Justice League ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา “น้อยที่สุด” ในแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่ของ DC
จากรายงานของ Variety เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ระบุว่า Justice League ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก (3 วัน) ไป 96 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้สูงสุดประจำสัปดาห์ แต่น้อยกว่าที่ Warner Bros. ได้คาดการณ์เอาไว้ที่ 110 ล้านเหรียญ และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวน้อยที่สุดใน DCEU (DC Extended Universe : ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลขยายของ DC) ตามหลังภาพยนตร์ก่อนหน้านี้อย่าง
- Batman V Superman: Dawn of Justice (166 ล้านเหรียญ)
- Suicide Squad (133 ล้านเหรียญ)
- Man of Steel (116 ล้านเหรียญ)
- Wonder Woman (103 ล้านเหรียญ)
แต่จากรายได้ทั่วโลกที่สูงถึง 285 ล้านเหรียญ ใน 3 วันแรก ก็น่าจะทำให้ Justice League สามารถเก็บรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 600 ล้านเหรียญไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ก่อนหน้านี้ Warner Bros. ได้ตั้งความหวังไว้กับ Justice League ค่อนข้างสูง โดยหวังจะให้ประสบความสำเร็จด้านการโฆษณาเช่นเดียวกับ Wonder Woman จากทุนสร้างที่สูงถึง 300 ล้านเหรียญ แต่ท้ายที่สุดกลับโดนกระแสวิจารณ์ในด้านลบโจมตีอย่างรุนแรง และได้คะแนนจาก CinemaScore เพียงแค่ B+ ต่างจากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ก่อนหน้านี้อย่าง Wonder Woman, Thor: Ragnarok และ Guardians of the Galaxy Vol.2 ที่ได้คะแนนในระดับ A
อีกทั้งยังได้ยังได้คะแนนจาก Rotten Tomatoes ไปเพียง 40% เท่านั้น
Justice League เป็นก้าวที่สำคัญของ Warner Bros. และ DC ที่ต้องการพัฒนาไปให้ไกลกว่า Batman V Superman: Dawn of Justice และพยายามเดินตามรอยความสำเร็จของ Wonder Woman และคาดว่าจะเป็นหมุดหมายสำคัญของภาพยนตร์ DCEU ในปี 2018 นั่นคือการฉายเดี่ยวครั้งแรกของ Aquaman โดยฝีมือการกำกับของ เจมส์ วาน (The Conjuring, Furious 7)
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant