‘Mufasa’ ขึ้นอันดับ 1 เป็นครั้งแรก กวาดรายได้ทั่วโลกกว่า 470 ล้านเหรียญ

‘Mufasa: The Lion King’ และ ‘Sonic the Hedgehog 3’ ยังคงเป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าฉายสุดสัปดาห์แรกพร้อมกันเมื่อคริสต์มาสที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชมทุกวัยในครอบครัว ได้กลับมาครองตลาดอีกครั้ง

สิ่งที่น่าสนใจคือ ‘Mufasa: The Lion King’ สามารถขึ้นอันดับที่ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรก โดยเก็บรายได้จากการฉายสุดสัปดาห์ที่ 3 เพิ่มไปอีก 23.8 ล้านเหรียญ ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ที่ 168.6 ล้านเหรียญ และทำรายได้ทั่วโลกอย่างน่าประทับใจถึง 476.4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ (จุดคุ้มทุนประมาณ 400 ล้านเหรียญ)

ในขณะที่แชมป์เก่า 2 สัปดาห์ซ้อนอย่าง ‘Sonic the Hedgehog 3’ ได้ตกมาอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 21.2 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ที่ 187.5 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกไป 336.3 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 122 ล้านเหรียญ (จุดคุ้มทุนประมาณ 244 ล้านเหรียญ) ส่งผลให้ Paramount เปิดไฟเขียวให้ทีมงานพัฒนาภาคที่ 4 ในทันที

‘Nosferatu’ ภาพยนตร์สยองขวัญกอทิกพร้อมงานภาพอันโดดเด่น ยังคงอยู่ในอันดับที่ 3 โดยทำรายได้เพิ่มไปอีก 13.2 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ที่ 69.4 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกถึง 100.4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 50 ล้านเหรียญ (จุดคุ้มทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญ) ซึ่งกลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของผู้กำกับ โรเบิร์ต เอ็กเกอรส์ (Robert Eggers) แซงหน้าผลงานก่อนหน้านี้อย่าง ‘The Northman’ (2022) ซึ่งทำรายได้ทั่วโลกไป 69.4 ล้านเหรียญ

สำหรับ ‘Moana 2’ ซึ่งติด 5 อันดับแรกบนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ เป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันแล้วนั้น สามารถทำรายได้เพิ่มไปอีก 12.4 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ในระดับน่าประทับใจถึง 425.2 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกไปถึง 960.5 ล้านเหรียญ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของ Disney (ที่เข้าฉายในปี 2024) ที่จะทำรายได้ผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ตามหลัง ‘Deadpool & Wolverine’ (1,338 ล้านเหรียญ) และ ‘Inside Out 2’ (1,698.8 ล้านเหรียญ)

และ ‘Wicked’ ภาพยนตร์มิวสิคัลของผู้กำกับ จอน เอ็ม ชุ (Jon M. Chu) ได้กลายเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากมิวสิคัลที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล ถึง 681.3 ล้านเหรียญ แซงหน้า ‘Mamma Mia!’ (2008) ที่ทำไว้ 611 ล้านเหรียญ รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 4 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์คอเมดี/มิวสิคัลยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงประเภทคอเมดี/มิวสิคัลยอดเยี่ยม (ซินเธีย เอริโว), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Ariana Grande) และภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จจากการฉายในโรงภาพยนตร์และบ็อกซ์ออฟฟิศ

5 อันดับ บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ (3 – 5 มกราคม 2025)