Our score
7.0The Billionaire Boys Club
จุดเด่น
- หนังเล่าเรื่องสนุก
- นักแสดงเล่นดี
- สอนใจเรื่องการลงทุนได้ดี
จุดสังเกต
- เนื้อเรื่องเดาง่าย
- ตัวละครแบนมาก
-
คุณภาพงานสร้าง
7.0
-
เนื้อหา ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท
7.0
-
ความแปลกใหม่
7.0
-
ความสนุก
7.0
-
ความคุ้มค่าตั๋ว
7.0
โจ ฮันต์ (แอนเซล เอลกอร์ต) และ ดีน คาร์นี (ทารอน อีเกอร์ตัน) ร่วมกับผองเพื่อนลูกคุณหนูตั้งวงแชร์ลูกโซ่หลอกเหยื่อจนร่ำรวย แต่พวกเขาก็ยังแพ้เล่ห์เหลี่ยมของ รอน เลวิน (เควิน สเปซีย์) 18 มงกุฎสุดเก๋าที่มาสอนเกมหนุ่มน้อยพันล้านจนแทบกระอักเลือด และเมื่อความโลภและความแค้นอยู่เหนือการควบคุม พวกเขายังต้องถูกตามล่าจากทางการและมิตรภาพก็ต้องถูกประเมินราคาอีกครั้ง
ตัวหนังสร้างจากคดี พอนซี สกีม (Ponzi Scheme) อันโด่งดังในปี 1984 เมื่อ 2 หนุ่มคิดรวยทางลัดจัดตั้งบริษัทด้านการเงินหลอกคนมาลงหุ้นลมในลักษณะแชร์ลูกโซ่นำพาไปสู่การหักหลังจาก 18 มงกุฎที่เลยเถิดถึงขั้นมีการฆาตกรรมจนถูกนำไปสร้างเป็นมินิซีรีส์ฉายทางช่อง เอ็นบีซี และส่งอิทธิพลต่อซีรีส์และรายการโทรทัศน์ต่างๆมากมาย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะคดีนี้ดูจะสมบูรณ์พร้อมทั้งเรื่องราวการหลอกต้มตุ๋นเงินจากบรรดาหนุ่มๆลูกคุณหนู หรือเหตุการณ์ฆาตกรรม รวมถึงจุดพลิกผันของมิตรภาพที่ถือเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการเอามาสร้างหนังทริลเลอร์สนุกๆสักเรื่อง
แต่เจมส์ คอกซ์ กลับเล่าเรื่องราวการต้มตุ๋นได้อย่างราบเรียบ เดาทางง่าย และไม่ชวนให้เราเอาใจช่วยตัวละครเท่าใดนัก ทั้งที่ตัวละครอย่าง โจ ฮันต์ สามารถเล่าเรื่องราวของเขาได้หลากมิติหลายชั้น – ซึ่งจะว่าไปในหนังเองมีการเปรียบเทียบเขากับสตีฟ จอบส์ ด้วยซ้ำในแง่ นักขายฝัน กับ นักขายอนาคต – แถมยังมีปมเรื่องบ้านจน ทำตัวเฉิ่มเชย ที่แม้หนังจะเอามาปูพื้นตัวละครตอนต้นได้น่าสนใจไม่น้อย แต่พอ โจ แปลงร่าง เราก็ได้เห็นแต่โจที่ทำตัวหล่อ พูดเสียงดังแล้วอยู่ๆคนก็เชื่อ และหมั่นยัดสถานการณ์บังเอิญและการตัดสินใจโง่ๆ ตัวละครเลยหมดเสน่ห์ไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนตัวละคร ดีน คาร์นี ก็แปลกที่หนังเล่าผ่านมุมมองตัวละครนี้ แต่เรากลับมารู้ถึงมุมมองความคิดของน้ำเสียงคนเล่าใน 5 นาทีสุดท้าย จนงงว่าแล้วหนังจะเล่าผ่าน ดีน ทำไมเนี่ย?
แต่กระนั้นความดีงามของหนังก็ยังมีอยู่ แม้ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องราวของคดีพอนซี สกีม ที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นที่ดีอยู่แล้วแต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังเล่าเรื่องราวได้สนุก ไม่น่าเบื่อ ยิ่งได้การแสดงของ แอนเซล เอลกอต จาก Baby Driver มารับบท โจ ฮันต์ ด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้เรื่องราวยิ่งดูมีชีวิตแม้จะเดาทางเรื่องได้ง่ายแค่ไหนก็ตาม ส่วน ทารอน เอดเกอร์ตัน จาก Kingsman แม้จะน่าสงสารที่สถานะแทบไม่ต่างจากตัวประกอบทั้งที่เป็นคนเล่าเรื่อง แต่ทุกฉากที่ ทารอน ปรากฎตัวก็โดดเด่นพอเป็นที่จับตามองได้บ้าง ด้านเควิน สเปซี ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะบท รอน เลวิน ไม่ได้เกินความสามารถจนแทบตัดต่อเอาน้ำเสียง แฟรงค์ อันเดอร์วูด มาผสมคาแรกเตอร์ 18 มงกุฏในหนังหลายเรื่องที่เขาแสดงก็ขโมยซีนเหล่าหนุ่มๆได้แล้ว ส่วนสาวๆก็ถือเป็นสีสันของเรื่องได้ดีทั้ง เอมมา โรเบิร์ต หลานสาวของ น้า จูเลีย โรเบิร์ตืก็รับบทแฟนสาวของ โจ ได้มีเสน่ห์ดี แม้จะเดาไม่ยากว่าเธอพยายามจะเป็น มาร์โกต์ ร็อบบี แบบใน The Wolf Of Wallstreet มากแค่ไหนก็ตาม (แต่ก็เทียบชั้นไม่ได้อยู่ดีนะ) หรือ น้อง ซูกี วอร์เตอร์เฮาส์ ที่มาเอ็กซ์แตกอย่างเดียวก็เป็นสีสันได้ดีกว่าตอนเป็นหุ่นปลอมใน Future World ที่เราเพิ่งสับ เอ้ย! เพิ่งรีวิวกันไปสัปดาห์ก่อน
สรุปง่ายๆ ใครอยากหาหนังที่เตือนสติก่อนลงทุนก็จงดู The Billionaire Boys Club เป็นอุทาหรณ์เถอะ เพราะต่อให้ยุคเปลี่ยนแต่ความโลภก็ยังทำให้ลาภหายได้เช่นเดิม ตัวหนังสนุกพอใช้ได้ แม้ไม่แปลกใหม่นักก็ตาม
มาตั้งสติก่อนควักเงินลงทุนกับ The Billionaire Boys Club คลิกซื้อตั๋วที่ภาพด้านล่างได้เลยจ้า