Our score
6.0Always Be My Maybe
จุดเด่น
- หนังมีมุกให้ฮาอยู่ประปราย
- มี คีอานู รีฟส์ มารับเชิญขโมยซีนทำให้หนังสนุกขึ้น
จุดสังเกต
- บทยังไม่ลงตัวนัก
- นักแสดงนำยังไม่มีเสน่ห์มากพอ
- ไม่ค่อยรู้สึกถึงความโรแมนติกเท่าที่ควร
-
ตรรกะความสมเหตุสมผลของบท
6.0
-
คุณภาพนักแสดง
6.0
-
ความสนุก
6.0
-
คุณภาพงานสร้าง
6.0
-
คุ้มเวลา
6.0
ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือตั้งใจที่เน็ตฟลิกซ์เลือกปล่อยสตรีม Always Be My Maybe เพียงหนึ่งวันหลัง Long Shot หนังแนวดอกฟ้าหมาวัดเหมือนกันเข้าโรง แต่สิ่งที่ทำให้ Always Be My Maybe น่าสนใจเห็นจะไม่พ้นหน้าหนังขายขำที่เน้นดาราหน้าเอเซียตามหลังความสำเร็จทั้ง Crazy Rich Asians ของวอเนอร์ และ To All The Boys I’ve Loved Before ของเน็ตฟลิกซ์เองปีที่แล้ว โดยคราวนี้หนังได้ดารานำที่เชี่ยวชาญด้านคอเมดีโดยเฉพาะ เริ่มจาก อาลี หว่อง ที่มี BABY COBRA เดี่ยวไมโครโฟนทางเน็ตฟลิกซ์ที่เธอเคยแบกครรภ์ท้องโย้ปล่อยมุกใต้สะดือและไม่พ้นหว่างขาอย่างเผ็ดร้อนและฮากรามค้าง หรือจะเป็นแรนดัล พาร์ค นักแสดงตลกลูกครึ่งเกาหลีที่มักไปปรากฎตัวแว่บๆในหนังดัง (ใน Long Shot ก็ไปโผล่เป็นเจ้านาย เซธ โรเกน อยู่ 1 ซีนถ้วน555) เสริมทีมด้วยดารารับเชิญสุดฮอตอย่าง คีอานู รีฟ ที่ไปๆมาๆดันขโมยซีนดารานำไปเต็มๆซะงั้น ซึ่งจากองค์ประกอบที่ว่ามาหากหนังมีบทภาพยนตร์ที่ดีพอและการกำกับที่เข้าใจสไตล์หนังแบ่งส่วนความโรแมนติกเข้ากับตลกได้ดีก็คงได้หนังที่ดูน่าประทับใจได้ไม่ยาก แต่น่าเสียดายที่มันดันไม่เกิดขึ้นกับ Always Be My Maybe เรื่องนี้
ปัญหาสำคัญประการแรกคือหนังดันให้ที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ทั้งคู่ไม่มากพอ พ้นจากตอนเด็กแล้วเรากลับได้ข้อมูลเพียงว่าทั้งคู่มีปัญหาต้องห่างกันไปหลังฝ่ายชายทำตัวน่ารังเกียจหลังทั้งคู่เพิ่งมีเซ็กส์กันหลังเบาะรถ ดังนั้นการกลับมาเจอกันในปัจจุบัน เราเลยแทบมีข้อมูลอ้างอิงความสัมพันธ์ทั้งคู่ได้น้อยมาก ตอนที่ มาร์คัส พยายามรื้อฟื้นเรื่องเซ็กส์เบาะหลังเลยไม่ทำงานเท่าที่ควร ยิ่งหลังจากซาช่าเริ่มมีใจให้มาร์คัส หนังก็หลับหูหลับตาเล่าเรื่องความสัมพันธ์ต่างชนชั้นแบบไร้อารมณ์ร่วม จนช่วงไคลแมกซ์กลายเป็นซีนที่จืดชืดที่สุดทั้งที่มันควรเป็นไฮไลต์ให้กับหนังรักเป็นที่จดจำ
อีกปัญหาที่เห็นได้ชัดคือภาพรวมการแสดงที่ไม่ได้สอดประสานหรือกลมกลืนกันเลย อาลี หว่อง ในเรื่องก็ยังแสดงเป็น อาลี หว่อง มากกว่า ซาช่า เรียกง่ายๆว่านอกจากซีนทำอาหารประมาณ 2 ซีนแล้วที่เหลือก็คือ อาลี หว่อง ปล่อยมุกใต้สะดือคล้ายในเดี่ยวไมโครโฟนนั่นแหละ ส่วนแรนดัล พาร์คที่ได้บทพระเอกเรากลับมองว่าถ้าบทส่งจริงๆ เขาแจ้งเกิดได้ไม่ยากเลย แต่น่าสงสารที่นอกจากซีนร้องเพลงในผับแล้ว ก็ยังไม่เห็นเสน่ห์ที่มากพอในการดึงนางเอกให้เปลี่ยนใจจากคีอานู รีฟส์ มาเป็นเขาเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับ คีอานู รีฟส์ ที่ปล่อยลูกบ้าเต็มที่ทำให้ช่วง 2 ซีนที่เขารับเชิญมากลายเป็นช่วงเวลาที่ฮาป่วนและสนุกที่สุดของหนังเลยก็ว่าได้
ใครสนใจชมตามได้เลยทาง Netflix (คลิกเพื่อชมภาพยนตร์ได้เลย)