เรื่องย่อ
โจคยองมิน พนักงานธนาคารธรรมดาคนหนึ่งที่อาศัยอยู่คนเดียวในอพาร์ทเม้นท์ หลังจากเลิกงานเธอกลับมาที่ห้องและพบว่าฝาที่ล็อคประตูหน้าห้องของเธอถูกเปิดค้างไว้ เธอจึงเปลี่ยนรหัสผ่าน แต่แล้วในคืนนั้นเธอกลับได้ยินเสียงบางอย่างที่หน้าห้องของเธอ ‘ติ๊ด-ติ๊ด-ติ๊ด-ติ๊ด รหัสผ่านผิดพลาด’ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คยองมินตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ แต่ตำรวจกลับรำคาญ และคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หลังจากนั้นไม่นานเธอพบร่องรอยการบุกรุกของคนแปลกหน้า ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดคดีฆาตกรรมที่น่าสงสัย เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยอีกแล้ว เธอจึงตามสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตัวของเธอเอง
“ฝาที่ล็อคประตูที่เปิดค้างไว้ แผงกดรหัสผ่านที่เต็มไปด้วยลายนิ้วมือ ตัวบุหรี่ที่ตกอยู่หน้าห้อง ห้องที่เคยอาศัยอยู่เพียงคนเดียว กลับมีใครบางคนซ่อนตัวอยู่!”
เป็นอีกหนึ่งแนวหนังที่เกาหลีมักทำออกมาได้เข้มข้นน่าติดตาม กับแนวระทึกขวัญ แต่น่าเสียดายที่นาน ๆ ที่จะมีเข้ามาฉายในบ้านเรา และสำหรับเรื่องนี้ Door Lock ห้องหลอนปริศนา ก็เป็นแนวระทึกขวัญประเภท สตอล์ก หรือโรคจิตสะกดรอยตาม แต่ระดับความคุกคามนั้นเรียกว่าสั่นสะเทือนมาก ๆ เพราะเข้ามาประชิดกันถึงอยู่ในห้องโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัวกันเลย
นี่เป็นผลงานของผู้กำกับ ควอนลี ที่ถนัดมาจากงานสายคอเมดี้ดราม่าอย่างเรื่อง My Ordinary Love Story (2014) และจะว่าไปก็ผ่านงานมาเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น นี่จึงคือการทดลองมาทำสายเข้มขังจริงจังอย่างเต็มตัวครั้งแรก ความน่าสนใจน่าจะอยู่ที่การมาแสดงนำของ กงเฮียวจิน นักแสดงมากฝีมือคนหนึ่งของเกาหลีที่ต้องมารับบทยากบทหนึ่งทีเดียว
เราอาจจะคุ้นชินกับหนังแนวผู้หญิงที่ต้องตกเป็นเหยื่ออยู่บ่อยครั้ง และจุดที่เราเฝ้ารอคือความสะใจในช่วงหลังที่ตัวละครจะสู้กลับและเอาคืน แต่ทว่าหนังเรื่องนี้เป็นการจำลองโลกของผู้หญิงในแบบที่สะท้อนความจริงมากทีเดียว เพราะตัวละครเหยื่อนั้นตกอยู่ใต้ความหวาดกลัวผู้ชายทุกคนที่อยู่ในเรื่อง ไม่เพียงว่าเมื่อเกิดเรื่องราวขึ้น ในฉากเปิดเรื่องเราเห็นความกดดันของสภาพความเป็นหญิงภายในโลกของผู้ชายเป็นใหญ่ ตัวละครหญิงตอนเปิดเรื่องนั่งขดตัวหลบตาในรถไฟฟ้า หวาดระแวงยามเดินในซอยกลับบ้าน แม้แต่เมื่อเข้าห้องที่น่าจะเป็นพื้นที่่ส่วนตัว มันก็ยังไม่รอดพ้นการถูกจ้องมองและคุกคาม
และเมื่อเนื้อเรื่องเข้าสู่ตัวละครหลักที่กงเฮียวจินแสดงนำ เราจะยิ่งอึดอัดกับความเป็นเหยื่อในกรงขังขนาดใหญ่ของผู้ชาย ทั้งชายที่ชอบแอบตามเธอมาที่ทำงาน เจ้านายที่เหมือนจะสนใจเธอเป็นพิเศษ ตลอดจนคนรอบตัวที่เป็นผู้ชายอื่น ๆ อย่างตำรวจที่เธอแจ้งความด้วย คนเฝ้าตึกที่เธอเช่า เพื่อนบ้านที่ไม่รู้ว่าใครบ้างเพราะไม่เคยทักทายรู้จักมักคุ้น เธอเป็นตัวแทนผู้หญิงที่ถูกกระทำทั้งทางตรงและอ้อม ทั้งทางกาย วาจาและจิตใจอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ตอนที่เป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเธอก็เพียงผู้หญิงธรรมดาที่สั่นกลัวและตัดสินใจได้อย่างไม่ชาญฉลาด ที่อ่อนแอจนบางทีเรารำคาญและทุกข์ทรมานแทน แต่ท่ามกลางความหงุดหงิดขณะชมเราก็ต้องกลับมามองว่า นี่ล่ะผู้หญิงในโลกความเป็นจริงที่เวลาเผชิญอันตรายเขาไร้ทางสู้ขนาดไหน ไม่มีหรอกฮีโรหญิงใจบู๊แบบในหนัง ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นความเด่นของหนังที่ปรากฏชัดมาก ผิวเผินเหมือนจุดด้อยในการเล่าเรื่อง แต่กลับเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่คิดแบบหัวใจผู้หญิงทั่วไป
และทางออกของหนังต่อคำตอบนั้นก็ออกจะเป็นว่า การที่ผู้หญิงจะเอาชีวิตรอดได้ ต้องกระทำตัวเสมือนชาย หรือนำอำนาจผู้ชายมาใส่สวมอีกที เช่นเดียวกับที่ตัวละครเอกจัดห้องให้มีอุปกรณ์หรือเครื่องแต่งกายของใช้ผู้ชายอยู่ทั่วไปหมดทั้งที่เธออยู่ลำพังเพื่อหลอกผู้ชายอื่น ๆ ว่าเธอมีผู้พิทักษ์ และในขณะตัวละครสมทบอย่างรุ่นน้องนางเอกที่กล้าชนกับอันตรายทั้งหลายก็ถูกนำเสนอในแบบหญิงห้าว หรือออกจะทอมบอยเสียด้วยซ้ำ ก็มีมุมการวิพากษ์ที่น่าสนใจทีเดียว
แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่าหนังพยายามสร้างลีลาหลอกล่อผู้ชม ทั้งหักมุม สร้างกลยักย้ายตัวร้ายไปมาจนดูน่าสับสน และเมื่อคิดตรองให้ดีก็พบว่าสอบตกยับเยินในฐานะหนังปริศนาที่ต้องมีตรรกะความสมเหตุสมผลที่ดีในการปะติดปะต่อเรื่องราวหลายเส้นเรื่องให้สู่บทสรุปที่ไม่สร้างความสงสัยต่อไปให้ผู้ชม และน่าจะเป็นจุดอ่อนเดียวจริง ๆ ของหนัง แต่ก็มากพอที่จะทำให้หนังถูกตัดเกรดตกไป 1 ขั้นทีเดียว แต่ในด้านความเป็นหนังระทึกขวัญก็ต้องยอมรับว่าไม่น่าเบื่อ มีมุกการสร้างสถานการณ์คอยกระตุ้นทั้งความอยากรู้และการเอาใจช่วยตัวละครอยู่ตลอดเวลา ถือว่าดูสนุกอยู่เหมือนกัน
ประตูยังมีล็อกรหัส แต่ซื้อบัตรแค่กดที่รูป ง่ายจัง