เมื่อพูดถึง ‘Home Alone’ (1990) นอกจากความแสบของเด็กชาย เควิน แม็กคาร์ลิซเตอร์ กับแผนกำราบโจรสุดแสบที่แสดงโดย แม็กเคาเลย์ คัลกิน (Macaulay Culkin) แล้ว บ้านอิฐสีแดงหลังงามก็กลายเป็นไอคอนของหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คัลกิน อดีตนักแสดงเด็กวัย 10 ขวบที่แจ้งเกิดจากหนังเรื่องนี้ ได้รับเชิญในการจัดกิจกรรม A Nostalgic Night With Macaulay Culkin
นอกจากจะมีการฉาย ‘Home Alone’ รอบพิเศษแล้ว คัลกินยังรับหน้าที่เล่าเบื้องหลังสนุก ๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กับแฟนคลับ โดยเขาได้เปิดเผยว่า เขาเคยมีความคิดอยากจะซื้อบ้านที่เขาเคยป่วนในหนัง ตอนที่มีประกาศการขายบ้านหลังนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เขาไม่ได้จะซื้อเอาไว้อยู่หรือสร้างกับดักป้องกันโจรร้าย แต่ซื้อเพราะด้วยเหตุผลที่ง่ายกว่านั้น
“ผมเคยเกือบจะซื้อบ้านแล้วล่ะ ซื้อมาไว้แบบขำ ๆ ผมอยากจะเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น ‘บ้านสวนสนุกจากภาพยนตร์’ ที่คนจะสามารถใช้เลื่อนไถลตัวลงมาจากบันไดได้เหมือนที่เควินทำในหนัง”
แต่เหตุผลที่เขายั้งมือและไม่คิดจะซื้อนั้นง่ายยิ่งกว่า “เพราะว่าผมมีลูกแล้วน่ะครับ และผมก็ยุ่งมากด้วย”
‘Home Alone’ ผลงานการกำกับของผู้กำกับเจ้าพ่อหนังเด็ก คริส โคลัมบัส (Chris Columbus) เรื่องนี้ นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยรายได้ทั่วโลกถึง 476 ล้านเหรียญ ทำรายได้สูงสุดอันดับที่ 2 ของปี 1990 และส่งให้คัลกินกลายเป็นดาราเด็กที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดแล้ว บ้านหลังงามของน้องเควินหลังนี้ยังกลายเป็นที่จดจำอีกด้วย
โดยบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 671 หมู่บ้านวินเน็ตกา (Winnetka) ย่านชานเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เป็นบ้านอิฐสไตล์โคโลเนียลบนเนื้อที่ 2,000 ตารางเมตรที่ไม่มีรั้วกั้น สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1920 เป็นบ้านครอบครัวเดี่ยวขนาดใหญ่ 3 ชั้น มีชั้นใต้ดินและใต้หลังคา ประกอบไปด้วย 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำส่วนตัว 1 ห้องน้ำแขก 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องทำงาน มีพื้นที่ใช้สอยรวม 390 ตารางเมตร
ตลอดเวลาที่ผ่านมา บ้านหลังนี้มีแฟนหนังมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปเพื่อตามรอยหนังเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2021 บ้านหลังนี้เคยเปิดให้เช่าบนแพลตฟอร์ม Airbnb ให้แฟน ๆ มาเข้าพักเป็นเวลา 1 คืน จนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการประกาศขายบ้านหลังนี้ด้วยราคา 5.25 ล้านเหรียญ ซึ่งนับเป็นการประกาศขายบ้านครั้งแรกในรอบ 12 ปี และนับเป็นครั้งที่ 2 ที่บ้านหลังนี้ถูกขายนับตั้งแต่ที่หนังออกฉาย ก่อนที่บ้านหลังงามนี้จะถูกขายออกไปในเดือนมิถุนายน หลังจากประกาศวางขายได้เพียงแค่สัปดาห์เดียว
เกร็ดขำ ๆ อีกเรื่องเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ก็คือ ในตอนหนึ่งของ ‘The House From…’ สารคดีสำรวจบ้านที่โด่งดังในฮอลลีวูด ได้พาไปสำรวจบ้านหลังนี้ โดย ลอเรน อาเบิร์ดไชน์ (Lauren Aberdshein) ทายาทของตระกูลอาเบิร์ดไชน์ (Aberdshein) ที่เคยครอบครองบ้านหลังนี้ในช่วงถ่ายทำ ‘Home Alone’ ได้เปิดเผยวีรกรรมแสบ ๆ ของเด็กชายคัลกิน ที่เคยลักลอบตัดต้นไม้จริงของบ้านหลังนี้ตอนถ่ายทำฉากหนึ่งในหนัง
“พ่อแม่ของฉันกำลังดูภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ มีฉากที่เควินออกไปที่สวนหลังบ้านเพื่อตัดต้นคริสต์มาส แล้วเขาก็ตัดต้นไม้ไปครึ่งต้น พ่อแม่ของฉันนั่งดูแล้วก็คิดได้ว่า ‘ว้าว พวกเขาถ่ายฉากนี้ได้สมจริงมากเลย’ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ต้นไม้ปลอมน่ะค่ะ พอพ่อแม่กลับมาบ้านและมองไปที่หลังบ้าน ก็พบว่าต้นไม้หายไปแล้ว ดังนั้น ต้นไม้ที่คุณเห็นในหนังที่เควินเป็นคนตัด มันคือต้นไม้จริง ๆ ของบ้านเรานั่นเองล่ะค่ะ”
คัลกินยังได้พูดถึงความรู้สึกของเขากับหนังเรื่องนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่า แม้หนังเรื่องนี้จะทำให้เขาแจ้งเกิดในฮอลลีวูดแบบเปรี้ยงปร้าง แต่คำสาปของชื่อเสียงก็พาให้ชีวิตของเขาต้องดิ่งเหวลงอย่างรวดเร็ว เขาถูกพ่อที่รับหน้าที่ผู้จัดการและผู้ดูแลทรัพย์สิน คอยป้อนงานให้ราวกับเครื่องจักร จนทำให้เขาเริ่มติดแอกอฮอล์และยาเสพติด จนทำให้คัลกินตัดสินใจตัดพ่อและแม่ออกจากการเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากทรัพย์สินของเขาในวัย 15 ปี
‘Home Alone’ เคยเป็นหนังที่เขาไม่คิดอยากจะดู แต่สุดท้าย เขาได้เปิดเผยกับ E! News ว่า มุมมองที่เขามีต่อหนังเรื่องนี้เปลี่ยนไปเพราะการเป็นพ่อของลูกชาย 2 คน ได้แก่ ดาโกตา คัลกิน (Dakota Culkin) วัย 3 ขวบ และลูกชายวัย 2 ขวบที่ยังไม่เผยชื่อ ที่เกิดกับ เบรนดา ซง (Brenda Song) คู่หมั้นของเขา
“ตอนนี้ ผมมองหนังเรื่องนี้ต่างออกไปด้วยเหตุผลนี้แหละครับ ผมดูมันด้วยมุมมองที่ต่างออกไป ผมดูหนังพร้อมกับพวกเขา และพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยว่ากำลังนั่งอยู่ข้างใคร”
คัลกินเล่าเรื่องน่ารักเพิ่มเติมว่า ดาโกตา ลูกชายคนโตของเขามักชอบแกล้งพูดว่าเขาคือนักแสดงตัวจริงของหนังเรื่องนี้ “เขาคิดว่าเขาเป็นเควินน่ะครับ ผมถามเขาว่า ‘หนูจำตอนที่ไถเลื่อนลงมาจากบันไดได้ไหมลูก ? ‘ เขาตอบว่า ‘อืม จำได้แน่นอน’ ผมก็เลยถามต่อว่า ‘แล้วจำตอนที่ลูกมีผมสีเหลืองได้หรือเปล่า ? ‘ เขาก็ตอบว่า ‘อืม ใช่เลย’…”
“เขายังบอกด้วยว่าเขานี่แหละคือคนที่จัดการกับโจร ผมเลยแซวลูกไปว่า ‘ลูกนี่ขี้โกหกจริง ๆ เลยนะ คนนั้นน่ะพ่อต่างหาก !'”