ด้วยมีพ่อเป็นมหาวายร้ายทำให้ ลอย การ์มาดอน (เดฟ แฟรนโก) ไม่เป็นที่ต้องการของเหล่าเพื่อนๆที่โรงเรียน แต่ทุกครั้งที่เมืองนินจาโกตกอยู่ในอันตรายจาก การ์มาดอน (จัสติน เทอรู) มหาวายร้ายบิดาบังเกิดเกล้า ลอยและเพื่อนๆทั้ง เจย์ (คูเมล นานจิเอนี) ไค (ไมเคิล พีนา) นียา (แอ็บบี้ จาค็อบสัน) โคล (เฟร็ด อาร์มิเซน) และ เซน (แซน วู้ดส์) ในนามกลุ่มนินจาลับก็ออกปฏิบัติการเพื่อปกป้องเมืองนินจาโกแบบปิดทองหลังพระ แต่ในศึกใหญ่ระหว่างลูกชายกับพ่อบังเกิดเกล้า ลอยได้เผลอใช้อาวุธลับเรียก แมวธรา มาทำลายเมืองนินจาโกแบบไม่ได้ตั้งใจ จน อาจารย์วู (เฉินหลง) ต้องพาพวกเขาบุกป่าสุดอันตรายเพื่อค้นหาสุดยอดอาวุธลับเพื่อต่อกรกับ วายร้ายแมวเหมียว เพื่อกอบกู้เมืองนินจาโก อีกครั้ง
เสน่ห์ เลโก้ สร้างความต่างให้อนิเมชั่น
The Lego Ninjago Movie ถือเป็นหนังเลโก้ฉบับจอเงินเรื่องที่ 3 ที่ทางบริษัท เลโก้ ผู้ผลิตของเล่นตัวต่อชื่อดังจากเดนมาร์กมาร่วมสร้างอนิเมชั่นกับทางวอเนอร์บราเธอร์ส โดยคราวนี้ เรื่องราวได้หยิบชุดตัวต่อนินจา Ninjago ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานนินจาผสมผสานอนิเมะและหนังไลฟ์แอ็คชั่นหุ่นประกอบร่างของญี่ปุ่นมาผลิตเป็นของเล่นในปี 2011 เพื่อเพิ่มไลน์สินค้าและสามารถต่อยอดทำเป็นซีรีส์อนิเมชั่นฉายทางทีวีซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จนในที่สุดก็เกิดเวอร์ชั่นจอเงินสำหรับฉายโรงฉบับนี้ขึ้น โดยตัวหนังยังคงสเน่ห์แบบหนังเลโก้ที่ผ่านๆมาทั้งการคงรูปลักษณ์แบบตัวต่อเลโก้ที่มีชิ้นส่วนดูเป็นพลาสติกและมีรูสำหรับต่อเข้าบล็อคอันเป็นเอกลักษณ์บวกกับท่าทางการขยับที่เหมือนเอาของเล่นมาทำเป็นสต็อปโมชั่นมาใช้ในการนำเสนอ ทำให้ใครก็ตามที่เป็นแฟนคลับของชุดตัวต่อนี้ได้ดูหนังต้องเกิดกิเลสอยากซื้อของเล่นหลังหนังจบกันบ้างล่ะ
The Lego Ninjago Movie เลือกวิธีการเปิดเรื่องต่างจากหนังเลโก้ที่ผ่านมาตั้งแต่การสร้างไตเติลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ของ ชอว์ บราเธอร์ส (ซึ่งก็แทบลอกแบบมาจากโลโก้ของวอเนอร์เองอีกที) เพื่อเปิดตัว เฉินหลง ในฐานะเจ้าของร้านเชี่ยวชาญกังฟูมาเล่าตำนานของนินจาโกเพื่อสอนบทเรียนหนุ่มน้อยผู้โดดเดี่ยวที่เข้ามาในร้าน ซึ่งต่างจากหนังเลโก้เรื่องก่อนที่ตัดไปเล่าเรื่องราวชีวิตของเหล่าหุ่นตัวต่อเลย โดยไม่ทันคาดคิดสิ่งที่พบหลังจากตัดไปที่เรื่องราวของเหล่าตัวต่อเลโก้ คือการนำองค์ประกอบที่คุ้นเคยของเด็กยุค 90 ทั้งเหล่าขบวนการนินจาที่มีสีประจำตัว หรือหุ่นยนต์ประจำตัวแต่ละคนซึ่งอ้างอิงจากอนิเมะญี่ปุ่น รวมถึงฉากเหล่าหุ่นยนต์โผล่จากพื้นโรงเรียนอันเป็นภาพคุ้นตาของเหล่าเด็กยุค 90 ทั้งหลายที่ติดตามอนิเมะหรือหนังเหล่ายอดมนุษย์ขบวนการ 5 สีได้เป็นอย่างดี แต่ไม่เพียงองค์ประกอบของสื่อบันเทิงญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะแม้ตัวคาแรกเตอร์จะเป็นนินจา แต่ธีมเรื่องกลับเดินตามหนังกำลังภายในกังฟูโดยมีเฉินหลงมาให้เสียง อาจารย์วู เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของตำนานหนังกังฟู นอกจากนี้หนังยังเล่นธีมด้านมืดด้านสว่างที่ทำให้นึกถึง Star Wars ได้อีกด้วย ซึ่งข้อดีของการนำวัฒนธรรมบันเทิงต่างๆมาผสมผสานในการเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้ The Lego Ninjago Movie เล่าเรื่องได้อย่างมีสีสัน แม้จะขาดความฮาสุดคมคายแบบ The Lego Batman ไปบ้างแต่ก็ไม่ด้อยในแง่ของความบันเทิงแม้แต่นิดเดียว
เสียงพากย์ที่ใช่ของเหล่าของเล่น
สำหรับงานพากย์เสียงคนที่โดดเด่นที่สุดหนีไม่พ้น จัสติน เทอรู ในบทการ์มาดอน ที่มีทั้งความกวนอวัยวะเบื้องล่างและมีอำนาจเหมาะกับคาแรกเตอร์ไปในคราวเดียวกัน ด้านเฉินหลงที่แม้จะเคยผ่านงานพากย์เสียงใน Kungfu Panda มาแล้วแต่คราวนี้ถือเป็นการพากย์เสียงที่โดดเด่นมาก เพราะหนังดูจะให้ภาพลักษณ์อาจารย์วูเป็นสุดยอดปรมาจารย์กังฟูแต่ไม่ลืมบทตลกแบบกวนๆ ซึ่งเฉินหลงทำได้ดีไม่แพ้บทตลกที่แสดงด้วยตัวเองเลย ด้านนักแสดงคนอื่นๆที่มาพากย์เสียงก็ช่วยสร้างสีสันได้ดีไม่แพ้กันเลย
ด้วยองค์ประกอบทั้งการเล่าเรื่องที่สนุกสนานและการพากย์เสียงที่เพิ่มสีสันความฮาทำให้ The Lego Ninjago Movie กลายเป็นอนิเมชั่นที่ครบเครื่องและดูได้ทุกเพศทุกวัยแถมยังโดนใจเหล่าเด็กยุค 90 เป็นอย่างดี
ปล. แถมอีกนิด ใครเป็นทาสแมวงานนี้มีฟินคาจอกับน้องเหมียวธรา สุดยอดวายร้ายของเรื่องด้วยนะจ๊ะ