[รีวิว] Carry-On หนังบู๊รับคริสต์มาสที่มันกว่าที่คิด

Release Date

13/12/2024

ความยาว

119 นาที

แนวหนัง

ทริลเลอร์ แอ็กชัน

ผู้กำกับ

ฆัวเม่ คอลเลต เซียร์รา ( Jaume Collet-Serra)

นักแสดง

ทารอน เอเกอร์ตัน (Taron Egerton) เจสัน เบตแมน (Jason Bateman)

ผลงานเด่นผู้กำกับ

Orphan, Unknown, Non-Stop, The Commutor

[รีวิว] Carry-On หนังบู๊รับคริสต์มาสที่มันกว่าที่คิด
Our score
7.9

[รีวิว] Carry-On หนังบู๊รับคริสต์มาสที่มันกว่าที่คิด

หนังบู๊รับคริสต์มาสที่มันกว่าที่คิด

เมื่อพ้นองก์แรกที่ปูไว้อย่างแข็งแรงบทหนังก็ติดสปีดแบบกลัวคนดูง่วงเหงาหาวนอน อัดสถานการณ์ระทึกตลอดเวลาร่วม 2 ชั่วโมงของหนังจนทำให้ภาพรวมของมันกลายเป็นหนังแอ็กชันที่น่าพึงพอใจแบบคิดถึง 'Die Hard' ก็สามารถดู 'Carry-On' ควบกันได้อย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งนอกจากงานบทแล้วก็ต้องยอมรับในฝีมือการกำกับของ ฆัวเม่ คอลเลต เซียร์รา ที่วางจังหวะแต่ละซีนได้พอดิบพอดี อีกองค์ประกอบคงต้องยกให้การแสดงของ ทารอน เอเกอร์ตัน และ เจสัน เบตแมน ในทุกซีนที่เจอกัน ผู้ชมแทบหายใจไม่ทั่วท้องแม้จะไม่ได้เจอกันแล้วไฝ่ว์กันตลอดเวลาก็ตาม

จุดเด่น

  1. ปูตัวละครได้แข็งแรงในองก์แรก
  2. แม้หนังจะเดินเรื่องเร็วแต่ไม่แห้งแล้งอารมณ์ขันและดราม่า
  3. ทารอน อีเกอร์ตัน และ เจสัน เบทแมน เข้าขากันมาก สร้างความกดดันให้ผู้ขมได้ตลอด

จุดสังเกต

  1. แม้บทจะพยายามรัดกุม แต่ก็นยังมีช่องโหว่อยู่ดี
  • บทภาพยนตร์

    7.5

  • การแสดง

    8.0

  • โปรดักชัน

    8.0

  • ความบันเทิง

    8.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    8.0

ช่วงเวลาปลายปีแบบนี้ทั้งโรงหนังและสตรีมมิงต่างก็มีโปรแกรมรับเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งบางปีก็อาจจะมีโปรแกรมที่มีเนื้อหาเข้ากับเทศกาลโดยตรงหรือเป็นโปรแกรมเพชรหนังพันล้านเพื่อดึงดูดคนในเทศกาลวันหยุดยาวให้พาครอบครัวไปโรงหนังกัน และในทุกสำนักเวลามีการจัดอันดับหนังเทศกาลคริสต์มาสหนึ่งในหนังแอ็กชันที่ถูกเอามาพูดถึงตลอดนั่นคือ ‘Die Hard’ หนังปี 1988 ของผู้กำกับ จอห์น แม็กเทียร์แนน (John McTiernan) ด้วยการผสานเรื่องราวการช่วยเหลือตัวประกันของพระเอกปากดี มีไหวพริบ เข้ากับฉากหลังที่เป็นงานปาร์ตี้คริสต์มาสเข้ากับเทศกาลได้อย่างลงตัว

และปี 2024 เน็ตฟลิกซ์ก็ขอส่ง ‘Carry-On’ หนังทริลเลอร์สุดระทึกจากการกำกับของ ฆัวเม่ คอลเลต เซียร์รา (
Jaume Collet-Serra) ที่เคยผ่านผลงานระทึกขวัญเกี่ยวกับยานพาหนะอย่าง ‘Non-Stop’ และ ‘The Commutor’ มารับหน้าที่กุมบังเหียนหนังในเน็ตฟลิกซ์เรื่องแรกของเขาและได้ ทารอน เอเกอร์ตัน (Taron Egerton) และ เจสัน เบตแมน (Jason Bateman) มารับบทนำ

โดย เอเกอร์ตัน รับบทเป็น อีธาน เจ้าหน้าที่กราวนด์ของสนามบินที่ได้รับโอกาสให้มาคุมเครื่องตรวจสัมภาระผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง จนตกกระไดพลอยโจนร่วมแผนก่อการร้ายที่มีนักเดินทางนิรนาม (รับบทโดย เบตแมน) คอยชักใยแผนการ ซึ่งเดิมพันที่ทำให้อีธานไม่อาจหลุดพ้นจากวังวนของแผนมรณะนี้คือชีวิตของ นอร่า (รับบทโดย โซเฟีย คาร์สัน, Sofia Carson) แฟนสาวของเขา งานนี้อีธานจำเป็นต้องเลือกระหว่างชีวิตคนบนเครื่องบินนับร้อย กับคนที่เขารักสุดชีวิต

บทหนังของ ที เจ ฟิกซ์แมน (T.J. Fixman) อดีตคนเขียนบทวิดีโอเกม ‘Ratchet and Clank’ คือการคลี่สูตรหนังระทึกขวัญในแบบที่อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อกซ์ (Alfred Hitchcock) จะเรียกมันว่าหนังตู้เย็น เพราะในขณะที่เรื่องราวขมวดปมระทึกเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ มันก็จะพลอยทิ้งช่องโหว่ของเรื่องราวให้เราจับผิดมากขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมฟิกซ์แมนจริง ๆ คือการที่เขาเองก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยกับการวางสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ ตรงกันข้ามฟิกซ์แมนได้วางหมากไว้หมดแล้วว่าตัวเอกอย่าง อีธาน จะไม่ใช่พระเอกที่เก่งกาจไปเสียทุกอย่างและพร้อมจะก้าวผิดพลาดได้เหมือนมนุษย์มีเลือดเนื้อทั่ว ๆ ไป

BT Buzz รีวิว Carry-On
BT Buzz รีวิว Carry-On

ยิ่งในองก์แรกฟิกซ์แมนได้วางเรื่องราวผ่านบทสนทนาของอีธานกับนอร่าที่พูดถึงความฝันที่ค้างคาของเขายิ่งทำให้เห็นว่าฟิกซ์แมนไม่ได้ละเลยการสร้างตัวละครผนวกกับปมที่หัวหน้างานที่สนามบินไม่ยอมเลื่อนตำแหน่งให้อีธานยิ่งทำให้ผู้ชมเชื่อมโยงกับฟิกซ์แมนในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาที่ต้องมารับมือกับสถานการณ์โอละพ่อในวันหยุดคริสต์มาส ซึ่งบทภาพยนตร์ก็นำเสนอมุมมองด้านลบของอีธานต่อเทศกาลคริสต์มาสจนทำให้เทศกาลแห่งความสุขกลายเป็นกิมมิกที่ช่วยส่งเสริมการเล่าเรื่องได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย

และเมื่อพ้นองก์แรกที่ปูไว้อย่างแข็งแรงบทหนังก็ติดสปีดแบบกลัวคนดูง่วงเหงาหาวนอน อัดสถานการณ์ระทึกตลอดเวลาร่วม 2 ชั่วโมงของหนัง จนทำให้ภาพรวมของมันกลายเป็นหนังแอ็กชันที่น่าพึงพอใจแบบคิดถึง ‘Die Hard’ ก็สามารถดู ‘Carry-On’ ควบกันได้อย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งนอกจากงานบทแล้วก็ต้องยอมรับในฝีมือการกำกับของ ฆัวเม่ คอลเลต เซียร์รา ที่วางจังหวะแต่ละซีนได้พอดิบพอดี แม้ฉากแอ็กชันตึงตังจริง ๆ จะมีไม่เยอะแต่เซียร์ราก็อาศัยการวางสถานการณ์และการกำกับให้แต่ละซีนมีผ่อนหนักผ่อนเบา แม้หนังจะเดินเรื่องเร็วแต่ไม่แห้งแล้งอารมณ์ขันและดราม่าตามที่บทได้ปูไว้ไม่มีตกเลย

อีกองค์ประกอบคงต้องยกให้การแสดงของ ทารอน เอเกอร์ตัน และ เจสัน เบตแมน ในทุกซีนที่เจอกัน ผู้ชมแทบหายใจไม่ทั่วท้องแม้จะไม่ได้เจอกันแล้วไฟต์กัน เรากลับสัมผัสได้ถึงความอำมหิตเลือดเย็นของตัวละครที่เบตแมนสวมบทบาท และให้เซนส์ของผู้ก่อการร้ายมืออาชีพที่เดาทางได้ยาก ส่วน ทารอน เอเกอร์ตัน ก็สามารถถ่ายทอดทั้งปมดราม่าของอีธานและการแสดงฉากแอ็กชันที่ทำให้เห็นเลยว่าการเกิดเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ตัวสูงมากไม่ได้เป็นปัญหาต่อการแสดงฉากแอ็กชันและเขาก็ใช้ร่างกายในการแสดงได้อย่างแข็งแรงเลยทีเดียว

สรุปแล้ว ‘Carry-On’ ถือเป็นของขวัญคริสต์มาสสำหรับคอหนังแอ็กชันของเน็ตฟลิกซ์ เชื่อว่ามันจะช่วยเติมเต็มให้เทศกาลปลายปีนี้ไม่แห้งแล้งหนังบู๊มัน ๆ ที่มาช่วยตัดเลี่ยนหนังโรแมนติก คอเมดี ที่มีเสิร์ฟคอร์สใหญ่บนสตรีมมิงหลายเจ้าอย่างแน่นอน

BT Buzz รีวิว Carry-On
กดที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์ทาง Netflix