Play video

 บทเพลงของพวกเขาก็กลายเป็นทั้งแรงบันดาลใจและคำปลอบประโลมแก่เหล่าวัยรุ่นที่ต้องเผชิญปัญหาชีวิตอีกด้วย

ในวันที่วง เอ็กซ์ เจแปน (X Japan) ได้มีโอกาสเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมดิสันสแควร์การ์เดน นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ในปี 2014 สมาชิกดั้งเดิมของวงทั้ง โยะชิกิ ฮะยะชิ หรือ โยชิกิ หัวหน้าวงผู้เป็นทั้งมือกลองและบรรเลงเปียโน โทชิมิสึ เตะยะมะ หรือ โทชิ นักร้องนำเสียงทรงพลัง โทโมะอากิ อิชิซุกะหรือ พาตะ มือกีต้าร์ ได้ร่วมรำลึกถึงเรื่องราวเรื่องราวเบื้องหลังความรุ่งโรจน์ และร่วงโรยที่ทำให้เอ็กซ์ เจแปนเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 30 ปี ทั้งเรื่องราวของสมาชิกผู้ล่วงลับอย่าง ฮิเดโตะ มะสึโมะโตะ หรือ ฮิเดะ มือลีดกีตาร์ลีลาร้อนแรงและ ซะวะดะ ไทจิ หรือ ไทจิ มือเบสผู้เป็นตำนานร่วมสร้างประวัติศาสตร์วงดนตรีร็อคญี่ปุ่นที่ครองใจคนทั้งโลก และขณะเดียวกันบทเพลงของพวกเขาก็กลายเป็นทั้งแรงบันดาลใจและคำปลอบประโลมแก่เหล่าวัยรุ่นที่ต้องเผชิญปัญหาชีวิตอีกด้วย

โทะชิมิสึ เดะยะมะ (โทชิ) ร้องนำ
โยะชิกิ ฮะยะชิ (โยชิกิ) หัวหน้าวง
โทะโมะอะกิ อิชิซุกะ (พาตะ) กีต้าร์
ซาวาดะ ไทจิ (ทาอิจิ) เบส
และ ฮิเดะโตะ มะสึโมะโตะ (ฮิเดะ) ลีดกีต้าร์

โยชิกิ กับการวางเดิมพันทุกโชว์ด้วยสังขารที่ร่วงโรย

Kurenai (คุเรไน) คืนวันแห่งความร้อนแรง

สิ่งที่ทำให้สารคดี We Are X โดดเด่นท่ามกลางสารคดีศิลปินวงอื่นนอกจากการลำดับเรื่องราวที่เลือกเล่าคู่ขนานระหว่างการเตรียมคอนเสิร์ตที่ เมดิสันแสควร์การ์เดน ตัดสลับกับเหตุการณ์ที่ โยชิกิ หัวหน้าวงถ่ายทอดความเป็นมาของวงเอ็กซ์ เจแปน ที่ไม่ธรรมดาด้วยความทะเยอทะยานและบ้าบิ่นแล้ว หนังยังมีงานถ่ายภาพที่ตราตรึงโดยเฉพาะฉาก สโลว์โมชั่น การตีกลองของโยชิกิ ประกอบเหตุการณ์ตรวจโรคปวดตามข้อที่มากับสังขารอันร่วงโรยของเขาเพื่อขับเน้นชีวิตส่วนตัวที่ความเจ็บปวดเป็นมิตรอันยั่งยืนที่ถือเป็นธีมหลักที่ทรงพลังของสารคดีชุดนี้ โดยนอกจากกล้องจะทำหน้าที่บันทึกความจริงตรงหน้าอย่างสมบูรณ์แล้ว การตัดต่อฟุตเตจและภาพถ่ายสมาชิก กอปรกับข่าวที่หนังเลือกมาตัดต่อสลับบทสัมภาษณ์ยิ่งทำให้ตลอดเวลา 90 นาทีของมันไม่เพียงพอประหนึ่งคอนเสิร์ตของพวกเขาที่ไม่ว่าจะเล่นกี่ชั่วโมง ผู้ชมยังคงเรียกร้อง เอิงกอร์ (Encore)ให้พวกเขากลับมาร้องเพลงแถมอีกสักเพลง นั่นทำให้สารคดี We Are X ไม่ได้ถ่ายทอดเพียงเรื่องราวของวง แต่ยังคงจิตวิญญาณความบ้าคลั่งและเจ็บปวดของเอ็กซ์ เจแปน ไว้อย่างน่าชื่นชม

การปรากฎตัวของ สแตน ลี บิดาของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ มาร์เวล และเคยนำเรื่องราวของ เอ็กซ์ เจแปน ไปเขียนเป็นคอมิค

สารคดี We Are X ไม่ได้ถ่ายทอดเพียงเรื่องราวของวง แต่ยังคงจิตวิญญาณความบ้าคลั่งและเจ็บปวดของเอ็กซ์ เจแปน ไว้อย่างน่าชื่นชม

เหล่าแฟนคลับของ เอ็กซ์ เจแปน ที่สหรัฐอเมริกา

Endless Rain (เอนด์เลส เรน) ความเจ็บปวดที่ยังเปียกปอนทุกลมหายใจ

ในเมื่อ We Are X เป็นดั่งบทบันทึกทั้งความทรงจำและอารมณ์ร่วมแห่งยุคสมัย เหตุการณ์ต่างๆที่แม้จะผ่านมานานร่วม 10-20 ปี แต่ด้วยการถ่ายทอดผ่านปากของ โยชิกิ ศูนย์กลางของวงผู้เผชิญหน้ากับความเจ็บปวดทั้งชีวิตส่วนตัวที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง รวมถึงฝันร้ายของวงที่แฟนเพลงไม่เคยลืม ซึ่งบางเรื่องก็ประหลาดล้ำเหลือเชื่ออย่างการยุบวง เพราะ โทชิไปหลงมัวเมากับลัทธิประหลาด และเหตุการณ์สะเทือนใจคนทั้งโลกอย่างการจากไปของ ฮิเดะ ที่แม้จะผ่านมานานเท่าไหร่แต่น้ำเสียงและอารมณ์การบอกเล่าของ โยชิกิ กลับช่วยให้เหตุการณ์ทั้งมวลแจ่มชัดเหมือนมันเพิ่งเกิดในปัจจุบัน และทำให้ผู้ชมอดที่จะรู้สึกเจ็บปวดตามไม่ได้เมื่อประกอบกับทำนองเพลง Endless Rain อันชวนสะเทือนอารมณ์

ภาพจาก คอนเสิร์ต อันทรงพลัง

โยชิกิ หัวหน้าวง ผู้เรียนรู้ ผูกมิตรกับความเจ็บปวด

Forever Love (ฟอร์เอเวอร์ เลิฟ) นิรันดร์กาลไม่อาจเพียงพอ

สิ่งหนึ่งที่คนดูมักคาดหวังกับหนังสารคดีเกี่ยวกับวงดนตรีอย่างสูงคือการได้ยินเพลงที่คุ้นเคย ซึ่ง We Are X ก็จัดเต็มสำหรับแฟนเพลงของวง ด้วยการขนเพลงฮิตทั้งช้าและเร็วมาประกอบบทสัมภาษณ์ แต่อย่าคิดว่ามันจะถูกใช้แบบสุกเอาเผากิน เพราะเพลงฮิตที่แม้จะเป็นทั้งจุดขายและตัวช่วยในการเล่าเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ สตีเฟน คีซัค (Stephen Kijak) ผู้กำกับสารคดีเรื่องนี้กลับเลือกเพลงมาใช้ประกอบเรื่องเล่าผ่านปากสมาชิกวงและผู้เกี่ยวข้องในวงการดนตรีได้อย่างลงตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในเรื่องราวที่คู่ขนานกับเนื้อหา

เพลงที่แม้จะไม่ใช่ภาษาอังกฤษแต่ดนตรีก็สามารถทำลายกำแพงภาษาจนวงเอ็กซ์ เจแปนครองใจชาวร็อคทั้งปฐพี กอปรกับงานถ่ายภาพของ ฌอน เคอร์บี (Sean Kirby) กับ จอห์น มาริงกูอิน (John Maringouin) ที่สามารถจับจดเหตุการณ์ตรงหน้าทั้งภาพการแสดงคอนเสิร์ต เบื้องหลังการจัดงาน รวมถึงชีวิตส่วนตัวได้อย่างประณีตทั้งการถ่ายสโลว์โมชั่นและการวางเฟรมภาพได้อย่างงดงาม ถือเป็นการบันทึกความจริงได้อย่างเปี่ยมคุณค่าทางศิลปะ รวมถึงการตัดต่อซึ่งมาริงกูอินได้ร่วมตัดต่อกับ มาโกะ คามิตซุนะ (Mako Kamitsuna) ก็ทำหน้าที่เรียงร้อยเหตุการณ์ในช่วง 30 กว่าปีให้กลายเป็นดั่งเพลย์ลิสต์ในคอนเสิร์ตที่ร้อนแรงและซาบซึ้งของวง เอ็กซ์ เจแปน โดยอาศัยท่วงทำนองของเพลงเป็นดั่งบรรทัดในการวางฟุตเตจภาพที่ประหนึ่งโน้ตที่ร้อยเรียงจนกลายเป็นบทเพลงแห่งชีวิตที่มีทั้งตื่นเต้น ตื้นตันและแสนเจ็บปวด จนเราอาจฟังเพลงของพวกเขาด้วยมุมมองที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

ภาพสโลว์โมชันการตีกลองของโยชิกิที่แสนตราตรึง

ท่วงทำนองของเพลงเป็นดั่งบรรทัดในการวางฟุตเตจภาพที่ประหนึ่งโน้ตที่ร้อยเรียงจนกลายเป็นบทเพลงแห่งชีวิต

We Are X จะเข้าฉายแบบจำกัดโรงวันที่ 23 มีนาคม 2560 นี้ รายละเอียดการฉายติดตามได้ที่เพจ Documentary Club

ภาพในอดีตกลับมามีชีวิตด้วยการตัดต่อ

ยากเหลือเกินที่ขณะดูจะไม่ทำท่านี้