Play video

นอกจากการมาถึงของครอบครัวคนผิวสีแล้ว ชุมชนซับเบอร์บิคอนยังต้องสั่นคลอนจากเหตุบุกบ้านสุดสะเทือนขวัญของครอบครัวลอดจ์ที่คร่าชีวิต โรส (จูลี่แอน มัวร์) ภรรยาของการ์ดเนอร์ (แมต เดมอน) และยังทำให้เขาต้องพัวพันกับทั้ง มาร์กาเร็ต (จูลี่แอน มัวร์) น้องเมียฝาแฝด,สโลน(เกล็น เฟลชเลอร์) มาเฟียขาโหด, ไฮทาวเวอร์ (แจ็ค คอนลีย์) ตำรวจผู้สืบคดีนี้ และ บัด คูเปอร์ (ออสการ์ ไอแซค) เจ้าหน้าที่ประกันชีวิตตัวแสบ ในขณะที่ นิคกี้ (โนอาห์ จู๊ป) ลูกชายของเขาก็พบเงื่อนงำบางอย่างที่ทำให้เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้อาจไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆคาดคิด



ฆาตกรรมวายป่วงฉบับ พี่น้องโคเอน โดย จอร์จ คลูนี่ย์

      ต้องบอกไว้ก่อนว่างานกำกับของนักแสดงหนุ่มหล่ออย่าง จอร์จ คลูนี่ย์ ที่ผ่านมาค่อนข้างห่างไกลจากหนังเอาใจตลาดอย่างสิ้นเชิงทั้งงานประเดิมกำกับอย่าง Confession of a dangerous mind (2002) ที่เล่าถึงพิธีกรที่มีเบื้องหลังเป็น CIA หรือ The ides of March (2011) ที่พูดถึงความสกปรกของวงการการเมืองอเมริกา ซึ่งจุดร่วมในงานหนังที่เขากำกับส่วนใหญ่คือการวิพากษ์การเมืองและสังคมอเมริกัน มาคราวนี้คลูนีย์ เลือกใช้บริการพี่น้องมือเขียนบทหนังตลกร้ายอย่าง โจเอล และ อีธาน โคเอนมาบอกเล่าเรื่องราวฆาตกรรมในยุค 50 ที่มีหมู่บ้านชนชั้นกลางผิวขาวอย่าง ซับเบอร์บิคอน เป็นภาพแทนสหรัฐอเมริกาเพื่อพูดถึงการแบ่งแยกสีผิวที่ฝังรากลึกมานาน กอปรกับการแฝงประเด็นความละโมบ บาปสำคัญในพระคัมภีร์เพื่อวิพากษ์ทุนนิยมในจุดพลิกผันของเรื่อง

ซึ่งพี่น้องโคเอนก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะรายทางของหนังก็เต็มไปด้วยสิ่งที่คนดูคุ้นตาทั้งตัวละครมนุษย์ที่พ่ายแพ้ต่อความชั่วร้ายและการหลอกลวงหักหลังไปจนถึงฉากที่เป็นสัญญะอย่างคาวบอยเด็กน้อยนั่งบนม้าที่เป็นเครื่องเล่นหยอดเหรียญเป็นภาพแทนของความฝันแบบอเมริกันที่ดูไร้เดียงสาไปเลยเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในโลกความจริงโดยเฉพาะในเมืองซับเบอร์บิคอนที่ชาวผิวขาวใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเพื่อขับไล่ครอบครัวเมเยอร์ แม้แต่การกล่าวหาอย่างไร้เหตุผลว่าที่โรสต้องตายก็เพราะความชั่วร้ายที่ครอบครัวคนผิวดำนี้นำมาแพร่เชื้อให้ชุมชน ซึ่งนับว่าบทหนังสามารถผสานโยงใยพลอตฆาตกรรมอำพรางแบบหนังฟิล์มนัวร์สไตล์พี่น้องโคเอนเข้ากับการวิพากษ์การเมืองที่จอร์จ คลูนีย์สนใจได้อย่างกลมกลืน



ลัทธิ-ศาสนา-สัญญะแบบพี่น้องโคเอน 

       โดยส่วนตัวแล้วสิ่งที่รู้สึกชอบมากเวลาดูหนังของพี่น้องโคเอนคือการใส่สัญลักษณ์ที่เล่นกับเรื่องเล่าในศาสนา ซึ่งตัวหนังเองก็ใช้ศาสนามาวิพากษ์สังคมอเมริกันอีกทีตั้งแต่ลัทธิความเชื่อที่แบ่งกันวุ่นวายก็สามารถวิพากษ์อคติเรื่องสีผิวที่คนในชุมชนให้ความเห็นเรื่องคนผิวดำย้ายมาซับเบอร์บิคอนที่ไปในทางไร้เหตุผลเหมือนๆกันคือคนดำไม่พัฒนาตัวเองและอาจขยายเผ่าพันธุ์ทำให้คนขาวต้องแปดเปื้อนอีกทำให้เห็นว่าความเชื่อเองก็มีด้านมืดของมันเพราะมันก่อให้เกิดอคติบดบังดวงตาเราจากความจริง และฉากที่หนังดูจะเอาล่อเอาเถิดกับเรื่องเล่าในพระคัมภีร์เป็นพิเศษเห็นจะเป็นตอนแอนดี้ เมเยอร์ (แอนดี้ เอสปิโนซ่า) ยื่นงูดินให้นิคกี้ (โนอาห์ จู๊ป) เป็นของขวัญปลอบใจหลังแม่ถูกฆาตกรรมซึ่งนั่นทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวลอดจ์สามารถมาซ้อนทับเรื่องเล่าสวนอีเดนในพระคัมภีร์ที่บอกเล่าความทรยศของบุตรแห่งพระเจ้าและกลายเป็นจุดกำเนิดของมนุษยชาติ เสมือนหนึ่งจะบอกว่าท้ายสุดแล้วมนุษย์ต่างก็หนีกิเลสไม่พ้นอยู่ดีเหมือนดั่งธีมหนังของพี่น้องโคเอนทุกเรื่อง



นักแสดงเบอร์ใหญ่ในหนังสุดวายป่วง

     ถือเป็นการพลิกบทบาทอีกครั้งของ แมต เดมอน ที่มารับบทพ่อบ้านธรรมดาๆที่ต้องพัวพันกับเรื่องไม่คาดคิดซึ่งการแสดงของเดมอนก็ยังเชื่อมือได้เสมอเพียงแต่อาจยังไม่มีฉากที่ทำให้ตัวละครของเขาโดดเด่นเท่าที่ควร ด้านจูลี่แอน มัวร์ มารับบทบาทฝาแฝดก็ทำคนดูเซอร์ไพร์สไม่น้อยแม้บทโรสจะมีเวลาบนจอน้อยไปหน่อยก็ตาม แต่เมื่อมารับบทมาร์กาเร็ต เธอก็สามารถทำให้คนดูค่อยๆเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครทั้งจากด้านสว่างไปสู่ด้านมืดได้อย่างลงตัว ส่วน ออสการ์ ไอแซ็ค ก็มาขโมยซีนได้อย่างโดดเด่นในบทเจ้าหน้าที่ประกันชีวิตสุดปลิ้นปล้อน แต่เหล่านักแสดงผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ยังไม่มีใครโดดเด่นเท่าเจ้าหนู โนอาห์ จู๊ป จาก Wonder (2017) ที่มารับบท นิคกี้ หนุ่มน้อยไร้เดียงสาที่ต้องเผชิญหน้าความชั่วร้ายได้อย่างโดดเด่นทั้งบทดราม่าหนักๆซึ่งเขาถ่ายทอดได้อย่างมีเสน่ห์มากๆจนปีนี้พ่อหนุ่มโนอาห์น่าจะสร้างแม่ยกได้เป็นกระบุงโกย

ถือได้ว่า Suburbicon  คือหนังฆาตกรรมตลกร้ายสไตล์พี่น้องโคเอนที่น่าจะถูกใจคอหนังที่อยากเสพย์ความวายป่วง ได้หัวเราะและเซอร์ไพร์สกับจุดพลิกผันของเรื่องได้เป็นอย่างดี

Suburbicon พ่อบ้านซ่าส์ บ้าดีเดือด ฉาย 14 ธ.ค. นี้