โปรโมตกันมาพักหนึ่งแล้วสำหรับหนังฟอร์มบู๊แอ็คชันที่เอารุ่นเก๋าจอมหักกระดูกอย่าง สตีเว่น ซีกัล และอดีตแชมป์โลกจอมกัดหูอย่าง ‘มฤตยูดำ’ ไมค์ ไทสัน มาเป็นตัวชูโรง แล้วนี่ยังเป็นหนังแอ็คชันเรื่องแรกของ ถัน บิง ผู้กำกับแดนมังกร ที่ทั้งร่วมเขียนบทและกำกับด้วย โดยมีพลอตเรื่องน่าสนใจที่ดึงมาจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ของบริษัทโทรคมนาคมระหว่างฝั่งยุโรปและจีนที่เข้าไปประมูลเพื่อวางระบบเครือข่ายโทรคมนาคมในแอฟริกา ซึ่งผู้ชนะการประมูลจะได้เป็นเจ้าของสิทธิ์ในการควบคุมการสื่อสารในภาคเหนือและใต้ของแอฟริกา
ด้วยหน้าหนังที่ดูดี มีความอินเตอร์ในงานโปรดักชัน ทำให้อย่างน้อยเราพอจะคาดหวังว่า China Salesman จะมาพร้อมงานแอ็คชันล้างผลาญที่ถึงไหนถึงกัน แล้วเนื้อหาวัตถุดิบที่มีในมือก็น่าสนใจ เรียกว่าเข้ากับสถานการณ์วงการไอทีและกระแสการเติบโตที่น่าจับตามองของ ซิลิคอน วัลเลย์ ในจีนอย่างแท้จริง ถึงก่อนหนังจะฉาย ใครหลายคนอาจจะประเมินมันเป็นงานหนังแผ่นก็ตาม
China Salesman เปิดเรื่องมาได้ดี เน้นไปที่งานแอ็คชันที่เล่นใหญ่จัดเต็ม รวมทั้งการวางภาพให้ดูอิมแพ็ค อลังการงานสร้าง แต่ดูวอนนาบีมาก ๆ คอสตูมก็งง ๆ แต่งหน้านักแสดงบางคนยังหน้าลอยด้วยซ้ำ แอบคิดไปว่านี่ดูละครเย็นอยู่หรือเปล่า (ฮา) แต่ที่ป่วยมากที่สุดเห็นจะเป็นการตัดต่อแทบจะทั้งเรื่อง เหมือนรีบ ๆ ตัดให้มันเสร็จ ๆ ไป ฉากกำลังเดินไปอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ ตัดไปอีกเหตุการณ์ดื้อ ๆ มันเลยกลายเป็นว่า หนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยฉากงง ๆ ค้างเติ่ง พูดกันยังไม่ทันรู้เรื่อง พี่แกตัดฉับ แล้วไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องเลย เหมือนมรึงเรียงคลิปตัดสลับกันอย่างไงอย่างงั้น
เนื้อหาหลัก ๆ เรื่องสาระการประมูลเครือข่าย ความขาดแคลน ทุกข์ยาก แทบไม่มีให้เห็น มันคือหนังอวยชาติแบบโต้ง ๆ เป็นมวยไม่มีเชิงของพี่จีน เรียกว่าเลียกันแบบเห็น ๆ อวยกันแบบซึ่ง ๆ หน้า ดูแล้วนึกถึงพวก Wolf Warriors เลย แต่ China Salesman นี่มาเต็มไปหมด โดยเฉพาะพระเอก หยาน เจี้ยน (หลี ตงเสวีย) เซลส์เอนจิเนียร์จีน เป็นยิ่งกว่าซุปเปอร์ฮีโร่ คน ๆ เดียวแต่พี่แกทำได้ทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด ถามไรมาตอบได้หมดยิ่งกว่าอับดุล แต่หนังไม่ได้บอกเลยว่ามันเก่งอย่างไร แค่คำแนะนำง่าย ๆ หรือว่าพิมพ์โน๊ตบุ๊กต๊อกแต๊ก ๆ ฝรั่งก็กราบแล้วกราบอีกว่าพี่โคตรอัจฉริยะเลย
ไม่ต้องถามหาความสมเหตุสมผลของหนังเรื่องนี้ หนังมีแต่น้ำ ไม่มีอะไรยาก ทุกอย่างสะดวกโยธินสำหรับพี่จีน คู่แข่งเครือข่ายฝั่งฝรั่งตาน้ำข้าวก็เอ๋อเหรอสุด ๆ ทั้งทีมนี่นั่งเป็นง่อยพร้อมรอพี่ หยาง เจี้ยน ออกโรงกลบรัศมีตลอดเวลา ไม่เกรงใจ ลุงซีกัล กับ น้าไมค์ กัดหู เลย กลายเป็นตัวประกอบเกรดล่างหมดสภาพ เรียกว่าเอาลุง ๆ น้า ๆ มาฆ่าชัด ๆ (ฮา)
อันที่จริง หนังไม่น่าจะยืดยาวได้ถึงขนาดเกือบ 2 ชม. ด้วยซ้ำ แต่ก็ดันมีพาร์ทที่ยืดเรื่องออกไปอีก แถมไอ้ส่วนที่ยืดน่ะ มันควรจะเอามาใช้เดินเรื่อง โดยเฉพาะการฟ้องร้องสิทธิบัตรเนี่ย มันเป็นปัญหาคู่กรรมของบริษัทไอที แต่ด้วยความที่เดินเรื่องมากลวง ๆ แต่แรกอยู่แล้ว ใส่อะไรมาแต่เล่าเรื่องจังไรมันก็เละเทะ ก็พี่เล่นทำเอาฮาตั้งแต่แรก ที่เหลือตัวละครจะดราม่าแค่ไหนมันก็ไม่น่าเชื่อไปหมด นี่เอาจริง ๆ แอบฮาแบบปลง ๆ ไปหลายฉากนะ โดยเฉพาะการพยายามใส่โน่นใส่นี่มาอวย มันดูเสร่อไปหมด อารมณ์ประมาณดัน หยาง เจี้ยน เป็นเหมือน โรอัลด์ อะมุนด์เซน ที่ไปปักธงพิชิตขั้วโลกใต้ หรือ นีล อาร์มสตรอง ไปเหยียบดวงจันทร์ ประมาณนั้นแหละ อะไร ๆ ก็ดูพยายามไปหมด ต้องบอกว่าคนทำหนังอยู่เป็น แต่มึงไม่เนียนเลย (ฮา)