[รีวิว] Snow Flower ชีวิตที่สั้นนั้นมีแค่เรา – แสงเหนือกับเพลงบิลต์ไม่ช่วยอะไรเลย
Our score
6.2

Snow Flower

จุดเด่น

  1. หนังลงทุนไปถ่ายฟินแลนด์ เลยได้ภาพสวยๆในหนังเยอะ
  2. อายามิ นาคาโจ แบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างน่าชื่นชม

จุดสังเกต

  1. บทหนังไม่ทำให้ความสัมพันธ์พระนางดูน่าเชื่อถือ
  2. พอหนังไปเล่าเรื่องที่ฟินแลนด์ การเล่าเรื่องก็เป๋ทันที
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    6.0

  • ความสมบูรณ์ของงานสร้าง

    8.0

  • ความแปลกใหม่

    4.0

  • ความสนุก ความซึ้งแบบหนังรัก

    6.0

  • ความคุ้มค่าตั๋ว

    7.0

ด้วยรู้ว่าเหลือเวลาบนโลกอีกไม่นาน มิยูกิ (อายามิ นาคาโจ) จึงขอทำตามปรารถนาด้วยการจ้าง ยูสุเกะ (ฮิโระอูมิ โทซากะ) มาเป็นแฟนชั่วคราว โดยปกปิดอาการป่วยของตนเองไว้ แต่ยิ่งนานวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับเกิดความรู้สึกดีๆให้กันจริงๆ แต่มิยูกิรู้ดีว่าหากยังรั้งยูสุเกะไว้ก็จะมีแต่เจ็บปวดหากเธอต้องจบชีวิตลง แล้วความรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร 

Play video

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

แรงบันดาลใจจากเพลง Yuki no Hana ของ มิกะ นากาชิม่า ได้กลายเป็นบทหนังจากฝีมือ โยชิคัตสุ โอคาดะ ที่หยิบทำนองหวานปนเศร้ามาถักทอเรื่องราวระหว่าง สาวขี้โรค กับ หนุ่มแบดบอย สไตล์การ์ตูนตาหวาน แต่ด้วยบทหนังที่ไม่ได้ให้เหตุปัจจัยมากพอว่าทำไมทั้งคู่ถึงเริ่มชอบพอและรักกันขึ้นมาจริงๆก็มีผลทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งยูสุเกะ และ มิยูกิ ขาดความน่าเชื่อถือ และพอคนดูไม่เชื่อแล้วก็ยิ่งยากเลยที่เราจะอินตาม เลยทำให้ Snow Flower กลายเป็นหนังรักที่เราไม่ลึกซึ้งกับมันแม้ในแง่ไหนก็ตาม 

 

 

 

ส่วนหนึ่งของความผิดพลาดน่าจะมาจากงานกำกับของ โคจิโระ ฮาชิโมโตะ ที่ไม่สามารถคุมจังหวะหนังให้อยู่ได้เลย ยอมรับนะครับว่าช่วงแรกที่หนังดำเนินเหตุการณ์ในญี่ปุ่น เราพอจะยิ้มปนอกตรมไปกับ มิยูกิ ได้บ้าง แต่พอหนังไปเล่าเหตุการณ์ที่ฟินแลนด์ ทีนี้อารมณ์และบีตของเหตุการณ์กลับมั่วซั่วมาก กลายเป็นแค่หนังส่งเสริมการท่องเที่ยวแถมพอจะทิ้งด้วยดราม่าเพื่อนำพาไปสู่จุดหักเห หนังกลับทิ้งคนดูไปดื้อๆ จนช่วงองก์สุดท้ายที่เราน่าจะได้น้ำตาไหลหรืออบอุ่นกับความรักทั้งคู่ เรากลับรู้สึกว่าเหตุการณ์มันยืดเยื้อแทน แม้หนังจะตอบแทนเราด้วยภาพแสงเหนือสวยๆก็ไม่อาจชดเชยให้เราได้อินกับหนังได้เลยแม้แต่นิดเดียว 

สิ่งที่พอจะชดเชยกับข้อผิดพลาดทั้งมวลได้เห็นจะเป็นการมีอยู่ของ อายามิ นาคาโจ ที่เล่นเป็นสาวป่วยสายเปย์ได้ทั้งน่ารักและน่าสงสาร จะใส่แว่นหรือถอดแว่นก็ดูดี แถมยังแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างน่าชื่นชม ส่วน ฮิโระอูมิ โทซากะ   ในบทยูสุเกะ อาจจะยังเล่นแข็งไปหน่อย เราเลยดูไม่ออกและไม่เชื่อว่าแบดบอยอย่างเขาจะรักสาวป่วยใกล้ตายเพราะอะไร ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆก็มาเพิ่มสีสันได้ดี ในช่วงที่หนังเดินเรื่องดรอปๆ พอตัดไปที่ตัวละครสมทบคือช่วยให้หนังสนุกขึ้นมาบ้างเลยทีเดียว 

อุ่นไอรักท่ามกลางบรรยากาศเมืองฟินแลนด์และแสงเหนืออันงดงามคลิกซื้อตั๋วเลย