ถือเป็นหนังในกลุ่มม้ามืดที่หลายคนหันมาให้ความสนใจกันมากเลยสำหรับ The Big Sick ที่กลายเป็นหนังเปิดตัวต่อโรงสูงที่สุดในปี 2017 ไปแล้ว ซึ่งส่วนตัวนั้นสารภาพว่าเมื่อได้ผ่านสายตากับทีเซอร์แล้วยังไม่รู้สึกถึงอาการ ‘คัน’ อยากดูเรื่องนี้มากนัก เพราะมันก็ดูจะเป็นหนังโรแมนติกธรรมดา ๆ มากแม้ว่าจะมีจุดแอบน่าสนใจอยู่ตั้งแต่เรื่องของความที่มันเป็นความรักข้ามพรมแดนที่สร้างจากเรื่องจริงก็ตาม
สำหรับ The Big Sick เป็นเรื่องราวความรักระหว่าง คูมาล นานเจียนี่ หนุ่มเดี่ยวไมค์โครโฟนอารมณ์ดีชาวปากีสถาน ซึ่งรับบทโดยเจ้าตัวเลย และเอมิลี่ การ์ดเนอร์ (โซอี้ คาซาน) สาวน่ารักชาวอเมริกัน โดยเมื่อมาถึงจุดหนึ่งของความสัมพันธ์ พวกเขากลับมีเหตุต้องแยกทางกันด้วยเหตุผลในเรื่องของความแตกต่างด้านวัฒนธรรมที่ดูเหมือนจะเป็นเส้นขนาน กับรักที่เป็นไปไม่ได้ แต่ความห่วงใย ความผูกพันที่คูมาลยังมีให้เอมิลี่นั้นยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ขณะเดียวกันครอบครัวของคูมาลกลับบีบให้เขาต้องเดินตามประเพณีคลุมถุงชน ให้ต้องแต่งงานกับหญิงสาวชาวปากีสถานที่ถูกเลือกมาดูตัวไม่เว้นแต่ละวัน
The Big Sick มีความน่าสนใจตั้งแต่เริ่มต้น ไม่มีช่วงไหนเลยที่หนังทำตัวคล้ายละครหลังข่าว ทั้งที่มีพลอตเรื่องมันเน้นไปที่เรื่องปมรัก ๆ ใคร่ ๆ งอนง้อกันตามประสาแฟน ในทางกลับกันหนังปูแบ็คกราวน์ของตัวพระนางได้ดีมาก มันเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้เราเชื่อว่าทั้งคู่เป็นเพียงคู่รักธรรมดา ๆ มีกุ๊กกิ๊ก มีถกเถียงกันเป็นเรื่องปกติ แต่จุดหักเหของเรื่องที่ทำให้มันกลายเป็นโรแมนติกดราม่าชั้นดีนั้นอยู่ที่ การเกิดอาการไม่เชื่อใจจากการโกหก ซึ่งทำให้ความไว้ใจของเอมิลี่ที่มีต่อตัวคูมาลแปรเปลี่ยนไปทันที ซึ่งสิ่งนี้จะกลายเป็นก้างชิ้นโตที่ทำให้การคืนดีของทั้งคู่ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งเมื่อบวกกับการกีดกัดในเรื่องความรักที่แตกต่างกันแทบทุกอย่าง
นอกจากเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แล้ว The Big Sick ยังได้แอบเสียดสีสังคมอเมริกันและครอบครัวชาวปากีสถานออกมาได้ฮาอยู่หลายซีนเลย รวมทั้งยังเผยให้เห็นทั้งด้านมืดและสว่างของมนุษย์แบบไม่มีเม้ม ปัญหาเทา ๆ ของชีวิตรัก ที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นว่ามันถูกเล่าออกมาได้ดูตลกร้ายอย่างมีชั้นเชิง ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ น่ารัก ๆ ของหนังเรื่องนี้
แน่นอนว่า คูมาล ในฐานะของแขกที่ถูกเหมารวมเป็นพวกมุสลิมในแง่ลบ ต้องพิสูจน์ตัวเองผ่านด่านพ่อแม่ของเอมิลี่ รวมทั้งยังมีจุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่อาการป่วยรุนแรงของเอมิลี่ ไหนจะภาวะกดดันจากครอบครัวของคูมาลเองที่ พ่อแม่ของเขาประกาศว่าหากไม่ยอมสืบประเพณีเดิมก็จะตัดขาดความเป็นครอบครัวกัน แน่นอนว่าท่ามกลางปมดราม่าต่าง ๆ ที่หนังผูกเอาไว้นั้น หนังก็มักจะหยอดมุกมาแจมประหนึ่งล้อเล่นกับความรู้สึกของคนดูยังไงยังงั้น
นอกจากนี้ การจะไม่พูดถึงอินเนอร์ทางการแสดงของพระนางนั้นก็ดูจะโหดร้ายเกินไปแน่นอน ซึ่งในเรื่องนี้ต้องยกนิ้วเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นคู่ของคูมาล-เอมิลี่ หรือ เบต (ฮอลลี ฮันเตอร์) และ เทอร์รี ฮันเตอร์ (เรย์ โรมาโน) นั้นเป็นการแคสที่สุดยอดและส่งให้หนังยกระดับจากการแสดงของ 4 คนนี้อย่างมาก ตัวละครทุกตัวมีมิติ มีหลายแง่มุม จับต้องได้ชัดเจน เรียกว่าบางครั้งส่วนตัวยังคิดว่า The Big Sick นี่มันเป็นปัญหารักของเอมิลี่ของพ่อแม่มันกันแน่วะ (ฮา)
The Big Sick วางคอนเซปต์มาได้ดี เก็บรายละเอียดดีเยี่ยมภายใต้การเล่าอย่างกระชับและดูสนุกตลอดเวลา การกระจายพาร์ทต่าง ๆ ให้หนังจับครบทุกรสแบบไม่เลี่ยน แต่ยังเทน้ำหนักของการกอบกู้ความสัมพันธ์ของคู่รักที่สูญเสียความเชื่อใจกันไปแล้วเป็นพิเศษ จนคนดูต้องลุ้นตามอย่างหนัก อันที่จริง นี่เป็นหนังรักที่สอนบทเรียนรักให้คนดูได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง ปัญหามันไม่ได้เกี่ยวกับมือที่ 3 แต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้ามไป มันอาจเปลี่ยนความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันไปตลอดกาล นี่เป็นโจทย์ความรักที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่ง มันน่าสนใจว่าคูมาลจะปะติดปะต่อแก้วที่ร้าวไปแล้วกลับมาได้อย่างไร เขาจะเอาชนะมันได้อย่างไร เมื่อวันหนึ่งเอมิลี่บอกว่าเธอรู้สึกกับเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า The Big Sick คือหนังที่คุณดูแล้วยินดีจะเสียเงินเข้าไปซ้ำอีกหลายรอบ หรือยอมซื้อแผ่นเก็บเอาไว้เป็นหนึ่งในหนังขึ้นหิ้งที่อยู่ในความทรงจำประทับใจไม่รู้ลืมเรื่องหนึ่งเลย