มีอะไรมากกว่าทีเห็นในตัวอย่างหนังมาก ตอนที่ดูตัวอย่างหนังแล้วได้เห็นมาดเถื่อน ๆ เครารกรุงรังของเจอร์ราร์ด บัตเลอร์ ในบทตำรวจ กำลังข่มขู่ผู้ร้ายก็ชวนให้คิดว่านี่คือหนังของกลุ่มตำรวจกังฉิน ที่น่าจะคอรัปชั่นเงินจากการปล้นของแก๊งโจร แต่เอาเข้าจริงแล้วผิดคาดมาก มันคือหนังที่เล่าเรื่องราวการขับเคี่ยวของแก๊งตำรวจโฉดดุกับแก๊งโจรอดีตนาวิกโยธินที่ฉลาดเป็นกรด วางแผนการปล้นธนาคารของรัฐที่ระบบความปลอดภัยรัดกุมสุดยอด ไม่เคยมีใครปล้นได้สำเร็จมาก่อน หนังกำกับและเขียนบทโดย คริสเตียน กู๊ดแกสต์ อดีตมือเขียนบทหนัง A Man Apart (2003) และ London Has Fallen (2016)และข้อดีของหนังที่กำกับโดยผู้กำกับที่มาจากมือเขียนบทคือบทของหนังจะแน่นมาก เหตุผลรับส่งดี แทบไม่เห็นช่องโหว่ของบท ปูมหลังตัวละครละเอียดยิบ
หนังเปิดเรื่องแบบปลุกอารมณ์ผู้ชมได้ชะงัดนักกับฉาก ปล้นรถหุ้มเกราะขนเงิน แก๊งโจรทุกคนใช้ปืนกลสาดกระสุนแบบไม่กลัวเปลืองใส่ตำรวจ จนตายเป็นเบือทั้ง 2 ฝ่าย กลายเป็นคดีใหญ่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบิ๊กนิก ที่ทีมของเขามีเบาะแสของแก๊งโจรกลุ่มนี้อยู่แล้ว และพยายามจะตามจับมาโดยตลอด และการปล้นรถหุ้มเกราะเปล่า ๆ ครั้งนี้ยิ่งความฉงนให้กับบิ๊กนิกอย่างมากว่ามันจะเอาไปทำอะไรวะ ก็ยิ่งชวนให้หนังดูน่าติดตาม หนังจำลองเรื่องราวให้เกิดในลอส แองเจลิส อ้างอิงข้อมูลจริงว่านี่คือรัฐที่มีการปล้นธนาคารสูงที่สุดในโลก เล่าเรื่องราว 2 ฝั่งขนานกันไป ฝั่งหนึ่งคือแก๊งโจรปล้นธนาคารที่นำโดยเมอร์ริเมน สมาชิกแก๊งแต่ละคนเคยผ่านคุกกันมาแล้ว และก็รู้จักกันตอนติดคุก ส่วนอีกฝั่งก็เป็นตำรวจทีมอาชญากรรมหนัก นำโดยบิ๊ก นิค บทที่เจอร์ราดร์ด บัตเลอร์ ไปเพิ่มน้ำหนักตัวมาอีก 11 กิโลกรัม ด้วยสภาพแต่ละคนเคราหนา ร่างบึ้กและรอยสักทั้งตัวทำให้สภาพของตำรวจแต่ละคนก็ดูไม่ต่างจากแก๊งโจรเท่าใดนัก แต่โดยรวมก็ทำให้บรรยากาศหนังดูเป็นหนังตำรวจผู้ร้ายที่ดูจริงจังเข้มข้น
หนังลากยาวถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที เรื่องราวระหว่างนี้ก็เล่าเรื่องราว 2 เส้นทางขนานกันไป ฝั่งหนึ่งคือเล่าแผนการอุกอาจที่ฟังดูแทบเป็นไปไม่ได้กับการปล้นธนาคารกลางของรัฐ ที่เป็นธนาคารที่รับฝากเงินจากธนาคารอีกที บทหนังดูจะให้ความสำคัญกับแก๊งโจรเสียมากกว่าตำรวจ เพราะค่อนข้างกระจายความสำคัญให้กับหลายคนในแก๊ง โดยเฉพาะดอนนี่ หนุ่มผิวสีนักซิ่ง ที่ดูเป็นเด็กหัวอ่อนในแก๊ง และโดนบิ๊กนิกบังคับให้เป็นสาย ,50 cent รับบทเป็นสมาชิกแก๊งโจรที่บทน้อยมาก โผล่มาทำหน้าขมึงแทบทั้งเรื่อง แต่บทก็ยังอุตส่าห์แบ่งเวลาให้เรื่องราวครอบครวของเขาได้สัก 5 นาที แถมเป็นมุกเดียวในหนังที่พอให้ยิ้มได้ ฝั่งตำรวจนั้นบทหนังจะลงลึกแค่ตัวบิ๊กนิคเพียงคนเดียว ส่วนลูกน้องนี่ดูจบยังไม่รู้เลยว่าใครชื่ออะไร บทหนังลง
ลึกไปถึงเรื่องราวดราม่าในครอบครัวของบิ๊กนิคเสียมาก การลงรายละเอียดฉากหลังตัวละครนั้นเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนดูได้รู้จักตัวละครหลักได้อย่างลึกซึ้ง เข้าถึงความคิดจิตใจของตัวละครบนจอ ทำให้คนดูได้คาดเดาการกระทำการตัดสินใจในเหตุการสำคัญของเรื่องราว แต่กับ Den Of Thieves ที่เป็นหนังแอ็คชั่นดุเดือด แต่หมดเวลาเสียมากไปกับเรื่องราวดราม่าในครอบครัวของบิ๊กนิก ซึ่งสุดท้ายก็ถูกทิ้งหายไม่ได้มีผลอะไรกับช่วงท้ายของหนัง เลยกลายเป็นว่าฉากหลังครอบครัวของบิ๊กนิคแม้ว่าจะช่วยสร้างความลึกให้กับตัวละครแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สูญเปล่า ถ้าตัดทอนไปก็จะทำให้หนังไม่ยาวถึง 2 ชั่วโมงกว่า และโทนหนังก็เป็นแอ็คชั่นเพียว ๆ มากขึ้น
โดยรวม Den Of Thieves ก็คือหนังที่ว่าด้วยตำรวจจับผู้ร้ายปล้นธนาคาร แต่สิ่งที่ทำให้หนังน่าประทับใจกว่าหนังในกลุ่มเดียวกัน ก็คือการสร้างแคแรกเตอร์ตัวละครที่ดูถึกบึกโฉดได้พอฟัดพอเหวี่ยงกันทั้ง 2 ฝ่าย ที่ดูโหดดุกันทั้งคู่ ด้วยความที่สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครได้ดูมีความน่ากลัวในตัว เลยส่งผลให้หนังมีฉากคาดคั้นข้อมูลที่ชวนให้ลุ้นเกร็งกับชะตากรรมของเหยื่อว่าจะรอดไหม และการปูเรื่องราวที่หนักและแน่นกว่าชั่วโมง เพื่อให้เรื่องราวมาประทุในฉากไคลแมกซ์ท้ายสุดของเรื่องแม้หนังจะไม่ได้มีฉากปะทะกันมากมาย ทั้งเรื่องมีแค่ 2 ฉากคือฉากเปิดกับฉากจบ แต่ทั้ง 2 ฉากก็เป็นฉากที่ทำได้มันส์ รุนแรง เสียงกระสุนไม่มีขาดหายไปสักวินาที โดยเฉพาะฉากปิดเรื่อง ที่ปูอารมณ์มาได้ดี และวางสถานการณ์ได้น่าสนใจให้ทั้ง 2 ฝ่ายสาดกระสุนกันกลางถนนที่รถติดกันอยู่บนถนนเป็นร้อยคัน ชวนให้นึกถึงฉากคลาสสิกใน Heat (1995) ของไมเคิล มานน์ และอีกจุดที่ทำให้หนังน่าติดตามก็คือความฉลาดของแก๊งตัวร้ายที่วางแผนได้ซับซ้อนรัดกุมในการปล้นธนาคารรัฐล่อหลอกได้ทั้งตำรวจและเพื่อนร่วมแก๊งกันเอง เป็นแผนการดูไม่เวอร์เกินไปนักและไม่ได้พึ่งพาอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย และที่สำคัญที่อารมณ์หนังทำได้ชวนลุ้นมาก กว่าจะรู้ตัวอีกทีเราก็กลายเป็นพวกผู้ร้ายที่ดันเอาใจช่วยให้แผนการปล้นสำเร็จไปเสียแล้ว อีกส่วนที่ชอบมากและต้องชื่นชม คริสเตียน กู๊ดแกสต์ ในฐานะเจ้าของเรื่องอีกครั้งคือการขมวดจบเรื่องราวแบบหักมุม เผยตัวผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง มีย้อนไปเฉลยแต่ละฉากตั้งแต่ต้นเรื่องให้เข้าใจกันปรุโปร่ง
Den Of Thieves เป็นหนังปล้นธนาคารที่ดูสนุกและมันส์ อย่าไปคาดหวังว่าหนังจะยิงกันทั้งเรื่อง แต่ฉากยิงก็ทำได้มันส์ดุเดือดสมกับที่ลากยาวมาทั้งเรื่อง จุดดีที่สุดของหนังคือแผนการที่ฉลาดซับซ้อนของแก๊งโจรในการปล้นธนาคาร หนังอาจจะปูอารมณ์ยาวไปสักหน่อยในช่วงต้นเรื่อง แต่พอเริ่มลงมือปล้นธนาคารแล้วตามด้วยการไล่ล่ากัน ก็เป็นฉากลุ้นมันส์ลากยาวกันไปเกือบชั่วโมงเลย เป็นหนังที่มีอะไรดีมากกว่าตัวอย่างหนังมากครับ คอหนังแอ็คชั่นไม่ควรพลาด