แม้ทุกวันนี้เราจะรู้จัก แอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) นักแสดงสาวสวยที่มีดีทั้งเสน่ห์น่าดึงดูด และฝีมือการแสดงที่เสมอต้นเสมอปลาย รับประกันด้วยรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม แต่อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยต้องเผชิญกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์และเกลียดชังจากบรรดาผู้ชมบางส่วน จนทำให้เธอถึงกับสูญเสียความมั่นใจในอาชีพนักแสดง

แต่โชคดีที่เธอได้มีโอกาสร่วมงานแสดงกับผู้กำกับจอมฝีมืออย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) และด้วยผลงานการกำกับของโนแลน และฝีมือการแสดงของเธอ ก็ทำให้แฮททาเวย์ก้าวผ่านจุดนั้นมาได้แบบสวย ๆ มาจนถึงปัจจุบัน แฮททาเวย์ได้มีโอกาสเปิดเผยความรู้สึกในการร่วมงานกับโนแลน ในบทสัมภาษณ์ของ Women’s Wear Daily หลังจากที่มีข่าวออกมายืนยันแล้วว่า เธอจะได้กลับไปร่วมงานกับโนแลนอีกครั้งในโปรเจกต์หนังเรื่องใหม่ล่าสุด ซึ่งทำให้เธอรู้สึกปลาบปลี้มและยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับโนแลนเป็นครั้งที่ 3

“ความรู้สึกของฉันที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มันท่วมท้นซะจนไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยค่ะ มันทำให้ฉันมีความสุขมาก ฉันรักคริส และเอ็มมา (เอ็มมา โธมัส – Emma Thomas โปรดิวเซอร์ และภรรยาของโนแลน) มาก ๆ และการที่ฉันได้รับเชิญเข้าไปในโลกของพวกเขา มันเป็น 1 ในสถานที่ที่ดีที่สุดที่คุณจะค้นพบได้เลยค่ะ”

Anna Hathaway Interstellar

“การได้รับเชิญถึง 2 ครั้ง นับเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ครั้งที่ 3 นี่สำหรับฉันมันดูหวังสูงมากเกินไปหน่อย ฉันเลยไม่เคยคาดหวังว่ามันจะต้องเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วจริง ๆ ฉันก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก และพูดตามตรงว่า มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะทำบางสิ่งบางอย่างที่ถูกต้องอยู่”

หลังจากที่แฮททาเวย์ประสบความสำเร็จสูงสุดบนเส้นทางการแสดงอย่างรวดเร็ว จากการคว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากการรับบทเป็นฟองตีน (Fantine) สาวผู้มีชะตากรรมแสนอาภัพ ในภาพยนตร์พีเรียดดราม่ามิวสิคัล ‘Les Misérables’ (2012) ของผู้กำกับ ทอม ฮูเปอร์ (Tom Hooper) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 รางวัลออสการ์ที่ตัวหนังคว้ามาได้

แม้นักวิจารณ์จะชื่นชมในฝีมือของเธอ แต่แฟนคลับบางส่วน โดยเฉพาะชาวเน็ตที่ต่างรุมวิพากษ์วิจารณ์เธอทั้งในแง่ของฝีมือการแสดง ไปจนถึงเรื่องส่วนตัวจิปาถะ จนทำให้มีผู้เรียกกลุ่มคนเหล่านั้นว่าเป็น ‘Hathahate’ แฮททาเวย์ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้กับนิตยสาร Vanity Fair ว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอประสบกับแรงกดดันจากพิษแห่งความเกลียดชัง ที่ทำให้เธอสูญเสียความเชื่อมั่นในอาชีพไปเลย

แต่สิ่งที่ทำให้เธอก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนั้นมาได้ ก็คือการรับบท ดร. อเมเลีย แบรนด์ นักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์แห่งองค์การ NASA ในหนังไซไฟอวกาศ ‘Interstellar’ (2014) ซึ่งเป็นการร่วมงานครั้งแรกของเธอกับโนแลน และทำให้เธอกลายมาเป็นนักแสดงขวัญใจมหาชนได้ในที่สุด และแฮททาเวย์ก็ได้กลับมาร่วมงานกับโนแลนอีกครั้งกับบทบาท เซลีนา ไคล์ หรือ Catwoman ใน ‘The Dark Knight Rises’ (2012) หนังปิดไตรภาคอัศวินรัตติกาล ‘The Dark Knight’

“มีผู้คนจำนวนเยอะมากที่ไม่ยอมให้ฉันได้รับบทบาทค่ะ เพราะพวกเขาต่างก็กังวลว่า พิษแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ตัวตนของฉันมันจะถูกปล่อยออกมาสู่โลกออนไลน์ แต่เมื่อฉันได้พบกับคนใจดีอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ไม่สนใจในเรื่องพวกนั้น และมอบบทบาทที่สวยงามที่สุดครั้งหนึ่ง ในหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ฉันแสดงมาด้วย ฉันไม่รู้นะว่าเขาจะรู้ไหม เขากำลังช่วยหนุนหลังฉันในตอนนั้นไม่ให้เสียสมดุลในหน้าที่การงานไปมากกว่าที่ควรจะเป็น”

Anna Hathaway The Dark Knight Rises

หลังประสบความสำเร็จอย่างจาก ‘Oppenheimer’ (2023) ที่ทำรายได้อย่างงดงาม และเป็นเจ้าของ 7 รางวัลออสการ์อย่างสมศักดิ์ศรี ในปีนี้ โนแลนได้ยืนยันว่าเขากำลังจะมีโปรเจกต์หนังเรื่องใหม่ล่าสุด และเป็นการร่วมงานกันอีกครั้งของเขากับสตูดิโอ Universal Pictures วางโปรแกรมฉายช่วงฤดูร้อน วันที่ 17 กรกฎาคม ปี 2026

โดยหนังเรื่องนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อและเรื่องย่อ มีแต่การเปิดเผยเพียงรายชื่อนักแสดงระดับ A-List ไล่ไปตั้งแต่นักแสดงที่เคยร่วมงานกับโนแลนมาแล้วทั้งแฮททาเวย์, แมตต์ เดมอน (Matt Damon), โรเบิร์ต แพททินสัน (Robert Pattinson) และนักแสดงหน้าใหม่ของหนังโนแลน ทั้ง ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland), เซนเดยา (Zendaya), ลูพิตา นียองโก (Lupita Nyong’o) และ ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron)

แน่นอนว่า เราจะได้พบกับแฮททาเวย์ในหนังของโนแลนเป็นครั้งที่ 3 ในอนาคตอันใกล้ แต่เธอก็ยังคงประทับใจในการร่วมงานของเธอกับโนแลนใน ‘Interstellar’ ที่แม้ระยะเวลาจะผ่านมานานนับทศวรรษแล้ว แต่เธอก็ยังคงรู้สึกเสมอว่านี่คือช่วงเวลาในเส้นทางการแสดงที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของเธอ

“ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนของชีวิต สำหรับฉัน การได้รับบทใน ‘Interstellar’ ก็ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญในอาชีพการงานของฉันอยู่ตลอดค่ะ สำหรับฉันแล้ว ช่วงเวลาที่ได้ก้าวเข้าไปในโลกใบนั้น มันเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย และน่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับฉัน ทั้งในฐานะนักแสดง และในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง”