จากวรรณกรรมเด็กอมตะสุดคลาสสิกของป้า เบียทริกซ์ พอตเตอร์ ถูกนำมาปัดฝุ่นและดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเต็มตัว ซึ่งว่ากันด้วยเรื่องราวของเจ้ากระต่ายตัวแสบชื่อ ปีเตอร์ (เจมส์ คอร์เดน) และครอบครัว ที่ต้องรับมือกับ โทมัส แม็คเกรเกอร์ (โดห์นัลล์ กลีสัน) เจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยสวนผักอุดมสมบูรณ์ ผู้ซึ่งต้องการจะกำจัดแก๊งกระต่ายที่เข้ามากินผักผลไม้ในสวนให้หมดสิ้น ท่ามกลางความขัดแย้งของหนุ่มสุดเนี๊ยบกับครอบครัวกระต่ายนั้น ก็มีเพื่อนบ้านสาวสวยอย่าง บี (โรส เบิร์น) สาวอาร์ทติสหัวใจรักสัตว์ที่คอยดูแลแก๊งกระต่ายเข้ามาคั่นกลาง ขณะเดียวกัน โทมัส ก็ตกหลุมรัก บี (ย่อมาจาก บีทริกซ์) เหตุการณ์วุ่นวายและสับสนอลหม่านจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
Peter Rabbit สร้างความประทับใจแรกได้ทันที โดยเฉพาะงานซีจีที่สมจริงเกินคาดมาก ๆ เรียกว่ากระต่ายนี่ขนเป็นขน จังหวะเคลื่อนไหว กระโดด ท่าทางต่าง ๆ นี่เนียนกริบ ครบทุกรายละเอียด เห็นแล้วหลอกสมองให้เรารู้สึกอยากกอดเจ้ากระต่ายนี่มาก ๆ และภาพจากนิทานที่พอมาเป็นหนังแอนิเมชัน ก็สามารถต่อยอดบรรยากาศในเรื่องสมจริง ดูแล้วอินกับความเป็นบ้านนอกของอังกฤษ ให้ฟีลลิ่งแบบบริติชยุค 80-90 หน่อย ๆ แถมที่เป็นสีสันและเติมเต็มแอนิเมชันเรื่องนี้เลยก็คือ การออกแบบท่าทาง มุก แก๊กต่าง ๆ ประจำตัวของสิงสาราสัตว์แต่ละชนิด ตลอดไปจนคำพูด ที่เต็มไปด้วยความฮาเป็นระยะ แถมยังทะลึ่งตึงตังเกินความเป็นหนังเด็กไปไกลด้วย โดยเฉพาะ ปีเตอร์ เนี่ย มันยังกับฟิวชัน เจ้าหมีเท็ดจังไรกับเควิน เด็กนรกใน Home Alone มาก ๆ และอีกจุดหนึ่งคือการออกแบบการเล่าเรื่อง ที่มีการผสมผสานลายเส้นการ์ตูนเข้ามา ทำให้คนดูรู้สึกถึงกลิ่นอายต้นกำเนิดจากการเป็นหนังสือภาพขวัญใจอิงลิชชน
สำหรับใครที่ไม่เคยรู้จักกับ Peter Rabbit มาก่อนเลย หากได้มาดูก็คงประทับใจได้ตั้งแต่ฉากแรก ๆ เพราะตัวละครทุกตัวทั้งคนและสัตว์จับต้องได้ง่าย ขนาดบทบาทของ โทมัส หนุ่มเนี๊ยบก็พาให้นึกถึง มิสเตอร์บีน หรือพวก ฮามิช ตีนระเบิด เรียกว่าเป็นแคแร็คเตอร์ที่มีความเป็นบริติชมาก ๆ มีความเอ๋อ มีความมึน ดูแล้วก็ชอบหนุ่ม โดห์นัลล์ กลีสัน เล่นเรื่องนี้มาก คือมันใช่มากกับตัวละครที่ถูกกลั่นแกล้ง ส่วนตัวผมชอบเขาทุกบทบาท เป็นนักแสดงดาวรุ่งที่มีอินเนอร์กับหนังคัลท์มาก ๆ แถมยิ่งตัดสลับกับมุกตลกแดกดันแรง ๆ แบบคนอังกฤษนี่ก็เลยกลายเป็นว่า Peter Rabbit ดูสนุกไหลลื่นทั้งเรื่องกว่าที่คาดไว้มาก ๆ
พูดได้เต็มปากว่า Peter Rabbit เป็นแอนิเมชันที่โคตรจะน่ารัก ครบเครื่องมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปี ความลงตัวของไดอะล็อก จังหวะมุก ไปจนถึงเมสเซจที่หนังสอนให้ข้อคิดนั้นก็ทำมาได้เจ๋งกว่าหนังการ์ตูนหลายเรื่องที่พยายามหรือจงใจยัดเยียดเข้ามาในช่วงท้าย ๆ แต่ Peter Rabbit ไม่ทำแบบนั้น แต่ใช้เหตุการณ์ที่เตลิดไปจนถึงที่สุดแล้วเล่าผ่านผลลัพธ์แค่นั้นจบ ด้วยเนื้อหาที่มี ชั้นเชิงการเล่า งานด้านโปรดักชันที่ไหลลื่น ออกมาจากโรงแล้วก็อินแล้วก็คิดถึงแก๊งกระต่ายที่น่ารักเหล่านั้นได้ สิ่งที่ชอบที่สุดคือ นี่เป็น Peter Rabbit ที่โคตรคัลท์ มีความเป็นวรรณกรรม มีความเป็นมิวสิคัล ที่มีความเกรียน ๆ ฮา ๆ แบบบริติช เรียกว่าเป็นการคืนชีวิตของเจ้ากระต่ายจอมกวนอายุกว่าร้อยปีได้กลับมาโลดแล่นอย่างสมศักดิ์ศรีจริง ๆ
สำหรับ Peter Rabbit นั้นมาจากวรรณกรรมเด็กที่ชื่อว่า The Tale of Peter Rabbit ถือเป็นหนังสือภาพสำหรับเด็กที่เก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่งของโลกเลย โดยจุดเริ่มต้นของกระต่ายจอมกวนนี้มาจากความตั้งใจของป้า บีทริกซ์ พ็อตเตอร์ ที่เขียนจดหมายไปให้กำลังใจลูกชายของเพื่อนให้หายป่วยนั่นเอง