อีกมุมหนึ่งของ อแมนดา มาร์ช (Amanda Marsh) อีกหนึ่งบุคคลสำคัญผู้นิยาม “ความกล้า” ให้กับภาพยนตร์ Only the Brave ได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้นักผจญเพลิง

อแมนดา มาร์ช เป็นภรรยาของ อีริค มาร์ช (Eric Marsh) หัวหน้าทีมนักผจญเพลิง แกรนิต เมาท์เท่น ฮอตช็อต ในเหตุการณ์ไฟป่าบริเวณตอนกลางของรัฐแอริโซนา เมืองยาร์เนลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคร่าชีวิต 19 นักผจญเพลิง และได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แห่งความกล้าหาญ “Only the Brave”

(ซ้าย) เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ผู้รับบท อแมนดา มาร์ช ใน Only the Brave, (ขวา) อแมนดา มาร์ช ตัวจริง

ในภาพยนตร์ เราจะได้เห็น อแมนดา มาร์ช (เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี) ในรูปลักษณ์ของหญิงที่จิตใจเด็ดเดี่ยว และหัวรั้น เธอเลือกที่จะรัก อีริค ทั้งที่รู้ดีว่างานของเขาเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตมากเพียงไร ในขณะเดียวกัน เธอก็แสดงออกถึงความขัดแย้งต่อ อีริค อยู่เป็นระยะ ซึ่งป็นเพราะความเครียดและวิตกกังวลถึงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

ปล. เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี ผู้รับบท อแมนดา มาร์ช ได้ใช้เวลาในการพูดคุยกับ อแมนดา ตัวจริง อยู่นาน เพื่อเป็นการปรับทัศนคติของเธอให้เหมาะสมต่อการรับบทหนึ่งในตัวละครหลักของ Only the Brave

(ซ้าย) อแมนดา มาร์ช และ อีริค มาร์ช, (ขวา) อีริค มาร์ช (จอช โบรลิน) และ อแมนดา มาร์ช (เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี) ใน Only the Brave

จนกระทั่งมาถึงวันที่เกิดเหตุการณ์แห่งความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต เธอก็คืออีกหนึ่งคนที่แทบจะเสียสติ หมดสิ้นเรี่ยวแรง แต่เธอก็ประคองตัวเพื่อที่จะพูดปลอบโยน เบรนดัน แม็คโดนาห์  (ไมลส์ เทลเลอร์) ผู้รอดชีวิตเพียงรายเดียวว่า “ฉันดีใจที่เป็นเธอ และอีริคจะต้องดีใจที่เป็นเธอ”

…นั่นคือคำพูดเพื่อให้ตัวเธอเองสงบจิตใจลงด้วยเช่นกัน

และมันคือ “ความกล้า” ที่จะเผชิญความสูญเสีย ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ Only the Brave ได้พยายามอธิบาย

อแมนดา มาร์ช ได้กล่าวว่า

“การถ่ายภาพเป็นวิธีที่ช่วยรักษาแผลใจของฉันจากความสูญเสียได้อย่างน่าอัศจรรย์ มันช่วยให้ฉันเห็นความงดงามในทุกๆที่ และเป็นแรงผลักดันให้ฉันสร้างสรรค์ผลงานที่เรียกว่า ศิลปะ

ฉันนำเอาประสบการณ์ในชีวิตจริงมาสะท้อนในการถ่ายภาพ มันทำให้ฉันได้ค้นพบตัวเอง และภาพของฉันก็เป็นดั่งตัวแทนของกาลเวลา

20% ของกำไรจากการขายผลงานภาพถ่าย จะบริจาคให้กับ มูลนิธิอีริค มาร์ช เพื่อนักผจญไฟป่า (Eric Marsh Foundation for Wildland Firefighters)”

เรามาดูตัวอย่างผลงานภาพถ่ายของ อแมนดา มาร์ช กัน

อแมนดา มาร์ช สะท้อนความเศร้าออกมาเป็นแรงขับด้านศิลปะ ไม่ใช่เพื่อให้ลืมมัน แต่เพื่อย้ำเตือนถึงความสำคัญ และไม่อยากให้ใครต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเธออีก

ข้อมูลอ้างอิง : amandamarshphotography