Our score
9.6SHAZAM!
จุดเด่น
- เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีหัวใจเป็นเรื่องครอบครัวเลยดูแล้วอบอุ่นมาก
- แซคคารี เลวี่ เล่นดีมาก ฮามาก และน่ารักมาก
- หนังมีเซอร์ไพรส์ชวนกรี๊ดเพียบ
จุดสังเกต
- หนังมีเอนด์เครดิต 2 ตัวควรดูเป็นอย่างยิ่ง อย่าดื่มน้ำเยอะน้าาาา
-
ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท
9.0
-
คุณภาพงานสร้าง
10.0
-
ความสนุก
10.0
-
ความแปลกใหม่
9.0
-
ความคุ้มค่าตั๋ว
10.0
เรื่องที่ี่ีเหลือเชื่อมากอย่างหนึ่งคือชื่อเดิมของ Shazam! ฉบับคอมิกคือ Captain Marvel ก่อนที่สำนักพิมพ์เดิมจะปิดตัวและกว่าดีซีจะไปซื้อลิขสิทธิ์มาได้ก็ถูกปู่สแตน ลี ชิงตัดหน้าทำคอมิก Captain Marvel ไปก่อนจนต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Shazam! อย่างที่เห็น ซึ่งฉบับภาพยนตร์ก็ดันฉายไล่เลี่ยกันเสียด้วยจนเหมือนนัดกันมาแข่งอีกรอบแหนะ ฮ่าาาา และเซอร์ไพรส์อีกต่อที่ ดีซี ไปยืมตัวเดวิด เอฟ แซนด์เบิร์ก ผู้กำกับหนังสยองทั้ง Light Out และ Annabelle Creation มากำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่สายฮาเรื่องนี้ ซึ่งเขาก็พิสูจน์ฝีมือได้ยิ่งกว่าสอบผ่าน เพราะสามารถเอาหนังฮีโร่โทนเบาสมองที่มีปมครอบครัวเป็นแกนกลางได้อย่างลงตัว ทั้งสนุก ฮาเป็นบ้าเป็นหลัง ที่สำคัญคือปมดราม่ากันครอบครัวทำได้หนักแน่นจนเราอดอมยิ้มไปกับเรื่องราวและปมความสัมพันธ์ในครอบครัวอุปถัมภ์ได้เอ็นจอยไม่แพ้ความมันส์ของศึกพลังเวทย์ในเรื่องเลย ซึ่งก็คงต้องชมทีมเขียนบททั้ง เฮนรี เกย์เดน และ แดเรน แลมเก้ ที่สามารถผสมผสานดราม่าครอบครัวกับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่เบาสมองได้อย่างกลมกล่อม
โดยหนังพูดถึงปมครอบครัวได้อย่างน่าสนใจ โดยฉากเปิดหนังนำเสนอเหตุการณ์ที่บอกถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวหนึ่งคือ ครอบครัวของแธด หรือ แธเดียสที่ไม่เคยมีใครในครอบครัวเห็นหัวและยิ่งถูกปฏิเสธการถ่ายทอดพลังชาแซมก็ยิ่งเป็นเชื้อไฟแค้นชั้นดีที่ทำให้เขาดำเนินแผนชั่วในเวลาต่อมาเพื่อหวังเอาพลังอำนาจมาถมช่องว่างในใจตนเอง ส่วนบิลลี แบตสัน หนังให้เรารู้จักเขาจากพฤติกรรมสุดแสบแต่พอเราได้เห็นเรื่องราวเบื้องหลังความขบถ ความดื้อดึงต่างๆมาจากปมที่ตนพลัดหลงกับแม่ในวัยเด็ก จนต้องออกตามหาแม่ เพื่อที่ว่าตนจะได้มีครอบครัวจริงๆ โดยไม่รู้เลยว่าเขาได้มีโอกาสเจอบ้านและครอบครัวที่แท้จริงแล้ว ซึ่งการมาอยู่บ้านของครอบครัวมิลานก็ยิ่งทำให้ความหมายของครอบครัวดูใหญ่โตและมีความเป็นมหภาคมากขึ้นเพราะเด็กที่อุปการะมีตั้งแต่เด็กละติน เด็กเอเซีย เด็กสาวผิวสี ไปจนเด็กพิการอย่างเฟรดดี้ แถมพ่อแม่บุญธรรมก็ยังเป็นคนละเชื้อสายกันอีก เรียกได้ว่าคำว่าครอบครัวสำหรับบ้านนี้อาจหมายถึงสหรัฐอเมริกาโดยนัยยะก็มิปาน
โดยตัวหนังมีจุดที่น่าสนใจสำหรับคอหนังแบบไม่ต้องเป็นแฟนดีซีก็พอเข้าใจ คือหนังพยายามยกฮีโร่ดังของค่ายอย่าง แบทแมน และ ซูเปอร์แมน มาพูดถึงแทบทั้งเรื่อง มองเผินเราอาจเห็นแค่การเกาะกระแสฮีโร่เซเลปของค่าย แต่คิดดูดีๆ เฮ้ย จุดร่วมของทั้งแบทแมน ซูเปอร์แมน และ ชาแซม คือเริ่มจากการเป็นพวกหนีครอบครัว หรือ มีปมครอบครัวอันปวดร้าว จนกระทั่งได้เจอครอบครัวใหม่ที่ตนเองอาจกังขาจนพยายามหนีอยู่ตลอด แต่เอาเข้าจริงเมื่อขึ้นชื่อว่าครอบครัวแล้ว มันก็ต้องอยู่สู้กันไปจนถึงที่สุด โดยหนังใส่ฉากเอามือประสานกันบนโต๊ะอาหารที่ดูผ่านๆแทบคิดไม่ถึงเลยว่าต่อมามันจะมีความสำคัญกับเรื่องอย่างไร จนกระทั่งหนังเฉลยนี่แหละแทบกรี๊ดเลย และโดยปริยายมันก็ทำให้ Shazam! หลุดพ้นการเป็นเพียงหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เราได้แต่ดูพระเอกโชว์ความเก่งปราบปรามผู้ร้าย ทีละน้อยเรากลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวเรื่องครอบครัวของบิลลี่และมันยังทำให้ความหมายของพลังที่แท้จริงของหนังทั้งลึกซึ้ง อบอุ่นหัวใจ และแน่นอนเจ๋งเป็นบ้าเลย
และคนที่ทำให้ชาแซมมีชีวิตได้ก็คงหนีไม่พ้น แซคคารี เลวี ดาราหนุ่มจาก CHUCK ซีรีส์ตลกสุดดัง ซึ่งเลวี ก็รับบทเด็กในร่างผู้ใหญ่ได้อย่างมีเสน่ห์ทั้งตลกทั้งเท่จนน่าจะแจ้งเกิดในฐานะดาราหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้ไม่ยาก ส่วนนักแสดงเด็กๆในเรื่องก็ชวนให้หลงรักจริงๆ สาวๆอาจหลงหน้าหล่อๆของ แอชเชอร์ แองเจิล หรือ อยากกอด แจ๊ค ดีแลน เกรเซอร์ ซึ่งรับส่งบทกันอย่างลงตัว ส่วนบรรดาน้องๆหนูๆในบ้านอุปถัมภ์ก็น่ารักเหลือเกิน และยังมีเซอร์ไพรส์ที่เราบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆคอซีรีส์เน็ตฟลิกซ์สาวๆมีกรี๊ดแน่นอนตอนไคลแมกซ์ของเรื่อง ฮ่าาาาา.
สำหรับใครที่ไปคิดจะไปดู ชาแซม ขอเตือนเลยว่าหนังมีเซอร์ไพรส์เยอะมาก ที่สำคัญมี ฉากกลางเครดิต และ ท้ายเครดิตจ้า แถมดีงามทั้งสองตัวเลย ดังนั้นอย่าดื่มน้ำเยอะนะจ๊ะ เตือนแล้ว!
เอ่ยคำวิเศษรับมหึมาความมันส์พร้อมกันในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้ คลิกซื้อตั๋วเลย