[รีวิว] App War แอปชนแอป: อยากเป็นโอตะหนังเรื่องนี้เลยอุ๋ง
Our score
8.7

App War แอปชนแอป

จุดเด่น

  1. อรอุ๋งโคตรน่ารัก งานดี
  2. หนังเล่าเรื่องสตาร์ทอัปได้อย่างมีเสน่ห์ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นได้
  3. เอ็ดดี้ เสือร้องไห้ ฮามาก
  4. หนังมีมาตรฐานที่สูงในแง่การผลิตและการเล่าเรื่อง

จุดสังเกต

  1. มีตกบกพร่องนิดหน่อย ที่ไม่น่าเกิดในชีวิตจริงตามสไตล์หนังรอมคอม
  2. บางคาแรกเตอร์ไม่น่าสนใจนัก และมีซ้ำทางกันบ้าง
  3. ไม่ได้ลงลึกในเชิงเทคนิกธุรกิจมากนักเพราะอยากให้ดูง่าย
  • คุณภาพงานสร้าง

    8.5

  • เนื้อหา ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    8.0

  • ความแปลกใหม่

    9.5

  • ความสนุก

    8.5

  • คุ้มค่าตั๋ว

    9.0

Play video

เรื่องย่อ

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

บอมบ์ กับ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นาน ก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งไอเดียและคอนเซปต์ของแอปคล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อป” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่า แอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง สงครามแอปที่จะมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะลงเอยอย่างไร แล้วคู่แข่งธุรกิจกับความรักจะไปด้วยกันได้หรือไม่ ต้องติดตาม

หนังจากค่าย T Moment ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นค่ายหนังความหวังหนึ่งของคอหนังไทยเลยนะ โดยเฉพาะกับหนังระลอก 2 ที่ค่ายนี้เตรียมปล่อยโดยเริ่มที่หนังเรื่องแรกคือ App War นี่เอง หนังเป็นผลงานกำกับของ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร ที่เคยกำกับหนังไทยที่ได้ใจไปแบบม้ามืดในปี 2558 เรื่อง 2538 อัลเทอร์มาจีบ ของ ค่ายโมโนพิคเจอร์ ก่อนที่จะมารวมกับ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์  ก็นับว่ามารอบใหม่ยังคงเก็บจุดเด่นในเรื่องภาพเท่ ๆ สวย ๆ เนื้อหามัน ๆ เข้าใจง่าย ๆ เข้าอกเข้าใจวัยรุ่นวัยเรียนเช่นเคย ส่วนที่พัฒนาขึ้นคงเป็นการกล้าที่จะเล่าเนื้อหาใหม่ ๆ ไม่อิงความนิยมเดิม ๆ แบบนอสตัลเกียอย่างเรื่องก่อน เพราะสตาร์ทอัปถึงจะเป็นคำฮิตที่ได้ยินบ่อยในช่วงไม่กี่ปีนี้ แต่เอาเข้าจริงเด็กไทยก็ไม่ได้สนใจหรืออยากจะเข้าใจอะไรไปมากนัก ตรงนี้ทำให้ App War มีจุดสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ให้หนังไทยอย่างที่ ฉลาดเกมโกง เคยทำไว้เช่นกัน หนังที่กล้าสร้างเทรนด์ที่ดีให้สังคมแบบนี้จึงเป็นอะไรที่ต้องสรรเสริญ ไม่ใช่แค่ชื่นชมเลยครับ

คู่เพื่อนที่จะกลายเป็นผู้กำกับนำวงการหนังไทย บาส จากฉลาดเกมโกง และ เสือ จาก App War

หนังใช้ดาราหน้าใหม่เป็นตัวหลัก แม้เราจะคุ้นหน้าจากงานโฆษณา หรือเอ็มวีมาบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ฐานแฟนคลับยังไม่ใช่ขนาดตัวเรียกเงินทองได้ ดังนั้นค่ายก็ต้องมั่นใจในฝีไม้ลายมือกันระดับหนึ่งเลยล่ะ ตรงนี้ก็ขอพูดรวบทีเดียวเลยว่า กลุ่มนักแสดงตัวหลักทั้งฝั่งพระเอก และนางเอก นั้นมีเสน่ห์น่าสนใจ แต่การแสดงนั้นอยู่ในกรอบมาตรฐานที่ดี ยังไม่ได้โดดเด้งจนจดจำนัก อย่างพระเอก ณัฏฐ์ กิจจริต ในบท บอมบ์ โปรแกรมเมอร์เทพก็ถูกนำเสนออย่างเด็กเนิร์ดจัดที่มีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ตามเนื้อเรื่องก็ทำให้ไม่ได้โชว์ฝีมือการแสดงได้จะแจ้งจนไปตัดสินได้ ฝั่งนางเอกอย่าง จูน ที่แสดงโดย วริศรา ยู แม้จะทำได้ดีในบทปะทะอารมณ์และบททั่ว ๆ ไป แต่ในโมเม้นท์เขินอายเข้าพระเข้านางก็ยังมีจังหวะแปลก ๆ ที่เห็นชัดว่าเคมียังไม่เข้ากันกับพระเอกดีนัก แต่ก็เป็นฉากสั้น ๆ ที่อาจปล่อยผ่านไปก็ได้ล่ะนะ

ด้านเพื่อนพระเอกนางเอก ก็มีความชัดเจนดี ตัวละครฝั่งจิตใจด้านมารของทั้งสองทีมอย่าง ตัวละคร ฝ้าย (ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์) และ บิ๊วท์ (อภิวิชญ์ เรียร์ดอน) ก็แสดงด้านเทาที่ความต้องการชนะอยู่เหนือความถูกต้อง ทำให้เรื่องขับไปข้างหน้าได้สนุก เพราะมันเป็นทั้งฝั่งตัวเอกที่เราอยากเอาใจช่วยแต่มันก็มีจุดหลงผิดที่เราอยากห้ามเหมือนกัน เป็นพวกเทา ๆ ที่น่าสนใจ ส่วนอีกตัวละครเพื่อนพระเอกอย่าง ไต๋ (สิราษฎร์ อินทรโชติ) คาแรกเตอร์อาจใกล้กับบอมบ์มากไปนิด แต่ ทู-สิราษฎร์ ที่เริ่มเชี่ยวชาญงานแสดงก็หาจุดน่าจดจำของตัวละครนี้ได้ เรียกว่าเอาตัวรอดเก่ง

ความเซอร์ไพร้ส์และต้องยืนปรบมือให้รัว ๆ กลับเป็น 2 นักแสดงสมทบที่ได้พื้นที่และเวลาของตัวเองแบบพอดีมาก ๆ ไม่ล้นจนอวยและไม่น้อยจนไม่รู้จะใส่มาทำไม แถมการแสดงของทั้งสองคนก็ทำให้หนังสนุกขึ้นมาก ดีขึ้นมากด้วย และคนแรกก็คือ เอ็ดดี้ เสือร้องไห้ ในบทรุ่นพี่แก๊งยิงเลเซอร์ ที่ต้องบอกว่าขโมยซีนได้โคตรเก่ง ฉากของเขาเรียกสีสันความฮาได้มาก แล้วยังทำให้ตัวละครอื่น ๆ อย่างพระเอกนางเอกดูเล่นได้ตลกเข้าขามากขึ้นด้วย คือเป็นอาวุธลับที่สุดยอดมากของหนังสำหรับเอ็ดดี้ ส่วนอีกคนคงเป็นคนที่หลายคนจับตามองนั่นก็คือ อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ หรือ อรอุ๋ง แห่ง BNK48 นั่นเอง ที่ต้องบอกว่าแม้จะเป็นการแสดงครั้งแรกก็ฉายเสน่ห์ออกมาได้อย่างไม่เก็บเม้มกันเลย คือเราโดนตกกันผ่านการแสดงของเธอจริง ๆ ทั้งบทอ้อน และบทดราม่า คือน่าประทับใจจริง ๆ

ซึ่งอรได้ถามเหล่าแฟน ๆ ให้คอมเม้นท์อย่างตรงไปตรงมาถึงการแสดงของเธอเพื่อให้เธอตัดสินใจอนาคตการแสดง ก็ขอวิจารณ์ตรง ๆ ตามเนื้อผ้านะครับว่า มีหลายช่วงที่เราเห็นการแสดงแบบเล่นตามแพทเทิร์นและยังไม่ค่อยลงตัว แต่ก็รู้สึกแค่ช่วงแรก ๆ ของหนัง เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ กลับพบว่าอรเล่นได้เนียนขึ้น อาจเพราะบทใกล้กับวัยตัวเอง จนฉากที่เธอต้องดราม่านั่นล่ะครับ เราเชื่อได้ว่าอรต้องเป็นนักแสดงที่ดีได้แน่ ๆ แต่ก็ต้องขอให้เก็บประสบการณ์และฝึกฝนด้านการแสดงอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เพราะยังต้องลดจุดบกพร่องในการเล่นแนวตามสูตรและสมาธิความนิ่งในจังหวะที่รอบทเล่นให้มากขึ้นด้วย

โดยสรุปหนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังไทยที่ภาพเท่มาก ๆ คอสตูมดีไซน์ต่าง ๆ คิดมาอย่างมีรสนิยม เนื้อเรื่องมีการนำเทรนด์ทางปัญญาให้เด็ก ๆ มีฝันในยุคแห่งนวัตกรรม และยังให้เห็นอุปสรรคชีวิตจริงว่าความสำเร็จมันไม่ได้มาง่าย ๆ ไม่ฟุ้งลอยเกินไปด้วย ในขณะเดียวกันแม้ข้อคิดและสาระจะมากมี แต่ก็สมดุลกับความบันเทิงที่มีเรื่องของมิตรภาพและความรักเป็นพื้นได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน หนังอาจไม่เด็ดขาดอย่างหนังแนวธุรกิจแบบเดียวกันของฝรั่ง หรือเข้มข้นระทึกขวัญขนาดฉลาดเกมโกง แต่ก็มีความดีงามไปอีกทางหนึ่งที่หนังเรื่องที่กล่าวมาไม่อาจนำเสนอได้ คือจากใจเลยคือมองว่าสำหรับช่วงปีสองปีนี้หนังเป็นรองแค่ ฉลาดเกมโกง เท่านั้นเอง ดังนั้นเชื้อเชิญอย่างยิ่งเลยให้ทุกคนไปดูครับ


และน่าจะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า BNK48 ที่เคยช่วยชุบชีวิตวงการสิ่งพิมพ์ไทยให้รอดตายมาได้ แล้วครั้งนี้ก็น่าจะช่วยวงการหนังไทยที่ลูกผีลูกคนอยู่ได้อย่างมากทีเดียว

ดูรอบหนัง จองตั๋ว ได้ที่นี่เลยจ้า