Play video

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ

สุภาษิตเนปาลกล่าวว่า “ภูเขาทุกลูกล้วนมีจิตวิญญาน” เพียงแค่คุณเชื่อ หรือแค่อยากจะเชื่อ… ที่แห่งนี้ได้ส่งเสียงเพรียกความหมายของชีวิตที่ซ่อนคำตอบอยู่ในพื้นที่สูง 7,400 ฟิต หมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตจริงๆ ผู้คนจริงๆ . ที่แห่งนั้นซุกตัวภายใต้อ้อมกอดขุนเขา ปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวก ทว่ากลับให้ในสิ่งที่เราไม่เคยได้รับ อะไรคือความเปี่ยมสุขภายใต้ขีดจำกัดมากมายของชีวิต ร้อยคนคงมีคำตอบร้อยแบบ แล้วคำตอบของคุณคืออะไร? ภาพยนตร์สารคดีชิ้นใหม่ของผู้สร้าง “ประชาธิป’ไทย” เป็นเอก รัตนเรืองและภาสกร ประมูลวงศ์

Gatlang : Happiness, hardship and other stories หนังชื่อแปลกผลงานสารคดีลำดับที่ 2 ของ เป็นเอก รัตนเรือง และภาสกร ประมูลวงศ์ ที่พลิกทางจากสารคดีเรื่องก่อนหน้าอย่าง ประชาธิป’ไทย ไปแบบสิ้นเชิง เมื่อเป็นเอกชักชวนเพื่อน ๆ และทีมงานเดินทางสู่ชนบทห่างไกลของเนปาล ณ หมู่บ้านกัตลัง ของชนเผ่าทามัง เพื่อตอบคำถามในใจของเป็นเอกเองว่าเขาจะพบความสุขในที่ทางที่มากด้วยจิตวิญญาณเช่นนี้ไหม

หนังเป็นเหมือนบทบันทึกการเดินทางส่วนตัวของเป็นเอกและเพื่อนเสียมากกว่า ที่จะเป็นสารคดีว่าด้วยชนเผ่า หรือวิถีชีวิตผู้คนที่ห่างไกล แม้ว่าหนังจะมากด้วยรายละเอียดที่ว่าก็ตาม เพราะหนังเปิดจากบทบรรยายของเป็นเอกว่านี่เป็นการเดินทางที่โหดที่สุดในชีวิต และถ่ายถนนหนทางที่แสนทุรกันดารลึกเข้าสู่หุบเขาและขอบเหว จนล่วงมาถึงหมู่บ้านที่ห่างจากความศิวิไลซ์อย่าง กัตลัง หนังสารคดีเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คนหลากหลาย ทั้งแม่ใหญ่ที่ยังชีพด้วยการปลูกผักเพียงลำพัง พระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เด็กหนุ่มสาวที่ต้องทำงานหาเงินทั้งเรียนและส่งที่บ้าน ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำในการเยียวยาหมู่บ้านหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในเนปาล สาวน้อยผู้มีเสียงชวนหลงใหลที่ใฝ่ฝันไปอเมริกาในฐานะศิลปินเอก และแม้แต่ไกด์และล่ามที่ติดตามคณะของเป็นเอกเองก็ล้วนมีมุมมองต่อความเป็นเมืองความเจริญ กับความเป็นธรรมชาติและสัมผัสจิตวิญญาณของทวยเทพ ได้อย่างน่าสนใจ

ทั้งหมดนี้เป็นเอกใช้โครงสร้างการเล่าเรื่องผ่านสีทั้ง 5 สี คือ ฟ้า ขาว แดง เขียว และเหลือง อันเป็นสีธงที่สื่อถึงจิตวิญญาณแห่งขุนเขาของชาวทามัง ฟ้าคือท้องฟ้าและแผ่นดิน ขาวคือจิตใจอันบริสุทธิ์ แดงคือพลังในการมีชีวิต เขียวคือธรรมชาติและคำสอนของพุทธองค์ว่าด้วยการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ และเหลืองคือสายสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างผู้คน และผู้คนกับธรรมชาติ ซึ่งก็ได้ทำให้เห็นโครงเรื่องชัดเจนขึ้น แต่น่าเสียดายในการตีความบางเฉดสีไม่ชัดเจนนัก อาจเป็นสไตล์ที่เป็นเอกเรียกร้องให้ผู้ชมเข้าถึงด้วยปัญญาของตนเอง เฉกเช่นเดียวกับที่กัตลังไม่อาจมาหาเป็นเอกได้หากเขาไม่นั่งรถ 12 ชั่วโมงจากกาฐมาณฑุไปหา

ซึ่งสุดท้ายมันคือการเปรียบเปรยถึงความสุขทางจิตวิญญาณของผู้คนด้วย

หนังยังมีการถ่ายภาพที่สวยมาก แม้จะไม่ได้หวือหวาหรือชวนให้จดจำเป็นพิเศษ แต่ก็ผ่านฝีมือของ ทอม ทวี อดีตช่างภาพนิตยสารชื่อดังในนิวยอร์กที่ผันตัวมาทำหนัง ที่น่าชื่นชมคือแม้จะไม่ใช่กองถ่ายที่เครื่องมือครบครัน และเต็มไปด้วยอุปสรรคทางพื้นที่ที่แสนห่างไกลย่อมต้องมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่มาก แต่หนังกลับดูสวยและลื่นไหลไม่ต่างจากสารคดีหรือหนังดี ๆ เลยด้วย

แม้จะเป็นหนังสารคดีแสวงหาความสงบที่ชวนง่วงอยู่บ้าง แต่ก็มีส่วนที่ชอบของหนังหลายอย่างเหมือนกันครับ ในแง่แนวความคิดต่าง ๆ ที่เหล่าชาวเผ่าทามังดูเข้าใจชีวิตและโลกมากทีเดียว หลาย ๆ อย่างทำเอาทึ่ง และตกใจเหมือนกันครับ โดยเฉพาะเรื่องของวิทยาศาสตร์และความเชื่อที่ทำเอาเราแปลกใจดีเหมือนกัน เช่นคำพูดว่า “ที่เราต้องเผชิญแผ่นดินไหวนั้นเป็นประสงค์ของพระเจ้า แต่แผ่นดินไหวไม่ได้ฆ่าเรา สิ่งที่ฆ่าเราคือสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์อย่างเราสร้างขึ้นต่างหาก” หนังยังมีคู่ความขัดแย้งที่น่าสนใจหลายประเด็นให้คิดตามด้วย ทั้งมนุษย์กับเทพ มนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับธรรมชาติ ธรรมชาติกับเทพ และมนุษย์กับรัฐ ทำให้หนังมีหัวใจที่น่าติดตามไปจนจบ

หนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลหนังยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์ภูเขานานาชาติแห่งกาฐมาณฑุ และเข้าฉายแบบรอบจำกัดจำเขี่ยมากในไทยขณะนี้ ใครสนใจงานของเป็นเอกที่แตกต่างจากเคยก็แนะนำให้รีบดูก่อนจะออกจากโปรแกรมอย่างรวดเร็วครับ ถึงแม้ว่าหนังจะไม่เหมาะสำหรับคนทั่วไปนักก็ตาม

ไม่ต้องนั่งรถ 12 ชั่วโมงจากกาฐมาณฑุ ก็พบความสุขได้ในโรงแค่กดที่รูป

โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ทั้ง 8 สาขา

พารากอน ซีนีเพล็กซ์
ไอคอน ซีเนคอนิค (เริ่มวันที่ 5 ธันวาคมนี้)
เมกา ซีนีเพล็กซ์
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน
เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก
เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่