ต้องบอกว่าปีนี้โครงการ Sony@House นี่เขางานดีจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น T2 Trainspotting, Call Me by Your Name, Brigsby Bear รวมถึง Professor Marston and the Wonder Women เรื่องราวต้นกำเนิดของซุปเปอร์ฮีโร่สาววันเดอร์วูแมน ที่ดูจะมีความน่าสนใจเกินคาด เพราะเป็นภาพยนตร์แนวชีวประวัติของผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการนำเสนอและการเดินเรื่องนั้นต่างจากซุปเปอร์ฮีโร่รายอื่น ๆ ที่ก่อนหน้านี้ใช้มุก ‘สูงสุดคืนสู่สามัญ’ แล้วก็มีทั้งปังและแป้ก แต่สิ่งที่อยู่ในความคิดของ ศาสตราจารย์ มาร์สตัน ช่วงที่สร้างฮีโร่นางนี้ มันแตกกิ่งต่อยอดให้พูดถึงประเด็นเรื่อง เฟมินิสต์ ในยุคนั้นอย่างถึงพริกถึงขิง
Professor Marston and the Wonder Women คือหนังชีวประวัติที่เล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของสาวน้อยมหัศจรรย์ในช่วงยุค 1940s ซึ่งเกิดจากคน 3 คน คือ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและเป็นผู้คิดค้นเครื่องจับเท็จ วิลเลียม มาร์สตัน (ลุค เอแวนส์) ร่วมกับภรรยา 2 คน คือ อลิซาเบธ มาร์สตัน (รีเบคคา ฮอลล์) และ โอลีฟ เบิร์น (เบลลา ฮีธโคต) โดย ศาสตราจารย์มาร์สตันถูกสอบสวนหลังจากถูกตั้งข้อหาว่าการ์ตูน วันเดอร์ วูแมน ของเขามีความวิปริตทางเพศ และมีเนื้อหาที่ส่อให้เกิดความรุนแรง ในขณะเดียวกัน ตัวมาร์สตันที่มีเมีย 2 คน ก็ยังต้องพยายามปกปิดชีวิตลับ ๆ เอาไว้ เพราะในเวลานั้นสังคมยังรับไม่ได้
มาร์สตัน ผู้เป็นอาจารย์หนุ่มในมหาวิทยาลัย กำลังมองหานักศึกษามาช่วยทำงานวิจัย ก่อนที่เขาจะไปถูกชะตากับสาวน้อย โอลีฟ เบิร์น แม้ว่าตนเองจะมีภรรยา อลิซาเบธ อยู่แล้ว ขณะเดียวกัน โอลีฟ เอง ก็มีใจให้กับมาร์สตัน และยิ่งไปกว่านั้นคือ อลิซาเบธ เองก็ดูจะแอบสนใจโอลีฟด้วยเหมือนกัน! ซึ่งหากจินตนาการความสัมพันธ์แบบนี้เกิดขึ้นในปี 2017 มันก็ถือว่ายังเป็นเรื่อง ‘แปลก’ และบางคนอาจมองว่ามันอยู่ในเคส ‘วิปริต’ น้อง ๆ พวก incest ฉะนั้นแล้วเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในยุค 40s มันก็ยิ่งกลายเป็นความสุดโต่งแบบทวีคูณ
สิ่งที่ผมชอบในตัวหนังมันเห็นได้ชัดจากวิธีการนำเสนอของผู้กำกับ แองเจลา โรบินสัน ที่ตัดสลับเหตุการณ์ปัจจุบันที่มาร์สตันถูกสอบสวนและการดำเนินความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนนี้จากอดีตลากยาวมาบรรจบกัน จริง ๆ แล้ววิธีการมันเรียบง่ายนั่นแหละ แต่ว่าสามารถดึงจุดเด่นของเนื้อหามาเล่าให้มันพีคมันฟินกันได้แบบเป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์ด้วยการใช้จิตวิทยา เรียกว่าคนดูจดจำและตราตรึงกับฉากที่ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 ก่อตั้งและเปิดเผยมาแบบ อึ้ง ทึ่ง เสียว และค่อย ๆ สานต่อความวิปริตนี้ให้มันบันเทิงเติมเต็มสัญชาตญาณของคนเราได้ไม่มีลิมิต ยิ่งดูก็ยิ่งอยากรู้ว่าเมื่อไหร่ โอลีฟ จะ โดน เบิร์น เสียที (ฮา) ถึงตรงนี้หนังทำให้เราอินกับเรื่องเซ็กส์ และเฟมินิสต์ได้แบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย
ตัวหนังเล่าให้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ กับวันเวลาหนุ่มสาวไปยังช่วงมีครอบครัว เมื่อทั้ง อลิซาเบธและโอลีฟ ต่างก็มีลูกและครองรักกับมาร์สตัน ปัญหาที่ทั้ง 3 คนพบเจอเมื่อใช้ชีวิตในสังคม การตอบสนองต่อความขัดแย้งเมื่อสังคมไม่ยอมรับ 3 คนนี้ฝ่าฟันมันอย่างไร ตรงนี้แหละที่ทำให้หนังทรงพลังมากในประเด็นเฟมินิสต์ เราเข้าถึงและเห็นภาพของสิทธิและสถานะทางสังคมของลูกผู้หญิงยุคนั้นชัดเจน และพบความเชื่อมโยงที่น่าสนใจบนความสัมพันธ์แบบนี้กับการ์ตูนวันเดอร์วูแมน แท้จริงแล้วมันคือความรักที่ยิ่งใหญ่ บนน้ำคำของใครต่อใครที่มองว่าคนเหล่าวิปริต Professor Marston & the Wonder Women ถือเป็นหนึ่งในการกำเนิดซุปเปอร์ฮีโร่ที่น่าประทับใจที่สุดเรื่องหนึ่งจริง ๆ
Professor Marston & the Wonder Women เข้าฉาย 16 พฤศจิกายนนี้ เฉพาะที่ House RCA เท่านั้น