นับตั้งแต่ที่นักแสดงมากฝีมือ แชดวิก โบสแมน (Chadwick Boseman) ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อปี 2020 ผลงานการแสดงของเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำของแฟน ๆ รวมทั้งความประทับใจของเหล่าบรรดานักแสดงที่เคยร่วมงานกับเขา 1 ในนั้นก็คือ จอห์น คานี (John Kani) นักแสดงรุ่นใหญ่ชาวแอฟริกาใต้วัย 81 ปี เจ้าของบทบาททีชากา ที่เคยร่วมงานกับโบสแมนใน ‘Captain America: Civil War’ (2016) และ ‘Black Panther’ (2018)
คานี เจ้าของเสียงพากย์ตัวละครลิงราฟิกิ ได้ให้สัมภาษณ์กับ People ในระหว่างงานแถลงข่าวหนัง ‘Mufasa: The Lion King’ ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในการร่วมงานกับโบสแมน รวมทั้งความประทับใจส่วนตัวเมื่อเขาพบว่า มีคนจำนวนมากส่งข้อความแสดงความเสียใจ เพราะคิดว่าเขาคือพ่อแท้ ๆ ของนักแสดงผู้ล่วงลับเช่นเดียวกับในหนัง
“เด็กคนนี้น่าทึ่งมาก ๆ ครับ ผมอยู่กับลูกชายของผม อาทันด์วา (Atandwa) ทั้ง 2 คนเหมือนกับลูกชายของผมแท้ ๆ เลย พวกเขาชอบเรียกผมว่าพ่อตลอดเวลาเลย…”
“…ตอนที่แชดวิกจากไป ผมได้รับข้อความแสดงความเสียใจนับพัน ๆ ข้อความเลยครับ ตอนแรก ผมพยายามจะอธิบายว่า’ไม่ เขาไม่ใช่ลูกชายของผม เขาเป็นลูกชายของผมในหนังต่างหาก…’ แต่ตอนนี้ ผมกลับยอมรับไปแล้วว่าเขาคือลูกชายของผมจริง ๆ เขาเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพและน่าทึ่งมาก ๆ ครับ”
ใน MCU คานีรับบทเป็นทีชากา (T’Chaka) พระบิดาของเจ้าชายทีชัลลา (T’Challa) และอดีตกษัตริย์แห่งประเทศวากานด้า ปรากฏตัวครั้งแรกใน ‘Captain America: Civil War’ ในฐานะของทีชากา กษัตริย์แห่งวาคานด้าที่เข้าร่วมหารือในการประชุมเกี่ยวกับสนธิสัญญาโซโคเวียที่กรุงเวียนนา ก่อนจะเสียชีวิตอย่างกะทันหันจากเหตุลอบวางระเบิด
ส่วนใน ‘Black Panther’ ปรากฏในฉากที่ทีชัลลา (T’Challa) ที่ได้รับสมุนไพรรูปหัวใจเพื่อรับพลังแห่ง Black Panther เขาได้พบกับวิญญาณของทีชากาอีกครั้งในลานบรรพชน ณ ที่นั้น เขาได้รับคำสอนจากพ่อ ทำให้ทีชัลลาสามารถโอบรับความผิดพลาด และก้าวผ่านอดีตอันเจ็บปวดในฐานะกษัตริย์แห่งวากานดาคนต่อไป
นอกจากการแสดงอันยอดเยี่ยม สิ่งที่โบสแมนได้ส่งต่อเป็นมรดกเอาไว้ใน ‘Black Panther’ คือการนำเสนออัตลักษณ์ของท้องถิ่นแอฟริกา โดยเฉพาะเรื่องของภาษา ไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) ผู้กำกับ ‘Black Panther’ และ ‘Black Panther: Wakanda Forever’ (2022) ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Washington Post ถึงจุดเริ่มต้นการนำภาษาโคซา (Xhosa) 1 ใน 11 ภาษาราชการของแอฟริกาใต้ หลังจากที่เขาได้เห็นแชดวิกและคานีสนทนากันด้วยภาษานี้ เพื่อให้ภาพลักษณ์ของวาคานด้ามีความเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่
“แชดกับจอห์นเริ่มสนทนากันด้วยภาษาที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน มันฟังดูคุ้นเคย มันเต็มไปด้วยเสียงกริ๊ก ๆ และเสียงแตะลิ้น แบบเดียวกับที่เด็กผิวดำในอเมริกาชอบทำ เสียงแบบนี้มักถูกตำหนิว่าไม่สุภาพหรือไม่เหมาะสม แต่ในที่นี้ มันเป็นสำเนียงที่เต็มไปด้วยความไพเราะ ให้ความรู้สึกถึงความโบราณ ทรงพลัง และเป็นแอฟริกันอย่างแท้จริง”
โบสแมนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 มาตั้งแต่ปี 2016 โดยที่เขาไม่เคยเปิดเผยผลการวินิจฉัยของแพทย์ต่อสาธารณะเลย มีรายงานว่า มีสมาชิกครอบครัวของเขาเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ในระหว่างเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดและใช้เคมีบำบัด โบสแมนยังคงทำงานในวงการบันเทิงด้วยการแสดงหนังหลายเรื่องอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ‘Marshall’ (2017), ‘Da 5 Bloods’ (2020) และ ‘Ma Rainey’s Black Bottom’ (2020)
รวมทั้งการพยายามรักษาอัตลักษณ์ความเป็นแอฟริกาเอาไว้ผ่านการแสดงของเขาใน ‘Black Panther’ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวหนังจะไม่นำเสนอภาพของวาคานด้าในมุมมองแบบทวีปแอฟริกันยุคอาณานิคม “Marvel เคยคิดว่าการใส่สำเนียงแอฟริกันมันดูมากเกินไป แต่ผมกลับรู้สึกตรงกันข้ามเลย ถ้าผมพูดด้วยสำเนียงอังกฤษ ตอนกลับบ้านผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ ? สำหรับผม มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ผมยอมไม่ได้”
หลังจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ลุกลามเข้าสู่ระยะที่ 4 จนกระทั่งในปี 2020 โบสแบนเสียชีวิตอย่างสงบโดยมีภรรยาและครอบครัวอยู่เคียงข้าง คานีได้ให้สัมภาษณ์ถึงโบสแมนในรายการโทรทัศน์ของแอฟริกาใต้ South African Morning
“เขาเป็นชายหนุ่มที่มีพลังมหาศาล เป็นไปด้วยความตึงเครียด ความเร่งด่วน และความมุ่งมั่นอย่างที่สุด เขารู้มากกว่าเราทุกคนว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญ และนี่คือเวลาของชาวแอฟริกา เขาเอาจริงเอาจังกับ ไรอัน คูเกลอร์ มาก ๆ และบอกกับทุกคนว่า ‘เรามีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะทำหนังที่มีนักแสดงผิวดำทั้งหมดที่ได้รับทุนจาก Marvel ในฮอลลีวูด และต้องทำมันออกมาให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะโอกาสนี้อาจไม่มีอีกต่อไปแล้ว’ เขาเป็นนักแสดงแบบนั้นแหละครับ…”
“มันเป็นทั้งความสุขและน่ายินดี ที่ได้จดจำถึงพรสวรรค์ ความทุ่มเท และการมีตัวตนที่งดงามของชายหนุ่มคนนี้ เหมือนอย่างที่ คอนนี ชิอูเม (Connie Chiume, นักแสดงร่วมใน ‘Black Panther’) บอกไว้ว่า ‘เขาปกป้องเราไว้จากความเจ็บป่วย เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องสงสารเขา’ เขาแสร้งทำตัวให้เข้มแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นแหละคือแชดวิกล่ะครับ เขาเป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยม และเป็นคนที่รักในศิลปะอย่างแท้จริง”
“ถ้าคุณมองย้อนกลับไปตั้งแต่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 และพัฒนากลายเป็นระยะที่ 4 ตอนที่เราถ่ายทำ ‘Black Panther’ ตอนนี้เมื่อลองย้อนกลับไป คุณจะรู้เลยว่า ‘พระเจ้า ผู้ชายคนนี้อดทนกับความเจ็บปวดและความเสี่ยงต่อชีวิต แต่เขาก็ยังคงหนุนหลังพวกเรา เขาทำให้เราได้เห็นถึงจรรยาบรรณการทำงานอันยอดเยี่ยม’ ซึ่งตัวอย่างนี้หาได้ยากในวงการที่เราอยู่”
คานีกล่าวทิ้งท้ายถึงความประทับในในการทำงานกับโบสแมน นักแสดงผู้ทุ่มเทกับบทบาทอย่างไม่เคยหยุดพัก เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด
“เขาต้องการความมั่นใจว่าเราจะทำออกมาได้ดีที่สุด กับแชดวิก เราจะรับรู้ได้ถึงความสำคัญของเวลา เขาทำงานตามตารางที่มีแค่เขาเท่านั้นที่เข้าใจ และรู้ตัวอยู่ตลอดว่าเวลาของเรามีไม่มากพอ เขาอยากให้ 1 วันมีสัก 25 ชั่วโมง เพื่อให้เขาได้มีโอกาสพูดในทุกสิ่งที่เขาต้องการ และนั่นก็คือประสบการณ์ที่ผมมีกับแชดวิกครับ”