หนังรักลำดับที่ 48 ของผู้กำกับรุ่นดึกอย่าง วู้ดดี้ อัลเลน ที่โผล่มารับช่วงวาเลนไทน์พอดี อีกหนึ่งหนังในโปรเจ็กต์ ‘หนังผมไม่เล็กนะครับ’ ของทาง M Pictures ที่มาเสิร์ฟส่งท้ายเทศกาล Woody Allen Festival อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งแน่นอนว่าใครที่ชอบมู้ดหนังแบบยุคเอลวิส เดินเรื่องเชือดเฉือนกันด้วยคำพูดปนตลกร้าย และผ่านงานหนังของลุงแกมาบ้าง คงเดาออกอยู่แล้วว่าใน Wonder Wheel นั้นจะได้พบเจออะไรบ้าง โดยนักแสดงนำในเซตนี้น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น เคต วินสเลต, จัสติน ทิมเบอร์เลค หรือจูโน เทมเปิล ก็ดูจะเป็นเคมีที่น่าสนใจกับรักที่สับสนอลหม่านสีเทา ๆ ครั้งนี้เลย และ Wonder Wheel ก็เป็นหนังจาก Amazon Studios ค่ายน้องใหม่มาแรงที่ปีที่แล้วก็สร้างหนังงานคุณภาพอย่าง Manchester by The Sea คว้าออสการ์มาแล้ว เรียกว่าน่าจับตามองไม่น้อย
สำหรับ Wonder Wheel เป็นเรื่องราวรักโรแมนติกย้อนยุคในช่วงยุค 1950 ในเกาะโคนีย์ซึ่งเป็นหาดสวนสนุกชื่อดังของนิวยอร์ก มีสามีีภรรยาคู่หนึ่งคือ ฮัมป์ตี้ (จิม เบลูชี) พนักงานคุมเครื่องเล่นม้าหมุนและชิงช้าสวรรค์ ที่อยู่กินกันกับ จินนี (เคต วินสเลต) ภรรยาสาวเสิร์ฟ และอยู่ระหว่างความสัมพันธ์ที่ง่อนแง่นจากความเบื่อหน่ายในชีวิตคู่ ขณะที่ลูกสาวที่หนีหายไปแต่งงานอย่าง แคโรไลนา (จูโน เทมเปิล) จู่ ๆ ก็ต้องหลบหนีกลับมาจากสามีมาเฟียอิตาเลียนที่ไล่ล่าตัวเธอ จากนั้น โชคชะตาก็นำพาให้ จินนี่ ได้รู้จักและตกหลุมรัก มิกกี้ ชายหนุ่มไลฟ์การ์ดประจำชายหาดสุดหล่อจนเธอคิดนอกใจ แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น เมื่อ แคโรไลน่า ก็รู้สึกหลงเสน่ห์ของ มิกกี้ เช่นกัน
Wonder Wheel ยังคงรักษาแนวทางและลายเซ็นในความเป็นวู้ดดี้ อัลเลนอยู่มาก ๆ ซึ่งแน่นอนต้องบอกเลยว่าอาจไม่ใช่สไตล์ที่ถูกใจทุกคนไปเสียทั้งหมด ตัวหนังจะใช้เวลาไปกับช็อตลองเทคละเลียดไดอะล็อกไปเป็นส่วนใหญ่ สอดแทรกตลกร้ายให้เราหัวเราะในลำคออยู่เรื่อย ๆ และแน่นอนว่าหนังของแก ผู้หญิงต้องเด่น (ทั้งบทบาทและไฟหน้า-ฮา) คอสตูมที่ย้อนยุค และต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้จัดแสงได้สวยมาก องค์ประกอบและงานภาพที่ดูแล้วอิ่มเอม เป็นหนังที่ภาพสวยมาก ๆ เรื่องหนึ่ง และแน่นอนว่าแม้วัยจะล่วงเลยไป แต่ เคต วินสเลต ก็เป็นป้าที่มีเสน่ห์และยังดูสวยเซ็กซ์แอพพีลอยู่มากจริง ๆ
ภายใต้ความรักโรแมนติกที่เต็มไปด้วยการทรยศและหักหลัง ผมดูหนังของลุงแกหลายครั้งก็มักจะสังเกตว่าแกมักจะต้องให้น้ำหนักกับด้านมืดของผู้หญิงไว้ไม่น้อย ซึ่งเป็นจุดที่ส่วนตัวชอบมุมมองส่วนตัวของเขา เพียงแต่ถ้าในมุมแมสแล้วอาจเฉย ๆ กับการนำเสนอของแกมากกว่า ผมชอบที่ตัวหนังค่อย ๆ ออกรสออกชาติทีละเล็กละน้อย เริ่มเผยเขี้ยวเล็บในครึ่งหลังของเรื่อง เห็นได้ชัดว่ามันเข้มข้น มีจุดหมายที่ความสัมพันธ์ของ หญิงสาวต่างวัยสองคนที่เข้ามาพัวพันกับมิิกกี้ และผู้ชายที่น่าสงสารอย่างฮัมป์ตี้ ผู้ที่พยายามมอบสิ่งที่คิดว่าดีให้ภรรยาชอบ แต่ไม่เคยเรียนรู้เลยว่าภรรยาชอบไม่ชอบอะไร หนังนำเสนอปัญหาครอบครัวในวันที่ไฟรักเริ่มมอดไหม้หลังแต่งงาน ความโหดร้ายของความรัก ในวันที่ใจเริ่มเบื่อหน่าย คล้ายต้นไม้ที่ไม่ถูกรดน้ำเหมือนก่อน แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มสาวหรือแก่ใกล้ลงโรง พวกเขาทุกคนล้วนเป็นเพียง ‘เด็กน้อย’ เท่านั้นเจอความผิดหวังความรักที่ถาโถมมารุนแรง ไม่มีใครรับมือได้หรอก
Wonder Wheel มันชี้ให้เห็นถึงชะตากรรมของความรักที่ไม่ซื่อสัตย์และการทรยศหักหลังกันนั้นเป็นอย่างไร การโกหกที่ทำกันจนเป็นเรื่องปกติสุดท้ายมันไม่เคยนำพาชีวิตไปสู่ความสุขระยะยาวที่แท้จริงเลย