งกันชัด ๆ และอันนี้ฉันพูดเลยว่ามันเกือบ ๆ จะเป็นการคุกคามด้วยซ้ำนะ”
วินสเลตได้เปิดเผยกับ The Times เกี่ยวกับการเผชิญกับการถูกเหยียดและบูลลีเรื่องน้ำหนักตัวมาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเรียนอยู่ในโรงเรียนการแสดง เธอถูกคนในโรงเรียนเรียกว่าเป็น ‘สาวอ้วน’ และเคยถูกแนะนำให้เธอมองเฉพาะแค่บทหญิงสาวที่มีน้ำหนักตัวเยอะ โชคดีที่เธอสามารถต่อสู้และก้าวผ่านคำเหยียดและกลายมาเป็นนักแสดงที่สามารถรับทุกบทบาทได้อย่างดี
“จริง ๆ มันสามารถมองเป็นเรื่องที่ลบมาก ๆ ก็ได้ แต่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงแล้วจริง ๆ ตอนที่ฉันยังเด็ก ตัวแทนของฉันเคยได้รับสายที่มีคนถามว่า ‘น้ำหนักตัวของเธอเป็นไงแล้วบ้าง ? ‘ นี่ฉันไม่ได้ล้อเล่นเลยนะ ดังนั้นฉันจึงรู้สึกเริ่มอุ่นใจที่สิ่งนี้มันเริ่มจะเปลี่ยนไปแล้ว”
วินสเลตยังได้มีโอกาสพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของฮอลลีวูดต่อมุมมองที่มีต่อร่างกายนักแสดงกับ Harper’s Bazaar ตอนที่เธอทำงานเป็นนักแสดงและโปรดิวเซอร์ ‘Lee’ (2023) หนัง Biopic ที่เล่าเรื่องของ ลี มิลเลอร์ (Lee Miller) ช่างภาพสงครามของนิตยสาร Vogue ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเธอได้เล่าเบื้องหลังของความพยายามที่จะ
ทลายกรอบอุดมคติและอคติเกี่ยวกับร่างกายของฮอลลีวูด โดยก่อนการถ่ายทำ เธอตั้งใจหยุดออกกำลังกายไประยะหนึ่งเพื่อให้ดูมีน้ำมีนวลตามคาแรกเตอร์ และได้ปฏิเสธทีมงานคนหนึ่งที่พยายามจะให้เธอลุกขึ้นนั่งตัวตรง ๆ เพื่อเก็บซ่อนพุงที่พับเป็นชั้น ๆ ของเธอ
“มีฉากหนึ่งที่ลีจะตั้งนั่งอยู่บนม้านั่งในชุดบิกินี และมีทีมงานเดินเข้ามาพูดระหว่างพักการถ่ายทำว่า ‘คุณน่าจะลองนั่งตัวตรงขึ้นมาอีกหน่อยนะ’ เพื่อที่จะไม่ได้ไม่เห็นพุงของฉันอย่างนั้นน่ะเหรอ ไม่มีวัน ! รู้ไหมว่าฉันตั้งใจจะทำแบบนี้แหละ ฉันภูมิใจในสิ่งนี้ เพราะมันคือชีวิตของฉันที่สะท้อนออกมาให้เห็นตรงหน้า และนั่นก็สำคัญสำหรับฉัน ฉันไม่เคยมีความคิดที่จะปกปิดสิ่งนี้อยู่ในห้วเลย”