ณ.เมืองชนบทที่เคยเงียบสงบ บัดนี้ชื่อ ฮารูโกะ อาซูมิ (ยู อาโออิ) กลับถูกกล่าวขานไปทั่วโลกโซเชียลหลังมีสีสเปรย์ที่พ่นจากภาพประกาศคนหายของเธอปรากฎอยู่รอบเมือง ไม่แพ้ข่าวแก๊งนักเรียนหญิงที่ตระเวนระบายความแค้นกับผู้ชายทุกคนที่พวกเธอพบเจอ แต่ 2 เหตุการณ์นี้มีที่มาและความเกี่ยวข้องกันอย่างไร มีเพียง ฮารูโกะ เท่านั้นที่จะให้คำตอบได้
Japanese Girls Never Die เป็นผลงานกำกับของ ไดโกะ มัตสึอิ ผู้กำกับหนังขวัญใจวัยรุ่นจาก Wonderful World End ซึ่งได้เสียงวิจารณ์แง่บวกอย่างท่วมท้นจากการฉายในสายประกวดของเทศกาล Tokyo International Film Festival ครั้งที่ 29 ที่ผ่านมา โดยตัวหนังดัดแปลงจากนิยายขายดีเรื่อง Azumi Haruko wa Yukuefumei (Azumi Haruko is Missing) ของนักเขียน มาริโกะ ยามาอูจิ โดยตัวนิยายตั้งใจตีแผ่ด้านมืดของความรักผ่านมุมมองผู้หญิงญี่ปุ่นทั้งสาวโสด เด็กมัธยม และผู้ชาย โดยมีศูนย์กลางที่เหตุการณ์คนหาย ซึ่งภาพยนตร์ก็จับจุดเด่นในการเล่าผ่านมุมมองบุคคลต่างๆมานำเสนอแบบหนังหลายพลอต มีทั้งเรื่องราวความรักอันช้ำชอกของฮารูโกะที่หวังให้หนุ่มคนรักยอมสร้างครอบครัวที่ดีกว่ากับเธอ, อาการโหยหาความรักของไอนะ (มิตสึกิ ทาคาฮาตะ) สาวบาร์ที่เอาตัวเข้าแลกจนคนรักพาไปพัวพันกับแก๊งพ่นกราฟฟิตีรูปฮารูโกะ โดยมีเรื่องของแก๊งเด็กสาวที่มุ่งทำร้ายผู้ชาย มาเป็นจุดเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งคู่
ภาพยนตร์ก็จับจุดเด่นในการเล่าผ่านมุมมองบุคคลต่างๆ มานำเสนอแบบหนังหลายพลอต
โดยหนังได้อาศัยการตัดต่อที่ไม่เพียงช่วยในการลำดับเรื่องราวให้เข้าใจง่ายแต่ยังสามารถลำดับอารมณ์ของผู้ชมจากสงสัยใคร่รู้ไปจนตกตะลึงและตั้งคำถามกับเรื่องราวเพื่อนำเสนอทั้งมุมมองความสัมพันธ์ยุคใหม่ของหนุ่มสาวญี่ปุ่นที่มีทั้งเรื่องหลอกลวง คบชู้ และการใช้การแต่งงานเป็นใบเบิกทางไปสู่ชีวิตอันสุขสบาย ไปจนถึงการวิพากษ์การเมืองเรื่องเพศ โดยเฉพาะกรณีของ ที่ทำงานฮารูโกะที่ผู้ชายจะได้เงินเดือนสูงกว่าผู้หญิงเป็น 10 เท่า และการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชายของแก๊งนักเรียนหญิงเพื่อทวงความเป็นธรรมต่อเพศแม่ในระดับมหภาค นั่นทำให้ Japanese Girls Never Die รอดพ้นจากการเป็นหนังเลียนแบบพลอตหลายมุมมองและตัดต่อไม่ลำดับเวลาแบบตื้นเขินไปสู่การเป็นหนังวิพากษ์สังคมและบทบาทสตรีที่น่าสนใจตั้งแต่เรื่องเล่าระดับปัจเจกไปจนถึงสังคมสตรีหลากหลายวัยได้อย่างลึกซึ้ง
หนังวิพากษ์สังคมและบทบาทสตรีที่น่าสนใจตั้งแต่เรื่องเล่าระดับปัจเจกไปจนถึงสังคมสตรีหลากหลายวัยได้อย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้หนังยังโดดเด่นด้วยการนำเสนอเรื่องราวบางส่วนเป็นอนิเมะผ่านลายเส้นของ ริว ฮิราโนะ เจ้าของผลงานอนิเมะขนาดสั้นเรื่อง Paradise มาถ่ายทอดมุมมองความแค้นของผู้หญิงออกมาเป็นอนิเมะขนาดสั้นที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้ครบถ้วน
สำหรับนักแสดง หนังโปรโมตการพลิกบทบาทการแสดงครั้งสำคัญของ ยู อาโออิ สาวยุ่นขวัญใจหนุ่มๆจาก Hana and Alice และกับบทบาทของฮารูโกะ นี้ ยู อาโออิ ยังคงถ่ายทอดทั้งสเน่ห์และอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย แม้ฮารูโกะจะเป็นตัวละครหญิงสาวธรรมดาแต่การแสดงของเธอสามารถโน้มน้าวคนดูให้เชื่อในความคิดและคล้อยตามไปกับการตัดสินใจของตัวละครได้อย่างหมดจดจริงๆ
โดยสรุปแล้วแม้ Japanese Girls Never Die จะดำเนินเรื่องด้วยพลอตที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ด้วยประเด็นวิพากษ์สังคมที่แข็งแรง ประกอบกับการแสดงของยู อาโออิ ก็ขอแนะนำคอหนังให้ได้ลิ้มลองดูสักครั้ง โดยเฉพาะหนุ่มๆรับรองว่าคุณจะไม่กล้าเทสาวๆอีกเลย
ยู อาโออิ ยังคงถ่ายทอดทั้งสเน่ห์และอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย