เมื่อเจียวแล้วถูกใจ…ต้องดังไกลไปไข่โลก
เมื่อมะลิ (ก้อง ห้วยไร่) พ่อค้าไข่เจียวรถเข็นลูกค้าติดตรึม ถูกเพื่อนยุให้แข่งขันรายการ ไข่เจียวไทยไปไข่โลก เขาจำต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจาก พริ้นซ์ (สิงโต นำโชค) อาจารย์มหาวิทยาลัยเพลย์บอยตัวพ่อ, เปลืองศักดิ์ (บอล เชิญยิ้ม) หมอศัลยกรรมกะเทยแซ่บ , คิม (ไพศาล ขุนหนู)ทนายคนใต้อุดมการณ์แรงกล้า และ นะโม (เซฟฟานี่ อาวะนิค) นักบินสาวห้าวที่พริ้นซ์แอบปลื้ม กับปฎิบัติการที่พวกเขาต้องปั้น มะลิให้กลายเป็นแชมป์ไข่เจียวของประเทศให้ได้
ไอเดียแรงแต่แล้งจุดหมาย
ว่ากันถึงตัว ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หรือ โต๊ะ พันธมิตรที่คนดูคุ้นเสียง แถมกำกับหนังมาแล้ว 2 เรื่องได้แก่ รักสุดทีน (2555) และ มนต์เลิฟสิบหมื่น (2558) ที่เลือกตัวละครที่คนดูคุ้นเคยมาสร้างเรื่องราวโรแมนติก ทั้งรักต้องเลือกของพ่อค้ากางเกงยีนเพลย์บอยและภารกิจช่วยเพื่อนคล้าวให้สมหวังในความรักของ ไอ้แว่นจากหนังมนต์รักลูกทุ่ง จุดร่วมจากหนังสองเรื่องก่อนที่ส่งอิทธิพลมาถึง นายไข่เจียวเสี่ยวตอร์ปิโด อย่างเห็นได้ชัดคือการสร้างคาแรกเตอร์อาชีพตัวละครที่คนดูคุ้นเคยแต่ไม่ค่อยได้พูดถึงในหนังไทยมานำเสนอ โดยคราวนี้บทเด่นคือ มะลิ ที่ได้ก้อง ห้วยไร่ นักร้องลูกทุ่งพ็อพร็อคคนดังมาแสดง ซึ่งหากบทหนังมุ่งไปที่ภารกิจฝึกฝนก่อนแข่งงานไข่เจียวไทยไปไข่โลกแล้ว หนังคงมีจุดหมายให้คนดูจับต้อง แต่ด้วยเสียดายคาแรกเตอร์ประกอบที่จัดจ้านกว่าหรือไงไม่ทราบ ปริภัณฑ์เลยเลือกบอกเล่าปมตัวละครสมทบทั้งหมดมายัดในครึ่งแรกจนหนังควบคุมทิศทางของมันไม่อยู่
มุกแวะรายทางจนหนังสะเปะสะปะ
บรรดามุกรายทางและปมตัวละครที่ถูกยัดเข้ามาในเรื่องก่อนเล่าถึงจุดหมายในการแข่งขันของมะลิ มีทั้ง ความปากจัดของ เปลืองศักดิ์ ที่มากับมุกใต้สะดือจิกกัดลูกค้ากะเทยที่มาเฉาะในคลินิกแถมไฝ่ว์กับดีเจไข่เจียวสายย่อคู่แข่งมะลิ, ความเซ็กซี่ของสิงโต นำโชค ที่ทำให้ตัวละครอย่าง อาจารย์ปริ้นซ์ เป็นเป้าหมายของนักศึกษาสาว พร้อมปมเพลย์บอยที่ผู้หญิงทนเขาไม่ค่อยได้, เซอร์ไพร์สทนายพูดใต้ของคิม พร้อมปมความรักในอดีต รวมถึง นะโม นักบินสาวห้าวที่ ผ.อ.แอบปลื้มแต่เธอไม่ไว้ใจผู้ชายหน้าไหน ซึ่งหนังต้องเสียเวลาคลายปมตัวละครทุกตัวพร้อมมุกรีไซเคิลฝืดเฝอทั้งมุกล้อโฆษณา Coffee 21 หรือ มุกเซอร์วิสแฟนละคร ภารกิจรัก : ข้ามฟ้าหาพิกัดรัก ที่อุตส่าห์ไปลาก มิก ทองระย้า คู่ขวัญของนางเอกเซฟฟานีจากละครดังกล่าวมาเล่นบทรับเชิญ รวมถึงมุกคนดังในโซเชียลที่นอกจากจะไม่สามารถสื่อสารกับคนดูวงกว้างได้แล้ว มันยังไม่ได้มีส่วนในการคล้ายปมเรื่องราวหลักๆ จนหากหนังตัดมุกรายทางพวกนี้ทิ้งจนเหลือแต่หนังในพลอตหลักจริงๆ จากความยาวร่วม 2 ชั่วโมงอาจเหลือสัก 20 นาทีก็เป็นได้
นึกอะไรไม่ออก..ถ่ายเป็น MV สิคนดูชอบ
หนังไทยมักเล่นง่ายเพื่อเอาใจคนดูด้วยการสร้างฉากแบบ MV ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จมากแบบ Suckseed ห่วยขั้นเทพ (2554) ที่อาศัยศิลปินแกรมมี่และเรื่องราวของวงดนตรีมาทำ MV สร้างสีสันและเล่าเรื่อง แต่กับ นายไข่เจียวเสี่ยวตอร์ปิโด กลับเล่นง่ายจนเข้าขั้นมักง่ายด้วยการเอาเพลงดังมาเล่นเป็นมุกอย่างเพลง อยู่ต่อเลยได้ไหม ที่สิงโต นำโชค พูดชงตัวเองในเรื่อง ไล่เลยไปถึงฉาก MV เพลง ไสว่าสิบ่ทิ่มกัน ของ ก้อง ห้วยไร่ ที่เล่นกันทั้งเพลงตั้งแต่อินโทรยันจบเพลงเพียงเพื่อจะบอกเล่าเรื่องราวในอดีตที่คนรักจากมะลิไปเพราะเขาไม่ยอมพัฒนาตัวเอง แต่ที่มักง่ายสุดๆคือการตัดต่อ MV เพลง นายไข่เจียว ที่ใช้โปรโมตหนังเข้าไปแบบไม่มีเหตุผลและไม่ต่อเนื่องกับเรื่องราวจนเห็นได้ชัดเลยว่าตัวหนังถูกถ่ายทำมาแบบไม่ได้วางแผน จนอนุมานได้ถึงบทภาพยนตร์ที่ไม่ได้ถูกเขียนอย่างสมบูรณ์ก่อนถ่ายทำ เพราะพ้นจากเรื่องเพลงแล้ว หลายหนที่เราเห็นนักแสดงพูดไดอาลอกแล้วติดๆขัดๆเหมือนต้องนึกบทพูดตลอดเวลา
เอานักร้อง เอาดาราละคร เอาตลกมาเล่น น่าจะเวิร์ค…จริงเหรอ?
หนังจงใจขาย ก้อง ห้วยไร่ และ สิงโต นำโชค ถึงขั้นเอามาร้องเพลงโปรโมตหนัง ซึ่งว่ากันตามจริงการได้สองคนนี้มาแสดงก็นับว่าช่วยให้หนังมีจุดน่าสนใจ เพราะหากดูแบบไม่สนเนื้อเรื่องการได้ฟังเพลง ไส่ว่าสิบ่ทิ่มกัน หรือ อยู่ต่อเลยได้ไหม และแม้กระทั่ง เพลงนายไข่เจียวในหนังก็อาจสร้างความบันเทิงให้แฟนคลับของนักร้องทั้งคู่ได้ไม่มากก็น้อย หรือแม้แต่มองการแสดงของทั้งคู่ก็ถือว่าสร้างสีสันและรับส่งมุกตลกได้อย่างดี ส่วนบอล เชิญยิ้ม ที่ขยันปล่อยมุกฮาก็ทำให้หนังไม่น่าเบื่อจนเกินไป ส่วน เซฟฟานี่ อาวะนิค บทนะโม ของเธอมีจุดน่าสนใจหลายอย่างและเธอก็สามารถเติมอารมณ์ ดราม่าเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวที่กระจัดกระจายได้เป็นอย่างดีและต้องบันทึกไว้เลยว่า งานถ่ายภาพของหนังดูจะรักเธอเป็นพิเศษ เพราะทุกช็อตที่ เซฟฟานี่ ปรากฏกายคือช่วงเวลาต้องมนตร์ของหนุ่มๆอย่างแท้จริง
สรุปแล้ว แม้ นายไข่เจียวเสี่ยวตอร์ปิโด จะไม่ได้เสิร์ฟความสนุกแบบหนังคอมิดี้แข่งทำอาหารอย่างที่คาดหวังไว้ แต่หากใครเป็นแฟนเพลงของก้อง ห้วยไร่ และ สิงโต นำโชค รวมถึง แฟนละครของช่อง 7 ก็น่าจะฟินไม่น้อยกับการได้เห็นดาราที่พวกเขาชื่นชอบ