หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี Toy Story 4 ระบบ IMAX3D
Our score
9.8

Toy Story 4 ระบบ IMAX3D

จุดเด่น

  1. หนังมีฉากที่่เหมาะกับการดู IMAX อยู่หลายฉาก
  2. มีการมิกซ์เสียงสำหรับโรง IMAX โดยเฉพาะได้เสียงกระหึ่มสะใจ
  3. ภาพ 3 มิติคือดีงามมาก

จุดสังเกต

  1. ไม่มีฉากขยายสำหรับจอ IMAX
  • เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX3D

    9.0

  • มิติภาพด้านลึก

    10.0

  • ภาพเด้งทะลุจอ

    10.0

  • ถอดแว่นมองภาพเบลอ

    10.0

  • ความปลอดภัยต่ออาการเวียนศีรษะ

    10.0

ทิ้งห่างจากภาคที่แล้วถึง 9 ปี ในที่สุด วูดดี้ บัซ ไลต์เยียร์ และผองเพื่อนก็กลับมาเพื่อสร้างความประทับใจอีกเป็นคำรบที่ 4 ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนเหมือนกันว่าจะเป็นภาคสุดท้ายหรือไม่ แต่แฟนของ Toy Story ก็คงพร้อมจะอุดหนุนอยู่แล้ว และยิ่งหนังเข้าฉายในระบบ IMAX3D ก็ยิ่งน่าพิสูจน์เข้าไปใหญ่ เพราะหนัง Toy Story 3 ภาคก่อนมีคนบ่นเรื่องระบบ 3 มิติกันเยอะมาก แต่เอาล่ะยังไง หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี ก็ขอรีวิวแบบละเอียดเช่นเคย 

Play video

เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX3D

จากข้อมูลด้านเทคนิคบนเว็บไซต์ IMDB จะพบว่า Toy Story 4 มีอัตราส่วนภาพเดียวคือ 2.39:1 โดยไม่ได้ระบุว่ามีฉากขยายสำหรับ IMAX หรือไม่ แต่เท่าที่ผมดูหนังจะมีอัตราส่วนเดียวทั้งเรื่อง  แต่จุดที่ทำให้มันเหมาะแก่การดู IMAX จริงๆเห็นจะเป็นระบบเสียง โดยนอกจากแบบ IMAX 6 แทร็กแล้ว หนังยังมีการมิกซ์เสียงในระบบ SONICS – DDP (IMAX Version) ซึ่งถือเป็นระบบเสียงที่ละเอียดที่สุด โดยขออนุญาติเทียบกับเวอร์ชัน IMAX 70 มม.ที่เป็นการฉายด้วยฟิล์ม หนังเรื่องนึงจะต้องใช้ CDเสียงถึง 3 แผ่นเล่นพร้อมกันเพื่อให้ได้เสียงที่ไม่บีบอัด ดังนั้นจึงการันตีได้เลยว่าระบบเสียงของ Toy Story 4 ในระบบ IMAX3D จะสะใจแน่นอน อีกทั้งตัวหนังเองก็เหมาะกับการดูจอใหญ่เพราะหนังชุด Toy Story เองก็มีงานภาพที่ใหญ่โตไปได้ดีกับเรื่องราวการผจญภัยของของเล่นแสนรักของพวกเราได้อย่างตื่นตาตื่นใจเชียว สำหรับข้อนี้ขอให้คะแนนที่ 9 คะแนน

มิติภาพด้านลึก

การที่หนังมีการแปลงภาพเป็น 3 มิติ ผลลัพธ์เบื้องต้นคือการที่หนังจะได้รับการนำเสนองานภาพที่มีความลึกระหว่างฉากหน้ากับฉากหลัง และก็ไม่ผิดหวังเลยกับงานภาพ 3 มิติของ Toy Story 4 ที่ต้องบอกว่ามีมิติเห็นตัวละครในฉากหน้ากับฉากหลังที่มีความลึกดูสมจริงอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ในฉากกลางคืนที่หนังก็ไม่ให้มิติภาพตกหล่นเห็นความลึกได้อย่างสวยงามเช่นกัน ดังนั้นขอให้คะแนน 10 คะแนนเต็มไปเลย

มิติภาพเด้งทะลุจอ

เอาล่ะแล้วก็มาถึงแผลเก่าสมัย Toy Story 3 เข้าฉายในระบบ IMAX3D ที่เคยสร้างความผิดหวังให้ผมเมื่อ 9 ปีก่อน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่าสำหรับ Toy Story 4 กลับพลิกเกมมาเอาชนะใจผมได้สำหรับข้อนี้ เพราะการที่เราจะเลือกดูหนัง 3 มิติสักเรื่องก็ย่อมต้องการเห็นภาพมันเด้งทะลุจอออกมาและหนังก็ทำได้ดีในหลายๆ ฉาก ทั้งฉากการผจญภัยระหว่าง วูดดี้ และ ฟอร์กี้ หรือตอน บัซ ไลต์เยียร์ สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ก็เห็นพี่บัซบินปาดหน้าเราดูน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ รวมไปถึงฉากเด็ดท้ายเรื่องโดย ดุค คาบูม (คีอานู รีฟให้เสียงพากย์) กับฉากขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนที่ต้องบอกว่าทำเอาทั้งโรงฟินไปตามๆ กัน ดังนั้นข้อนี้ขอให้ 10 คะแนนเต็มไปเลย

ถอดแว่นมองภาพเบลอ

การพิสูจน์หนัง 3 มิติว่าเป็นของแท้หรือไม่ คือการเห็นภาพซ้อนกันตอนถอดแว่น 3 มิติออก และสำหรับ Toy Story 4 ก็หายห่วงจากการถอดแว่นดูหนังก็พบว่าทุกเฟรมภาพไม่มีการแทรกภาพ 2 มิติมาเลย แสดงถึงความตั้งใจของทางพิกซาร์ในการทำหนังออกมาเป็น 3 มิติแท้ๆ ดังนั้นจึงขอให้คะแนนที่ 10 คะแนนเต็มเช่นกัน

ความปลอดภัยต่ออาการวิงเวียนศีรษะ

หลายคนไม่กล้าดูหนัง 3 มิติเพราะกลัวว่าดูไปนานๆจะมีอาการปวดตา วิงเวียนศีรษะ แต่ขอให้สบายใจได้เลยเพราะ Toy Story 4 ไม่มีการเปลี่ยนภาพเร็วๆ หรือมุมภาพ การเคลื่อนกล้องแบบเหวี่ยงไปมาชวนปวดหัวแม้หนังจะมีฉากแอ็คชั่นที่ดูผาดโผนอยู่บ้างก็ตาม จึงทำให้หนังได้คะแนนปิดท้ายไปที่ 10 คะแนนเช่นกัน

สรุปเลยคุ้มไม่คุ้ม

สำหรับราคาตั๋วโรง IMAX สาขาพารากอนซีนีเพล็กซ์จะเริ่มต้นที่ 400 บาทสำหรับที่นั่งเพรสทิจ เนื่องจากเป็นระบบ IMAX 3D ซึ่งก็ถือเป็นราคาที่สูงอยู่เหมือนกัน สำหรับการมาดูหนังเรื่องเดียวแล้วเสียเงินถึงครึ่งพัน ซึ่งสำหรับข้อดีของหนังคือมีระบบภาพ 3 มิติที่ค่อนข้างเวิร์คและระบบเสียงที่ดีเยี่ยมในระบบ SONICS – DDP (IMAX Version) และตัวหนังเองก็เหมาะกับการดูจอใหญ่ๆเพื่อให้ซึมซับการผจญภัยของตัวละครอันเป็นที่ระลึก แต่อาจขัดใจตรงอัตราส่วนภาพที่ไม่ได้ฉากขยายสำหรับจอ IMAX เท่านั้นเองครับ