Play video

ด้วยเชื่อว่าเจ้าแมวจมูกแดงคือพ่อ ทำให้คาเกโรตะ (ทาคูโร โอโน) ไม่อาจอยู่ในสำนักคิริวได้ โดยหลังปะทะกับ ตาฟ้า(คิโยฮิโก ชิบูคาวะ) นักฆ่าสุดโหดจนบาดเจ็บทำให้ คาเกโรตะ และ แมวท่านพ่อ ต้องระหกระเหินไปอาศัยในโรงแรมจนได้สนิทสนมกับโมมิจิ (เอริโกะ ซาโตะ) นางนกต่อของสำนักคิริว เมื่อมิตรและศัตรูไม่อาจแยกแยะ คาเกโรตะได้แต่หวังว่าท่านพ่อของเขาจะคืนร่างจากแมวกลายเป็นคนก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป


ทาคูโร โอโน ในบท คาเกโรตะ และ เอริโกะ ซาโตะ ในบท โมมิจิ

อิซูมิ ฟูจิโมโตะ ในบท สึบาเมะ


หนังนินจาสุดเพี้ยน

จุดเด่นของ Neko Ninja คือการผสมผสานระหว่างหนังพีเรียตหรือย้อนยุคแนวนินจากับหนังที่มีสัตว์นำแสดง ซึ่งไม่ใช้เรื่องยากสำหรับ ทาเคชิ วาตานาเบะ ผู้กำกับที่เคยกำกับหนังซามูไรแมวอย่าง Neko Samurai 2: A Tropical Adventure (2015) มาก่อนโดยคราวนี้เปลี่ยนจากซามูไรมาเป็นนินจา แต่ยังคงมีแมวเป็นจุดขายของเรื่องเช่นเคย โดยหนังหยิบจับสิ่งที่คนดูคุ้นเคยจากหนังนินจาทั้งท่าวิ่ง การขว้างดาวกระจายหรือเคล็ดลับวิชาสลับวิญญาณของนินจา มาผสมกับมุกชวนหัวแบบตลกคาเฟ่ญี่ปุ่นที่ความโอเวอร์แอ็คติ้งของนักแสดงเป็นไม้เด็ดในการเรียกเสียงฮาของคนดู ซึ่งไปได้ดีกับแนวหนังตลกล้อเลียนนินจาที่เล่นสนุกกับความคุ้นเคยของคนดูหนังแนวนี้ได้เป็นอย่างดี

Play video

การเล่าเรื่องในยุคสมัยของนินจาทำให้หนังเล่นสนุกกับมุขตลกล้อเลียนหนังแนวนี้ ทั้งคาแรกเตอร์ของ ตาฟ้า ที่ได้ดาราตลกอย่าง คิโยฮิโก ชิบูคาวะ มาแสดงเป็นนินจานักฆ่าสุดโหดแต่ติงต๊อง หรือการล้อบุคลิกนิ่งลึกของเจ้าสำนักคิริวของ คัตสุรากิ (อะคาจิ มาโระ) ที่เพิ่มเลเวลจากการนั่งสมาธิเป็นหลับลึกได้ตลอดเวลา รวมถึงมุกล้อการปรากฏกายสุดพิสดารของนินจา ในกรณีของ สึบาเมะ ที่โผล่ลงมาจากฝ้าเพดาน จนถูกเจ้าสำนักล้อว่าเข้าทางประตูก็ได้ ซึ่งความตลกมาจากสีหน้าท่าทางจริงจังของนักแสดงสาวสวย อิซูมิ ฟูจิโมโตะ นั่นเอง รวมถึงบุคลิกหน้าตายแต่แอบน่ารักของ เอริโกะ ซาโตะ ที่มารับบทโมมิจิ นางนกต่อที่เริ่มถูกมนต์สะกดของแมวเหมียวปั่นป่วนหัวใจ  ก็ทำให้ตัวหนังสามารถดึงความสนใจของคนดูได้ตลอดเวลาไม่แพ้ความน่ารักลำไยบีมของเหล่าแมวเหมียวในเรื่องเลยแม้แต่น้อย



 หนังขวัญใจทาสแมวที่เล่นง่ายไปหน่อย

แน่นอนล่ะว่ากลุ่มคนที่อยากดู Neko Ninja ที่สุดคงหนีไม่พ้นกลุ่มทาสแมวทั้งหลาย ซึ่งหนังก็ทำให้แมวสองตัวในเรื่องได้แก่ “ท่านพ่อ” แมวจมูกแดงตัวเองของเรื่องและ “จริงใจ” แมวสามสีที่โมมิจิเก็บมาเลี้ยง ดูโดดเด่นและมักทำอิริยาบถน่ารักๆมากมายและยังมีมุกเสียดสีผู้เลี้ยงแมวทั้งการต้องยอมตกเป็นทาสคอยจัดการทั้งเรื่องกินอยู่ ขับถ่าย รวมถึงต้องคอยเดาทางเจ้านายหน้าขนว่าต้องการอะไรอยู่เป็นประจำที่น่าจะโดนใจเหล่าทาสแมวจนอดหัวเราะไม่ได้ แต่กระนั้นหนังก็เล่นง่ายด้วยการถ่ายแมวเหมียวในอิริยาบถนั่งนิ่งๆ จ้องมอง เพดาน หรือ เดินในระยะทางสั้นๆ

หากเทียบกับหนังที่แมวมีบทบาทจริงๆจังๆอย่าง A street cat named Bob (2016) ที่แมวบ็อบได้แสดงความสามารถทางการแสดงเพื่อสร้างความผูกพันธ์ระหว่างแมว ตัวละครและคนดูมากกว่า  แต่กับ Neko Ninja ความสำคัญของอิริยาบถแมว “ท่านพ่อ” ดูจะต้องอาศัยการแสดงของ ทาคูโร โอโน  ในบทคาเกโรตะคอยส่งผ่านความสำคัญผ่านบทสนทนาเท่านั้นจนแมวนักแสดงมิได้แสดงออกซึ่งความสามารถเท่าใดนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่หนังมีมุกตลกที่ค่อนข้างแข็งแรงดังที่กล่าวมาจนปัญหาดังกล่าวเป็นเพียงรอยด่างพร้อยเล็กๆน้อยๆ เพราะความน่ารักของเจ้าเหมียวทั้งสองก็เพียงพอทำให้เหล่าทาสแมวใจละลายแทบตายคาจอได้แล้ว

สรุปแล้ว Neko Ninja ก็ยังเป็นหนังที่เหมาะสำหรับเหล่าทาสแมวและผู้ชื่นชอบหนังตลกคาเฟ่ญี่ปุ่น ที่ได้ดูทั้งมุกตลกฮาๆล้อเลียนหนังนินจาและอิริยาบถน่ารักลำไยบีมของเหล่าแมวเหมียวในเรื่องให้ได้ฟินคาจอไปเลย


Neko Ninja ป้ะป๋านินจาแมวเหมียว ฉายแล้ววันนี้