รู้สึกว่าช่วงฤดูร้อนนี้มีแต่หนังสัตว์ประหลาดยักษ์ออกมาให้ดูติด ๆ กันเลยนะ เดือนที่แล้วเพิ่งดูหุ่นยักษ์ตีกะไคจูไปใน Pacific Rim : Uprising พอเข้าเดือนนี้ก็ได้ดู กอริลล่ายักษ์ ตีกับ หมาป่ายักษ์ จระเข้ยักษ์อีกแล้ว Rampage โผล่มาในฐานะหนังสร้างจากเกมเรื่องล่าสุด หลังจากกระแสหนังสร้างจากเกมซบเซาไปพักใหญ่ แล้วได้ Warcraft กลับมาสร้างความหวังให้อีกครั้ง แล้วก็ได้เห็น Tomb Raider (2018) ที่กลับมาไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิด ก็น่าจะทำให้ Rampage ไปได้พอควร แต่ด้วยหน้าหนังที่ขายความถล่มทลายกันอย่างจริงจัง และมีชื่อดเวย์น จอห์นสัน เป็นจุดขายหลัก โอกาสกวาดกำไรจากเงินคนดูนอนมาเห็น ๆ เนอะ
เชื่อว่าผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะไม่รู้มาก่อนว่า Rampage ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่มีที่มาจากเกม เพราะ Rampage เป็นเกมยุคเก่าตั้งแต่ปี 1986 เป็นเกมตู้ที่ต้องหยอดตังค์เล่นกันตามร้านเกม ตัวละครหลักในเกมก็มี จอร์จลิงยักษ์ , ราล์ฟหมาป่ายักษ์ และลิซซี่ตะกวดยักษ์ อย่างที่เราเห็นกันในหนัง เราเลือกเล่นเป็นตัวไหนก็ได้ หน้าที่เราคือทำลายตึกรามบ้านช่องให้ได้มากที่สุดเพื่อกวาดคะแนน แต่ทหารก็จะมายิงเราทำให้ค่าพลังชีวิตเราลดลง แต่ถ้าเรากินคนค่าพลังชีวิตเราจะกลับมา ในเกมจอร์จ , ราล์ฟ และ ลิซซี่ จะร่วมมือกันทำลายบ้านเมือง แต่ถ้าในหนังออกมาแบบนั้นคงจะไม่สนุกนะ ก็ดีแล้วล่ะที่คนเขียนบทเลือกให้จอร์จ เป็นศัตรูกับราล์ฟ และลิซซี่ เราก็เลยได้ดูฉากสัตว์ยักษ์ตะลุมบอนกัน
ดูแล้วชื่นชม ไรอัน เอนเจิล เจ้าของเรื่องและเขียนบทภาพยนตร์ที่สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวของ Rampage ให้ออกมาเป็นจริงเป็นจังได้ ทั้งที่เกมต้นฉบับแทบไม่มีเนื้อหาอะไรเลย หนังแบ่งเป็นสองพาร์ท สนุกทั้ง 2 พาร์ท แม้อารมณ์จะต่างกันมาก ครึ่งแรกในการแนะนำตัวละครและต้นเหตุของความโกลาหลที่สร้างบรรยากาศออกมาเป็นหนังสยองขวัญได้ชวนลุ้นมาก ทั้งฉากบนสถานีอวกาศ และฉากทหารไล่ล่าราล์ฟ หมาป่ายักษ์ ในป่า ที่ทำเอาสะดุ้งอยู่ได้หลายทีเหมือนกัน และช่วยเสริมความน่ากลัวให้กับราล์ฟได้มาก ในขณะที่ลิซซี่กลับไม่ถูกพูดถึงและเก็บไว้เป็นไม้เด็ด มาเผยโฉมให้เซอร์ไพรส์กันท้ายเรื่อง พอเข้าครึ่งหลังหนังก็เข้าสู่โหมดหนังแอ็คชั่น จัดหนักจัดเต็มแบบที่เห็นกันในตัวอย่างหนัง
และที่สำคัญหนังรักษาธีมหลักของเกมไว้ได้กับการได้เห็น 3 สัตว์ยักษ์ทำลายตึกรามบ้านช่องเหมือนในเกม งานซีจีทำได้เนี้ยบสุด ๆ แม้จะเคยผ่านตากันมาแล้วกับหนังซึนามิหลายต่อหลายเรื่อง ก็ยังดูน่าตื่นตาอยู่ดี แถมเจ้าราล์ฟ กับ ลิซซี่ ก็ยังมีความสามารถพิเศษทีเก็บซ่อนไว้มาเป็นเซอร์ไพรส์อีกหลายอย่างเป็นฉากแอ็คชั่นที่ลากยาวกันจุใจเกือบชั่วโมง ได้เห็นทั้งสัตว์ทำลายบ้านเมือง ดูสัตว์ยักษ์ทำลายเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินรบ รถถัง ก็ดูสะใจดี แล้วก็ลงท้ายได้ดูสัตว์ยักษ์ทั้งสามตีกันเอง เป็นฉากแอ็คชั่นลากยาวที่บันเทิงสุด ๆ โดดเด่นที่สุดต้องยกให้งานซีจีที่สร้างสรรค์จอร์จเจ้ากอริลล่ายักษ์ที่ทำออกมาได้ดูมีชีวิตชีวามาก เชื่อว่าทุกคนที่ได้ดูจะต้องหลงรักเจ้าจอร์จกันหมด เป็นกอริลล่าที่มีอารมณ์ขันขี้เล่น แถมพอเข้าโหมดบู๊ก็ยังเก่งถึกทนเสียอีก พอรักจอร์จแล้วตอนเห็นจอร์จสู้ก็ทั้งลุ้นทั้งเป็นห่วงจอร์จไปด้วย แต่เหมือนงานซีจีจะทุ่มเทไปกับจอร์จเป็นหลัก ตัวราล์ฟ กับ ลิซซี่ ในบางฉากก็เลยยังดูมีความเป็นการ์ตูนอยู่บ้าง และเมื่อหนังออกมาแนวนี้ก็ดูจะเข้าทางทั้งผู้กำกับแบรด เพย์ตัน และ ดเวย์น จอห์นสัน เพราะทั้งคู่ก็เคยร่วมงานกันมาแล้วใน San Andreas หนังแผ่นดินไหวบ้านเมืองถล่มทลายกันมาแล้ว
จุดด้อยของหนังก็ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐานของหนังฮอลลีวู้ด คือบทที่เขียนนำเพื่อเปิดช่องให้ได้ใส่ฉากแอ็คชั่นมันส์ ๆ เป็นหลัก ก็เลยมีช่องโหว่ตรงนั้นตรงนี้ที่ดูไร้เหตุผลเต็มไปหมด แต่ถ้าชั่งน้ำหนักแล้วกับการที่ได้ความมันส์กลับมาก็ถือว่าพอให้อภัยได้ หนังหวังผลทางการตลาดแบบนี้ต้องดูแบบปล่อย ๆ ไปอย่าคิดตาม , ดเวย์น จอห์นสัน ไม่มีอะไรให้พูดถึงมาก มาในมาดเดิม ๆ เล่นแบบสบาย ๆ เลย ยิ่งถ้าประกบจอร์จ ก็โดนจอร์จขโมยซีนไปตลอดล่ะ , มาลิน เอเคอร์แมน และ เจค เลซี่ ในบทพี่น้องไวเด็น ตัวร้ายของเรื่องที่ร้ายมาตั้งแต่เปิดตัว ร้ายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย ส่วนตัวละครรายที่ดูมีมิติสุดก็เห็นจะเป็น เจ้าหน้าที่รัสเซล บทของเจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน ที่เปิดตัวมาด้วยมาดเดียวกับ นีแกน ที่เราคุ้นตากันเลย คือดูร้ายแบบมีพิษสง
ซ่อนอยู่หลังใบหน้าที่พูดไปยิ้มไปตลอดเวลา แล้วรัสเซล ก็มีมุมที่น่ารักในตอนท้าย ๆ และถ้าหนังมีภาคต่อ บทของเขาก็น่าจะได้ไปต่อด้วย
สรุปได้ว่า Rampage เป็นหนังทุนสูงเปิดฤดูซัมเมอร์ปีนี้ได้อย่างน่าพอใจ เป็นหนังที่หวังผลทางการตลาด มอบความบันเทิงให้ผู้ชมล้วน ๆ แล้วก็ทำได้จริง ได้ลุ้นกับฉากไล่ล่า ได้ยิ้มไปกับความน่ารักของจอร์จ และได้มันส์ไปกับฉากสัตว์ทำลายบ้านเมือง ได้ดูฉากสัตว์สู้กันลากยาว ๆ แบบจุใจ งานซีจีแต่เป็นความบันเทิงที่ก็ยังมีช่องโหว่ของบทให้ขัดใจอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วคุ้มค่าตั๋วคุ้มเวลา 1 ชั่วโมง 47 นาที ครับ หนังแบบนี้ถ้าดูจอ IMAX ได้ ก็แนะนำให้ดูเลย
สาระส่งท้าย บทเดวิส โอโคเย ของ ดเวย์น จอห์นสัน ในเรื่องนี้เป็น “นักไพรเมตวิทยา” เป็นศัพท์ที่ไม่คุ้นหูเลยไปหาข้อมูลมาฝากครับ “ไพรเมต (อังกฤษ: Primate) เป็นอันดับของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อันได้แก่ สัตว์จำพวกลีเมอร์, ลิง และลิงไม่มีหาง ซึ่งรวมถึงมนุษย์ด้วย มีชื่อสามัญเรียกกันโดยทั่วไปว่า ไพรเมต” สรุปก็คือ เดวิส เป็นนักวิชาการที่ดูแลสัตว์จำพวกวานรนั่นแหละ