ซามูเอล แอล. แจ็กสัน (Samuel L. Jackson) ในวัย 76 ปี เป็นนักแสดงที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด รวมถึงร่วมแสดงในแฟรนไชส์ระดับบล็อกบัสเตอร์มากมาย เช่น ‘Jurassic Park’, ‘Marvel Cinematic Universe’ และ ‘Star Wars’ เป็นต้น ได้ให้สัมภาษณ์กับ Masterclass เกี่ยวกับ ‘Die Hard with a Vengeance’ (1995) ที่ได้แสดงคู่กับ บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพนักแสดงของเขา

แจ็กสันได้กล่าวว่า

ตอนที่ผมเข้าฉากใน 'Die Hard' บรูซบอกผมว่า เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย มันจะเปลี่ยนชีวิตคุณ ผมก็พูดว่า แล้ว 'Pulp Fiction' ล่ะ เขาก็ตอบว่า 'Pulp' น่ะเป็นภาพยนตร์ที่ดี แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ (หมายถึง 'Die Hard') จะเปลี่ยนชีวิตของคุณไปเลย

ตอนที่ 'Pulp Fiction' เข้าฉาย ผมรู้สึกดี ผมได้รับการชื่อเข้าชิงรางวัล ทุกอย่างยอดเยี่ยมาก แต่เมื่อ 'Die Hard' เข้าฉาย มันกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในโลก ผู้คนรัก Zeus (ตัวละครของเขาใน 'Die Hard') และมักจะพูดประโยคของผมจากภาพยนตร์ทุกครั้งที่เจอผมในที่สาธารณะ

แจ็กสันได้กล่าวต่อไปว่า

หลายอย่างเปลี่ยนไป ทั้งวิธีที่คุณจะเจรจารับงาน และสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาหาคุณ มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ดั้งนั้นผมขอพูดตรงนี้ว่า 'Pulp' เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม และ 'Die Hard' เป็นภาพยนตร์ที่ส่งเสริมผมได้ดีกว่า

‘Pulp Fiction’ เข้าฉายในปี 1994 พร้อมคว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และตัวแจ็กสันก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในขณะที่ ‘Die Hard with a Vengeance’ เข้าฉายในซัมเมอร์ปี 1995 และถูกนักวิจารณ์พูดถึงในแง่ลบ แต่ก็ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 366 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 90 ล้านเหรียญ

หลังจากได้ร่วมแสดงใน ‘Die Hard with a Vengeance’ แล้วนั้น แจ็กสันเริ่มได้รับการจับตามองมากขึ้น โดยเขายังคงรับบทในภาพยนตร์ระดับคุณภาพอย่าง ‘Eve’s Bayou’ (1997) และร่วมงานกับ เควนติน แทแรนติโน (Quentin Tarantino) อีกครั้งใน ‘Jackie Brown’ (1997) และในขณะเดียวกันก็แสดงนำในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์อย่าง ‘The Long Kiss Goodnight’ (1996), ‘Sphere’ (1998), ‘The Negotiator’ (1998) และได้รับบท Mace Windu ใน ‘Star Wars: Episode 1 – The Phantom Menace’ (1999) ซึ่งเปิดประตูให้เขากลายเป็นนักแสดงขวัญใจผู้ชมรุ่นใหม่ตั้งแต่ยุค 2000s มาจนถึงทุกวันนี้