หนังผีเรื่องที่ 3 จากค่าย โลโก้โมชั่นพิกเจอร์ส ค่ายหนังไทยที่ผลิตหนังผีอย่างไม่ย่นย่อท้อถอย ก่อนหน้านี้มีงานอย่าง Black Full Moon วันหมาหอนที่ค่ายลูกเสือ และ เพื่อนที่หายไป ที่รับประกันชื่อชั้นได้อย่างดีตั้งแต่เดือนตุลาคมมา เรียกว่าปล่อยมาเดือนละเรื่องเลยทีเดียว ฟิตดีจริง ๆ โดยหลังจากนี้ยังมีหนังอีก 4 เรื่องตามคอนเซ็ปต์ 7 เรื่องเล่าจากโกสต์เรดิโอด้วย ถ้ามีรางวัลค่ายหนังอุตสาหะแห่งปี คงต้องมอบให้ค่ายนี้จริง ๆ
Memoir ฮัลโหลจำเราได้ไหม ว่าด้วยเรื่องของ ดารณี (นาว ทิสานาฎ) อดีตดาวโรงเรียนที่หลังเรียนจบชีวิตก็ไม่ประสบความสำเร็จ ต่างจากเพื่อนสนิท เพราะเธอเป็นเพียงพนักงานร้านสะดวกซื้อ เธอจึงพยายามถีบตัวขึ้นโดยการชักชวนของหญิงสาวปริศนาสุดไฮโซนาม เปิ้ล ที่ทำให้เธอก้าวเข้าสู่วงการขายประกัน เธอเริ่มเปิดหนังสือรุ่นและเริ่มโทรหาเพื่อนเก่าทีละคนเพื่อหาลูกค้า ด้วยประโยคที่กลายมาเป็นชื่อหนัง “ฮัลโหล จำเราได้ไหม” หลังความล้มเหลวนับไม่ถ้วนเธอก็ได้คุยกับรักเก่าสมัยเด็กคือ โย (ติ๊นา ศุภนาฏ) สาวหล่อที่ยอมทำประกันกับเธอโดยไม่ถามเหตุผลใด ๆ ซึ่งต่อมากลายเป็นความสัมพันธ์รักสามเส้าที่แสนปวดใจ เพราะดารณีให้ความสนใจความสวยเก่งของเปิ้ลอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ทางโยเองก็เป็นทั้งความผูกพันเก่า ๆ และลูกค้าคนสำคัญในปัจจุบัน
ส่วนพลอตผีก็เป็นฝั่งโยที่ชัดเจน เพราะปรากฏตัวแต่ละครั้งจะทำให้ไฟที่ร้านสะดวกซื้อตกทุกครั้งจนลูกน้องของดารณีผิดสังเกต และบ้านที่โยอยู่ก็ดูแปลก ๆ ทั้งเต็มไปด้วยตุ๊กตาและพวงมาลัยดอกไม้
มาพูดถึงตัวสร้างดูมีความพยายาม แต่ก็พลาดแบบซื่อ ๆ อย่างเรื่องอัดเสียงแยกแล้วเอามาลงไม่ตรงปาก เสียงลอยปากลอยหลายฉาก บางฉากตัวประกอบจ้องกล้องเขม็งเลย ก็ไม่ได้รับการใส่ใจแก้ไขทั้งที่เห็นอยู่ชัด ๆ ตรงหน้าเลย ความสมจริงก็เอาตามสะดวกอย่างมินิมาร์ทที่มืดที่สุดในชีวิตเคยพบเจอ คือไม่ใช่แค่ตอนไฟตกที่โยมาหาดารณี แต่ตอนปกติก็มืดเหมือนทั้งร้านเปิดไฟดวงเดียว เหมือนลืมจ่ายค่าไฟ เหมือนจ้างทีมไฟมาด้วยราคาครึ่งเดียว แล้วทางเนื้อหาก็พยายามล่อลวงให้สนใจฝั่งเปิ้ลว่ามีอะไรแปลก ๆ แต่ก็เท่านั้นไม่ได้ช่วยให้เส้นเรื่องหลักอย่างโยกับดารณีน่าสนใจขึ้นนัก จนต้องเอาสารพัดแฟลชแบ็กมาช่วยสรุปเรื่อง
ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือตัวหนังดูหมกมุ่นกับงานขายประกัน จนไม่แน่ใจว่าคนทำรักหรือชังพวกขายประกันนี้กันแน่ ส่วนบรรดาผี ๆ ในโปสเตอร์อย่างผีนางรำก็โผล่มาแบบนับวินาทีได้ ถามหาความหลอนความตกใจไม่มีในหนังเรื่องนี้หรอกครับ หนักไปทางหนังดราม่าตัวละครซ้อนรักเสียมากกว่าหนังผีด้วยซ้ำ ส่วนที่ชอบอีกอย่างคือการหักมุมเรื่องเกี่ยวกับบ้านโย แต่ก็ว่าตามตรงไม่ได้ทำให้รู้สึกกับหนังทั้งเรื่องดีขึ้นนักหรอกครับ
หนังความยาวสองชั่วโมงไม่ได้ช่วยให้หนังเข้มข้นขึ้นอย่างที่ควรเป็น ดูละครในรายการผี ๆ ทางโทรทัศน์ก็ได้รสครบไม่ต่างกัน ซึ่งมองแง่ดีคือหนังเล่าเรื่องได้ชัดดูได้เพลิน ๆ ไม่หลงประเด็นไม่มั่วตั้วเกินไป แต่ก็ถ้ามองความคุ้มค่าที่ต้องเดินทางไปโรงหนังไปซื้อตั๋ว เทียบกับนอนแช่อยู่บ้านดูคุณริวจิตสัมผัส แบบหลังดูสมเหตุสมผลกว่าเท่านั้นเอง
เหตุผลข้อเดียวที่คุณควรไปดูหนังเรื่องนี้คือ คุณปลื้มนักแสดงนำอย่าง ติ๊นา หรือ นาว แบบหัวทิ่มหัวตำ เพราะหนังเรื่องนี้จะดูคุ้มค่าสำหรับคุณขึ้นเยอะเลย โดยเฉพาะถ้าอยากเห็นฉากหวาน ๆ แบบจิ้นสาว-สาว ก็ไปดูเถอะครับ