ฉากจบของ War for the Planet of the Apes เป็นการเลือกที่จะปิดไตรภาค Planet of the Apes ยุคใหม่โดยสมบูรณ์ ให้เกียรติแก่ Planet of the Apes เวอร์ชั่นต้นฉบับเมื่อปี 1968 และสามารถขยายจักรวาลของ Apes ไปได้อีกไกล
มันเป็นอย่างไรล่ะ มาดูกัน…
ปล. บทความต่อไปนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ War for the Planet of the Apes แต่เป็นไปเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจและสานต่ออารมณ์ไปยัง Planet of the Apes ได้อย่างต่อเนื่อง
ใน War for the Planet of the Apes ได้กล่าวถึงโรคระบาดได้ทำให้มนุษย์เริ่มพูดไม่ได้ และขาดสติสัมปชัญญะ แต่วานรกลับมีภูมิต้านทาน นั่นหมายความว่า มนุษย์กำลังจะวิวัฒนาการถอยหลัง ในขณะที่วานรเริ่มฉลาดมากขึ้น และการมาถึงของตัวละคร Bad Apes (เรียกตัวเองว่า วานรเลว) ก็แสดงให้เห็นว่ายังมีวานรพวกอื่นอีกที่สามารถเรียนรู้ที่จะพูดเองได้
ใน Planet of the Apes มนุษย์ได้กลายเป็นทาสที่ไม่สามารถพูดได้ และมีความป่าเถื่อนในตัว ในขณะที่วานรได้ครองพิภพแห่งนี้
ใน War for the Planet of the Apes การเดินทางของ Caesar ได้จบลงอย่างงดงาม โดย Maurice วานรคู่ใจสัญญาว่าจะบอกเล่าเรื่องราวความเสียสละของเขาให้ Cornelius ลูกชายของเขาได้รับรู้
ใน Planet of the Apes ยังคงมีการกล่าวถึง Cornelius (รับบทโดย ร็อดดี้ แมคโดวอลล์) ในวัยหนุ่ม และใน Conquest of the Planet of the Apes (1972) ก็ได้มีการกล่าวถึงการปฏิวัติที่นำโดย Caesar ผู้เป็นบิดาของเขา
ใน War for the Planet of the Apes มีตัวละครเด็กผู้หญิงที่พูดไม่ได้ (อาจเป็นเพราะได้ติดเชื้อ) ที่มีชื่อว่า Nova ซึ่งตั้งมาจากตรา Chevy Nova ที่ Bad Apes ได้ให้เธอ และเธอก็พกมันติดตัวเสมอ
ใน Planet of the Apes มีตัวละครหญิงสาวที่ชื่อว่า Nova (รับบทโดย ลินดา แฮริสัน) ที่ไม่สามารถพูดได้ โดยเธอได้ปรากฏตัวร่วมกับ ชาร์ลตัน เฮสตัน พระเอกของเรื่องอยู่บ่อยครั้ง
ถึงแม้จะมีบางรายละเอียดที่ไม่ได้เชื่อมโยงไปบ้าง แต่ผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ ก็ปูทางให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้อีกมากมายก่อนจะถึงเหตุการณ์ใน Planet of the Apes โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโลกเริ่มเข้าสู่ยุคของ “วานรครองพิภพแล้ว” แล้ว
สำหรับท่านที่ได้รับชมมาแล้ว รู้สึกอย่างไรกับบทสรุปของ War for the Planet of the Apes สามารถคอมเมนต์แบ่งปันความคิดเห็นกันได้ครับ
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant