Our score
5.0หลวงตามหาเฮง
จุดเด่น
- มุกตลกไม่ขำดี ทำให้รู้สึกจิตใจสงบ
- ดราม่าไม่ค่อยน่าเชื่อดี ทำให้จิตใจรู้สึกสงบ
- ตรรกะของหนังแสดงความไม่แน่นอนของมนุษย์ดี เข้าถึงหลักธรรม
- ดารารับเชิญเยอะดี ประเด็นสังคมเยอะดี เน้นบันทึกร่วมสมัยไม่เน้นวิพากษ์อะไร ทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
- ดูจบไม่มีอะไรติดหัวดี สมองปลอดโปร่งจิตใจไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เหมือนเวลาดูหนังดีเรื่องอื่นเลย
จุดสังเกต
- เสียดายไม่มีมุกกัญชา เพราะพี่พชร์อุตส่าห์ทดลองเองเกือบตายเสียก่อน
- มีความไม่สมจริงบ้าง โดยเฉพาะเรื่องเวลาหวยออกแค่ 2-3 รอบ แต่เรื่องเหมือนผ่านไป 2-3 ปี
- หนุ่มหุ่นแน่น ๆ หน้าใส ๆ เยอะไป ดูแล้วบางคนจิตใจว้าวุ่นได้ ไม่ชวนสงบเลย
- จากข้อข้างบน หนังขาดแคลนสาว ๆ สวย ๆ เช่นกัน ผู้ชายดูจะจิตสงบเกินไปจนอาจเผลอนอนสมาธิได้
-
ตรรกะความสมบูรณ์ของบท
5.0
-
คุณภาพงานแสดง
5.0
-
คุณภาพโปรดักชั่น การผลิต ความแปลกใหม่
5.0
-
ความสนุก น่าประทับใจ
5.0
-
ความคุ้มค่าตั๋ว
5.0
***คะแนนหนังที่ให้ 5/10 นั้น เพื่อสะท้อนหัวใจแห่งสายกลางของพุทธศาสนา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณภาพหนังใด ๆ ทั้งสิ้น***
เรื่องย่อ
หลวงตามหาเฮง เรื่องราวของหลวงตาใจดีแห่งโคกอีรวย ที่ให้โชคลาภด้วยเลขเด็ดเลขดีแก่ญาติโยมแบบไม่ตั้งใจเสมอ ภาพยนตร์สุดฮาสอดแทรกธรรมะ นำแสดงโดย น้าค่อม ชวนชื่น รับบทหลวงตา
หนังจากค่าย มูฟวี่ฮีโร่ และค่ายใหม่อย่าง 15ค่ำเดือน6 ที่มักขยันสร้างหนังไทยป้อนตลาดมาเสมอ โดยเฉพาะหนังสายตลกบวกพระก็กลายเป็นเทรนด์ที่มีทำกันมาต่อเนื่อง นับจากหนัง หลวงพี่เท่ง ของค่ายพระนครฟิล์มปลุกกระแสหนังแนวนี้จนได้ทะลุ 100 ล้านบาทไป และสำหรับ หลวงตามหาเฮง นี้ที่พิเศษแตกต่างจากหนังเรื่องอื่น ๆ คงเป็นการนำจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนาอันสงบลงมาอยู่ในเนื้อแท้แห่งหนังได้อย่างยากปฏิเสธ
หนังเล่าเรื่องของหมู่บ้านโคกอีรวย ที่ชาวบ้านชาวช่องนิยมเล่นหวยใต้ดินบนดินกันทุกหัวระแหง โดยมี 2 คุณนายเพื่อนซี้ (สุนารี ราชสีมา และอาภาพร นครสวรรค์) เป็นเจ้ามือรับแทงหวยใต้ดินรายใหญ่ที่สุด ในขณะที่ลูกศิษย์วัดของหลวงตาทั้ง 3 นาย (คุณาธิป ปิ่นประดับ, ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์, กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย) ก็ถือเป็นแผนกขายฉลากกินแบ่งรัฐบาลที่สำคัญของหมู่บ้าน โดยเรื่องเริ่มมีปัญหาเมื่อชาวบ้านต่างไปทำบุญเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชาฟังเทศน์ฟังธรรมตามปกติ แล้วไปตีคำสอนของหลวงตาอันเป็นที่เคารพรักของชุมชน (ค่อม ชวนชื่น) กลายมาเป็นเลข 3 ตัว แล้วถูกหวยกันถ้วนทั่ว รอบแรกยังพอทนแต่ชักรอบสองรอบสาม เจ้ามือหวยอย่าง 2 เจ๊ชักอดรนทนไม่ได้ต้องจ้างนักเลงหัวไม้ (โรเบิร์ต สายควัน, บอล เชิญยิ้ม) ไปจัดการทั้งลักพาตัวหลวงตาไปซ่อนให้พ้นวันหวยออก และถึงขนาดหาทางใส่ร้ายให้หลวงตาอยู่หมู่บ้านโคกอีรวยไม่ได้อีกต่อไป ร้อนถึงเหล่าลูกศิษย์วัดทั้งสามที่ต่างมีปมปัญหาชีวิตต่างกันต้องร่วมมือกับลูกชายสายรักดีของทั้ง 2 คุณนาย (ฐกฤต ตวันพงค์, ชนาธิป โพธิ์ทองคำ) ในการกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงตากลับมาอีกครั้ง
หนังดูจะเทให้ปมเรื่องความรักหลงในโชคลาภอย่างงมงายของชาวไทยเป็นประเด็นหลัก โดยใช้การดำเนินเรื่องแบบมีโครงเรื่องหลักตามที่เล่าด้านบน และซับพล็อตตามแต่นึกออก ถ้ารู้สึกว่าน่าจะตลกก็ยัดลงมาก่อน แล้วให้นักแสดงช่วยกันเล่นไปให้มันตลกขึ้นมาเอง สำเร็จบ้างไม่สำเร็จมากก็ว่าไป จุดเด่นสำคัญของหนัง นอกจากการสอนเรื่องธรรมะของหลวงตาที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำสอนเดียวรีสเตจเอาเป็นร้อยรอบตลอดเรื่องที่ว่า คนเราใช้ชีวิตอยู่แค่ 3 วัน คือเมื่อวาน วันนี้ แล้วก็พรุ่งนี้ ก็คงเป็นการดึงดารามากหน้าหลายตามาทั้งเล่นหลักเล่นเสริม เล่นรับเชิญมากมาย โดยเฉพาะที่ดังขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตมีคนติดตามเยอะ ๆ ซึ่งก็เป็นกลยุทธตามแบบฉบับของเจ้าของค่ายหนังมูฟวี่ฮีโร่อย่าง พชร์ อานนท์ ที่ช่วยให้หนังมีกระแสได้มานักต่อนักแล้ว (เสียดายว่าหนังไม่ได้ล้อเรื่อง กัญชาที่กำลังดัง เพราะพี่พชร์เพิ่งถูกหามเข้าโรงพยาบาลหลังทดลองหยดย้ำมันกัญชาจนเกือบตายเมื่อปลายเดือนก่อน)
นอกจากเรื่องนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตามากมาย ก็ยังมีองค์ประกอบร่วมสมัยสอดแทรกอยู่มากมายทั้งเรื่อง ความนิยมชมชอบต่อทหารตำรวจเป็นพิเศษ เรื่องของอันธพาลที่บุกตีกันในโรงพยาบาล เรื่องยาเสพติดที่เข้าคุกคามเยาวชนที่อยากลองอย่างง่ายดาย เรื่องความเชื่อในพญานาคที่ฮิตมากในยุคหวยครองเมือง หรือเรื่องของความหลากหลายทั้งเรื่องเพศ (เพศที่สาม) เรื่องวัย (เด็กหนุ่มกับสาวแก่) คนพิการ (ขาขาด) เด็กถูกทิ้ง เมียฝรั่ง และประเด็นในสังคมเรื่องอื่น ๆ ก็ถูกนำเสนออยู่โดยตลอด นับว่าอินเทรนด์เกาะทั้งกระแสไทย กระแสโลกทีเดียว
มาถึงจุดที่ชื่นชอบมากของหนังคงเป็นการนำจิตวิญญาณแบบพุทธมาถ่ายทอดได้อย่างลงแก่นของการนำเสนอ หนังเรื่องนี้ราบเรียบ ไปเรื่อย ๆ ตลกก็ไม่ขำ ดราม่าก็ไม่เศร้า เส้นอารมณ์เราจะนิ่งดั่งผืนน้ำที่สงบไร้ลมหรือสิ่งใดมาระคาย ดั่งได้ชมกระแสจิตของผู้นั่งสมาธิญาณขั้นสูงก็ไม่ปาน
ในขณะที่ธรรมะก็มีเพียงคำสอน 1-2 คำสอน ก็มากเพียงพอ เยอะไปจำไม่ได้ก็เท่านั้น น้อย ๆ แต่เน้น ๆ ย่อมดีกว่า ไม่ว่าจะคำพูดติดปากของหลวงตาที่บอกไปด้านบน หรือเรื่องสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำสิ่งใดไว้ก็ย่อมรับผลในสิ่งนั้น นอกจากนี้หนังมีจุดหักมุมที่ทำให้ระลึกว่าสิ่งใด ๆ ก็ล้วนไม่แน่นอนอย่าดำรงตนในความไม่ประมาทอย่างการวิ่งผ่านถนนแบบไม่สนใจว่ารถวิ่งไปมาราว Fast and Furious 9 และผู้สร้างก็ไม่ให้เราต้องดิ่งดราม่ายาวนาน ก็จะหักมุมกู้อารมณ์กลับมาปกติอีกหลายคราเพื่อบอกว่า มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง ไม่ควรดีใจ เสียใจ ปล่อยอารมณ์ไหลไปตามสิ่งที่เข้ามายั่วยุจนเกินไป สิ่งใดที่จะเกิดมันก็เกิดของมันเช่นนั้นเอง เช่นเดียวกับบทสรุปทั้งหลายทั้งพล็อตหลักพล็อตรองของหนังที่ไม่ต้องไปคำนึงถึงเหตุผลมากนัก เพราะโลกคือความไม่แน่นอน อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันเกิดไป หนังจบ เดินเข้าห้องน้ำ กลับบ้าน อาบน้ำ ทานข้าว เข้านอน ตื่นมาก็ใช้ชีวิตกันต่อไป
หนังมีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่นว่าพระพทุธเจ้าสอนไม่ให้พูดจาเลอะเทอะเลื่อนลอยหาประโยชน์ไม่ได้ แต่เรื่องนี้ไม่ค่อยเน้นเรื่องนี้ หลวงตาก็ปากว่าไม่สนับสนุนความงมงายแต่ก็สนับสนุนลูกศิษย์ลูกหาขายล็อตเตอรี่ เห็นแกล้งตาบอดขายของก็ไม่ได้ดุด่าอะไรสนับสนุนให้หลอกชาวบ้านต่อไปอีก แถมหลวงตาเองโกหกก็บ่อยทั้งว่าไม่รู้ว่าหวย 30 ล้านหายไปไหนทั้งที่รู้มาตลอด หรือเรื่องหลวงตาชอบล่มเรือแกล้งลูกศิษย์ขาด้วนแกล้งลูกหมาวัดให้จมน้ำเล่นก็บ่อย ดูหลาย ๆ อย่างจริง ๆ ก็ไม่ได้น่านับถืออะไรเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเมื่อเทียบกับพระปลอมทั้งหลายในข่าวเมืองไทยที่ทำเดรัจฉานกับศาสนามากกว่านี้เสียอีก
หนังพุทธราวนอนสมาธิแบบนี้ต้องดูวันพุธเลย นี่สิหนังพุธที่แท้ทรู
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส