เบื่อกันหรือยัง กับหนังไซอิ๋วหลากเวอร์ชั่นที่พี่จีนผลิตกันออกมามากมาย แทบจะชนกันปีต่อปี ทั้งตระกูล A Chinese Odyssey ต้นฉบับที่ชาวไทยคุ้นเคยมากที่สุดในชื่อ ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน ซึ่งโจวซิงฉือ แสดงไว้นานมากแล้วตั้งแต่ปี 1995 และเพิ่งมามีภาค 3 จาก หลิวเจิ้นเหว่ย ผู้กำกับเดิมแต่เปลี่ยนนักแสดงนำมาเป็น หางเกิง แทนที่ในปีที่แล้วนี่เอง โดยตระกูลนี้โดดเด่นจากเส้นเรื่องที่เน้นความรักของซุนหงอคงตอนที่ยังเป็นคนกับนางฟ้า พลอตแปลก ตลกนำและมีตอนจบที่ขึ้นหิ้งระดับตำนานทำให้นี่เป็นไซอิ๋วที่หลายคนยกให้ว่าดีที่สุด (หมายถึงสองภาคแรกนะ)

อีกตระกูลหนึ่งที่ช่วงใกล้ๆนี่จะเห็นถี่ แถมกำลังจะมีภาค 3 ในปีนี้ด้วยก็คือ The Monkey King หรือ ชื่อไทยสั้นๆเลยว่า ไซอิ๋ว ซึ่งภาคแรกได้ เจิ้นจื่อตัน หรือดอนนี่ เยน อาจารย์ยิปมันของเรามาแสดงนำ ก่อนที่ภาคที่ 2 จะเปลี่ยนมาเป็น กั้วฟู่เฉิง แสดงแทนซึ่งก็ตามสไตล์หนังจีนยุคใหม่ที่เดินเรื่องตามตำนานเดิมที่เราคุ้นเคย แล้วเพิ่มซีจีอลังการลงไปมากมาย อันนี้ใครชอบแนวอลัง ๆ น่าจะไม่พลาด

และจริง ๆ ในสายทางอลังการนี้ยังมีอีกเรื่องคือ A Chinese Tall Story หรือชื่อไทยคือ คนลิงเทวดา ด้วย อีกเรื่องที่มาแนวอลังการและกำลังจะเข้าฉายที่จีนปีนี้ก็ยังมี Wu Kong ที่มีดาวบู๊รุ่นใหม่อย่าง ผิงอวี๋เยี่ยน หรือ เอ็ดดี้ เผิง แสดงนำอีกด้วย เรียกว่าดูซุนหงอคงให้เบื่อตายกันไปข้างงงงง เลยครับ

จะเห็นว่าหนังจากตำนานพระถังซำจั๋งเดินทางไปชมพูทวีป หรือ ไซอิ๋วนั้นมีการทำออกมามากมายจนงุนงงกันเลยทีเดียว และที่ต้องเกริ่นถึงเรื่องอื่น ๆ มายาวเฟื้อยก็เพื่อไม่ให้สับสนกับเรื่องที่เรากำลังพูดถึงวันนี้ครับ นั่นก็คือไซอิ๋วในชื่อตระกูล Journey to the West อันเป็นชื่ออังกฤษของหนังสือเรื่องเล่าไซอิ๋ว และหนังมีชื่อไทยในภาคแรกว่า ไซอิ๋ว 2013 คนเล็กอิทธิฤทธิ์หญ่าย 

ซึ่งจุดเด่นของไซอิ๋วตระกูลนี้เลยคือ เป็นการประสมทั้งซีจีอลังการและพลอตที่คิดใหม่ไม่ตามเนื้อเรื่องเดิม ทั้งยังเป็นผลงานจากมันสมองของอัจฉริยะคนหนึ่งของวงการหนังจีนอย่าง โจวซิงฉือ ที่แม้เรื่องนี้จะไม่ได้เล่นเอง แต่งานกำกับของเฮียแกก็ไม่ธรรมดา ดูจากงานเก่านั้นก็ปัง ๆ ทั้งนั้น อย่าง Shaolin Soccer นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ และ Kung Fu Hustle คนเล็กหมัดเทวดา  ซึ่งในหนังไซอิ๋วภาคแรกของเฮียแกนั้นก็บอกได้ว่าได้กลิ่นแบบหนังที่ว่ามาเพียบ ทั้งซีจีสไตล์การ์ตูนๆที่เข้ากั๊นเข้ากันกับแนวแฟนตาซีสนุกๆ ดีไซน์คาแรกเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงพลอตที่คิดใหม่สดใหม่คาดเดาไม่ได้ด้วย ซึ่งใครดูคงหลอนในความน่ากลัวกับฉากเปิดตัวของลูกศิษย์ทั้งสามของพระถังแน่ ๆ (อันนี้พูดในแง่ชื่นชมนะว่ากล้าคิดกล้าทำมาก)

มาในภาคนี้หนังใช้ชื่อภาคว่า Demon Chapter ส่วนภาษาไทยก็ยกมาง่าย ๆ ว่า ไซอิ๋ว 2017 คนเล็กอิทธิฤทธิ์ใหญ่ เลย ทั้งยังเปลี่ยนมาให้ผู้กำกับรุ่นเก๋าอย่าง ฉีเคอะ กำกับแทน ส่วนเฮียโจวของเราก็ไปนั่งโปรดิวเซอร์ควบคุมการผลิตเก๋ ๆ นอกจากนั้นนักแสดงนำก็เรียกว่ายกชุดตัวนำใหม่จากภาคก่อนหลายตัว ทั้งพระถังซำจั๋งที่ได้ อู๋อี้ฟาน หรือ คริส วู อดีตวง EXO มาแสดงแทน เหวินจาง ส่วนซุนหงอคงได้ หลินเกิงซิน มารับบทแทน หวงโบ ตัวละครที่เหลือก็ยังใช้หน้าเดิม ๆ และซีจีแสดง นี่ยังรวมถึง ซูฉี ในบท แม่นางต้วน ที่โผล่มาแจมเป็นภาพความทรงจำสร้างปมระหว่างอาจารย์และศิษย์ด้วย

หนังภาคนี้เล่าต่อจากภาคเก่าเลย เมื่อพระถังออกเดินทางไปชมพูทวีปได้สักระยะก็มีการปะทะคารมกับลูกศิษย์ทั้งสาม โดยเฉพาะกับพี่ใหญ่อย่างซุนหงอคง ที่มักไม่ค่อยเชื่อฟังตนเองก่อความวุ่นวายไล่ฆ่าปีศาจไปทั่ว ในขณะที่ฝั่งลูกศิษย์เองก็มองว่าพระถังซื่อเซ่อไม่ทันพวกปีศาจที่จำแลงกายมาหลอก ชอบลงโทษทำร้ายร่างกายอย่างไม่มีเหตุผล แถมที่ติดสอยห้อยตามพระถังมาก็เพราะกลัวในพลังควบคุมไม่ได้ศรัทธาหรือรักพระถังอะไร ครึ่งเรื่องแรกเลยปูตรงนี้ไว้หลายฉาก ทั้งฉากเปิดตัวในคาราวาน ฉากบ้านนางปีศาจแมงมุม และฉากซุนหงอคงไล่ฆ่าพระถัง โดยเฉพาะปมในใจพระถัง ที่เห็นซุนหงอคงก่อนที่จะยอมสยบต่อพระยูไล ได้ฆ่าแม่นางต้วนคนรักของตนตายต่อหน้าต่อตาในภาคแรก ซึ่งก็เป็นปมใหญ่ที่เอามาใช้ขยี้หลายที ก่อนจะมาค่อยๆคลี่คลายความขัดแย้งนี้ลง เมื่อเข้าสู่เมืองแฟนตาซีแลนด์แดนสไมล์ที่ผู้คนนิยมในมายากลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่คณะเชิญพระธรรมต้องเผชิญหน้ากับปีศาจลาสต์บอสของภาคด้วย ก็เรียกว่าเดินตามสูตรหนังแนวคู่หูที่คุ้นชินล่ะนะ

  • จุดดี ของภาคนี้เลยคือ หนังตลกขึ้นกว่าภาคก่อนด้วยคาแรกเตอร์ที่คนรู้จักดีแล้ว ทั้งยังมีลูกเล่นได้มากอย่างพระถังที่ไม่ค่อยทันใคร แถมยังเก๊กท่าเอาหน้ารอดตลอด ซุนหงอคงที่ปากหนักปากแข็งขี้โมโห ตือโป๊ยก่ายบ้าผู้หญิงแถมพร้อมหักหลังทุกคนด้วย ส่วนซัวเจ๋งก็ซื่อจนโง่เรียกว่าเป็น กรูท ของไซอิ๋วนี้เลยก็ว่าได้
  • ประกอบกับการแปลและพากย์เสียงของทีมไทยที่เอามันเอาฮาสนุกปากอยู่แล้ว ยิ่งสนุกขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่าเลย และถ้าใครกลัวว่าจะแปลเกินต้นฉบับ ผมนั่งอ่านซับอังกฤษตามทั้งเรื่องก็เรียกว่าไม่ได้คิดเองแปลเอาเองอะไร ยังรักษาเนื้อเดิมไว้ได้ดีครับ ไม่ต้องห่วงการออกทะเลแต่อย่างใด
  • คาแรกเตอร์ดีไซน์ของหนังก็ยังแข็งแรงเช่นเดิม ทั้งเหล่าปีศาจแสนสวยสุดสยอง และตัวประกอบป้า ๆ ลุง ๆ ที่มาเอาฮาทั้งหลาย ตรงนี้ก็ยังเด่นตามสไตล์หนังโจวซิงฉือครับ เสียดายแค่รองบอสกับลาสต์บอสนั้นไม่ค่อยเท่เท่าไหร่
  • ที่สำคัญพวกสาว ๆ ในเรื่องสวยมาก ผิวขาว หน้าอกเนียนมาก มีฉากก้มให้ชมหลายฉาก (อันนี้ไม่ได้หื่นนะ หนังมันเป็นงั้นจริงๆ)
  • อีกอย่างที่ทำมาดีตั้งแต่ภาคแรกคือการใช้ดนตรีแบบยุคชอว์บราเธอร์ อารมณ์พวกงิ้วมาใช้ก็ยังทำได้เจ๋งเหมือนเดิมเลย
  • หนังมีเอนด์เครดิต ที่โคตรดี สมการทนเฝ้ารอเครดิตวิ่งจนจบเลย เรียกว่าเป็นเซอร์ไพรส์สุดของหนังแล้วล่ะ

  • จุดด้อย ของหนัง ที่เห็นชัดมาก ๆ เลยคือ พลอตแกว่งจากภาคแรกมาก โดยเฉพาะตัวพระถังที่นิสัยจากท้ายภาคแรกมาต่อภาคนี้เรียกว่าคนละคนเลยดีกว่า ตอนเริ่มเรื่องเลยต้องจูนปรับอารมณ์เหมือนดูหนังที่ไม่ใช่ภาคต่อจะเวิร์คกว่า
  • นอกจากนี้ที่ดรอปลงก็คงเป็นการใช้ซีจีทั้งหลาย ที่หลอกตาหลายฉาก และเสียเอกลักษณ์ในทางการ์ตูนแต่สมจริงแบบภาคแรกไปเยอะ มีฉากที่ใช้ซีจีเยอะขึ้นแต่ความเนียนตาเนียนใจนั้นกลับน้อยลง ยิ่งพวกดีไซน์ฉากที่สีสันเป็นการ์ตูนจ๋าเกินไปนี่ก็อินยากเหมือนกัน แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าหนังจีนหลาย ๆ เรื่องอยู่นะครับ
  • อีกประการที่คิดว่าแย่ลงคือบทสนทนาที่งงงวยมาก ๆ ตอนแรกคิดว่าทีมพากย์แปลมั่วแต่อ่านซับแล้วก็งงมาตั้งแต่ตัวหนังต้นฉบับแล้ว ก็สังเกตหนังบล็อกบัสเตอร์ของฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่มาหลายเรื่อง ไม่รู้เป็นสไตล์หนังจีนแผ่นดินใหญ่หรือเปล่าที่มักมีโมเม้นท์ที่เรางง ๆ กับหนัง แบบเป็นการเล่าเรื่องที่คนจีนโอเคแต่เราไม่เข้าใจเท่าไรประมาณนั้น แต่ก็พอถูไถเพราะพอเรื่องเล่นไปสักระยะสถานการณ์ทำให้เราเข้าใจบทสนทนาก่อนหน้ามากขึ้น

สรุป

เป็นหนังที่ดูเอาสนุกเอาบันเทิงได้ดีเลยล่ะ สำหรับคนที่ชอบหนังสไตล์ทีมพากย์พันธมิตรแบบนี้ แม้จะไม่พีคเท่าหนังโจวซิงฉือยุคก่อนหลาย ๆ เรื่องที่เทียบชั้นคลาสสิกก็เถอะ แต่ก็แก้คิดถึงไปได้พอประมาณ ใครไม่เคยดูภาคแรกก็ดูรู้เรื่องนะครับ รู้ไปก่อนแค่ว่าหงอคงเคยฆ่าแม่นางต้วนคนที่พระถังรักตายตอนอาละวาดออกจากที่คุมขังใหม่ ๆ ก็พอ เพราะเป็นปมใหญ่ที่หนังใช้ ที่เหลือดูภาคนี้เลยก็ดูเข้าใจหมดล่ะ ฉากซีจีฉากต่อสู้ยังมันสะใจ มุกตลกนี้เอาฮาหลายฉาก สนุกดี มีช่วงงง ๆ คุยกันมึน ๆ บ้าง แต่ก็พอไหว

Play video